เราอาจผ่านตาภาพแบรนด์เล็ก ๆ ที่ไม่มีหน้าร้าน ไม่มีคลังสินค้า แต่ขายของผ่าน TikTok ได้ยอดขายเป็นล้านต่อเดือน หรือร้านชานมเปิดใหม่ที่ต่อคิวยาวกว่าร้านอาหารเจ้าดังที่อยู่มาหลายสิบปี หรือแฟชั่นแบรนด์จากเซี่ยงไฮ้ที่หน้าตาเหมือนเกาหลี ญี่ปุ่น แต่มาจากจีนแท้ ๆ
ปรากฏการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือ ‘วัฏจักรใหม่’ ของโลกธุรกิจ ที่กำลังเปลี่ยนจากรากถึงยอด ตั้งแต่แบรนด์เล็กไปจนถึงเจ้าสัว
1. ไลฟ์สไตล์แบรนด์จากจีนคือสิ่งที่ต้องจับตา
แบรนด์จีนยุคใหม่ไม่ได้มาในคราบของสินค้าราคาถูกอีกแล้ว แต่คือแบรนด์ที่มีสไตล์ มีเรื่องเล่า และมี Supply Chain ที่แข็งแกร่งในมือ
เช่น Chagee แบรนด์ชานมพรีเมียมจากจีน ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq และขยายสาขาในจีนมากกว่า 6,600 แห่ง ล่าสุดเริ่มรุกตลาดไทยผ่านการร่วมทุนกับ Mad Unicorn บริษัทของคุณคมสันต์ แซ่ลี และ Thai President Foods เจ้าของแบรนด์มาม่า ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอาหาร รวมถึงบริษัทอสังหาฯ อย่างอนันดา
หรืออย่าง Tagi จากเซี่ยงไฮ้ ที่ขายสินค้าตั้งแต่ของใช้ในบ้านไปจนถึงของเล่นเด็ก หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นแบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่น แต่จริง ๆ แล้วคือจีนแท้ และล่าสุดก็มาเปิดที่สยามพารากอนเป็นที่เรียบร้อย
Songmont แบรนด์กระเป๋า Quiet Luxury จากเซี่ยงไฮ้ ที่ออกแบบในสไตล์ยุโรป ใช้วัสดุคุณภาพสูง และได้รับความนิยมในหมู่สาวยุโรป และได้เข้ามาขยายตลาดในไทยผ่าน Pop-up Store ที่เซ็นทรัลเวิลด์
เบื้องหลังความสำเร็จเหล่านี้คือกระแส Guochao หรือ ‘จีนเจ๋ง’ ที่คนจีนเริ่มภูมิใจในอัตลักษณ์ตัวเอง และสร้างแบรนด์ที่สะท้อนวัฒนธรรมของจีนในแบบทันสมัย
นี่ไม่ใช่แค่การขายแฟรนไชส์ แต่คือการตั้งรกรากในตลาดไทยแบบจริงจัง และไม่ใช่แค่แบรนด์เดียว ยังมีอีกเป็นร้อยแบรนด์จีนที่กำลังจะตามมา
2. การตลาด Mass หลบไป ต่อไปคือเวลาของ ‘ชนเผ่า’
ยุคนี้ การวางแผนการตลาดจากอายุ เพศ รายได้ไม่พออีกต่อไปแล้ว เพราะผู้บริโภคยุคใหม่แบ่งตัวเองตามอัตลักษณ์ ไม่ใช่แค่ Demographic
ฟาโรส คือหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดที่สุดในไทย เขาไม่ได้เป็นแค่ Content Creator แต่เป็น ‘หัวหน้าเผ่า’ ของกลุ่มคนรักประวัติศาสตร์ที่มีพลังในการขับเคลื่อนแบรนด์ไปถึงระดับอีเวนต์คอนเสิร์ต
หรือ LVMH ที่วันนี้ไม่ได้ขายแค่กระเป๋าหรู แต่เปิดร้านที่เป็นทั้งแกลเลอรี่ คาเฟ่ และงานศิลป์ เพื่อเชื่อมโยงแบรนด์กับวัฒนธรรมของผู้คน
3. จากการโฆษณา สู่ความจริงใจ
ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้เชื่อแค่เพราะโฆษณาอีกต่อไป แต่เขาเชื่อในสิ่งที่ ‘จริง’
นี่คือเหตุผลที่ Micro และ Nano Influencer กลายเป็นพลังสำคัญของการตลาดยุคนี้ เพราะพวกเขาคือคนที่ใช้ของจริงและเล่าเรื่องจริง
การโฆษณาในยุคนี้ต้องมี 3 คุณสมบัติหลัก คือ:
🔸Real: ต้องเป็นแบรนด์ที่จริงใจ ไม่ใช่แค่สร้างภาพปลอม ๆ เช่นการทำ Greenwashing หรือ LGBT-friendly แบบไม่จริงใจ
🔸Raw: ผู้บริโภคชอบความดิบ ๆ ไม่ปรุงแต่ง และอยากเห็นเบื้องหลังการทำงาน
🔸Relevant: เนื้อหาต้องเชื่อมโยงกับ Community ที่แบรนด์ต้องการสื่อสาร
และเทรนด์ที่มาแรงไม่แพ้กันคือ ‘Founder-led Brand’ ซึ่งผู้ก่อตั้งต้องออกมาเป็นกระบอกเสียงของแบรนด์ด้วยตัวเอง เช่นเดียวกับแบรนด์ใหม่ ๆ ที่ใช้ TikTok เป็นเวทีเล่าเรื่องในแบบที่ไม่ซับซ้อน แต่เข้าถึงใจคน
4. ขายผ่าน TikTok ก็โตได้เป็นล้าน
ห้างใหญ่ไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป เพราะยุคนี้ ใครพูดเก่ง คนนั้นขายได้
โมเดลการค้ากำลังเปลี่ยนจาก Offline-first ไปสู่ Social-first แพลตฟอร์มอย่าง TikTok Shop, Instagram, หรือแม้แต่ YouTube กำลังกลายเป็นหน้าร้านหลักของธุรกิจ
คนไทยไม่ชอบซื้อของแบบเงียบ ๆ แต่ชอบคุย ชอบต่อราคา ชอบความสัมพันธ์ นี่คือเหตุผลว่าทำไม Affiliate Marketing และ Live Commerce ถึงได้ผลอย่างมากในบ้านเรา
และเรากำลังเห็นการกลับหัวของระบบเดิม จากที่เปิดหน้าร้านก่อน แล้วค่อยทำออนไลน์ กลายเป็น > เริ่มจาก TikTok แล้วค่อยเปิด Pop-up Store
ถ้าไม่เปลี่ยน ตอนนี้ อาจไม่มีเวลาเปลี่ยนอีกแล้ว
วัฏจักรใหม่ของโลกธุรกิจไม่ได้ถามคุณว่าจะเล่นไหม มันเพียงแค่จะหมุนไปต่อ ไม่ว่าคุณจะพร้อมหรือไม่
5 คำแนะนำที่ผู้ประกอบการยุคนี้ต้องท่องให้ขึ้นใจคือ
🔸 Rebuild แบรนด์ให้ชัด: ถ้าไม่เป็นแบรนด์ที่โดนใจ ก็ต้องถูกแทนที่ด้วยราคาถูก
🔸เข้าใจลูกค้าให้ลึก: ไม่ใช่แค่เพศหรือรายได้ แต่ต้องเข้าใจอารมณ์ ความเชื่อ และวัฒนธรรม
🔸เล่าเรื่องให้ได้ใจ: Social Platform คือเวทีแห่งความจริงใจ ไม่ใช่เวทีขายของ
🔸อย่ากลัวแบรนด์จีน: เข้าใจเขาให้มาก แล้วหาจุดที่คุณยังได้เปรียบ เช่น Wellness หรือสินค้าที่ต้องใช้ ‘ใจ’
🔸คล่องตัวแบบ Startup: วันนี้ไม่ใช่โลกของ Plan–Do–Check–Act อีกต่อไป แต่คือ Test–Learn–Adapt ทันที
ในวันที่ทุกอย่างหมุนเร็วขนาดนี้ คุณพร้อมจะปรับตัวหรือยัง?
หรือจะยอมเป็นเพียง ‘คนดู’ ในวัฏจักรใหม่ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า