พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีโฆษกพรรคเพื่อไทยปฏิเสธว่าคู่กรณีในอุบัติเหตุนักการเมืองท้องถิ่นขับรถปาดหน้ารถกระบะจนทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส ว่าไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และขออย่าโยงว่าเกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยนั้น
พล.ต.ท. ปิยะ ชี้ว่า ประชาชนและสังคมไม่ได้ให้ความสำคัญว่าคู่กรณีสังกัดพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะไม่ได้เกิดประโยชน์กับสังคม แต่ประชาชนและสังคมเป็นห่วงว่า คู่กรณีมีความสนิทสนมกับ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพ่อของนายกรัฐมนตรี อีกทั้งนายกรัฐมนตรียังดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) อาจจะมีผลต่อการแทรกแซง หรือเกิดความเกรงใจ ทำให้คดีไม่ตรงไปตรงมาได้
พล.ต.ท. ปิยะ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญ เพราะในวันนั้นนายกรัฐมนตรีและ พ่อของท่าน ตั้งใจเดินทางไปเป็นประธานในงานบวชคู่กรณีดังกล่าวถึงปทุมธานี เรื่องนี้โฆษกพรรคเพื่อไทยคงปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน
“ภาพมันฟ้อง ทั้งภาพและคลิปว่อนอยู่ในโซเชียลมีเดีย และในข่าวต่างๆ อยู่เป็นพันๆ รูป พี่น้องประชาชนและสังคมทั่วไปเห็นกันหมด มันปกปิดไม่ได้ และเบี่ยงเบนเป็นอย่างอื่นไม่ได้ด้วยเช่นกัน” โฆษกพรรคพลังประชารัฐกล่าว
พล.ต.ท. ปิยะ ระบุว่า เพราะการที่นายกรัฐมนตรีและพ่อ ไปร่วมงานเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567 หลังจากที่ อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์ อัยการสูงสุด ได้ตรวจพิจารณาสำนวน และมีคำสั่งคดีเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 โดยสั่งฟ้อง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, มาตรา 112 และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และนัดหมายให้มารายงานตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ถนนรัชดาภิเษก ช่วงเช้าวันที่ 29 พฤษภาคม 2567 ตามนัดหมายของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 เพื่อให้ไปรับฟังคำสั่งคดี
แต่ทักษิณทำหนังสือถึงอัยการแจ้งขอเลื่อนการฟังคำสั่งคดีออกไปก่อน โดยให้เหตุผลว่าติดโควิด พร้อมแนบใบรับรองแพทย์ประกอบ โดยแพทย์ให้หยุดพักเพื่อสังเกตอาการ และไม่มารายงานตัวต่อพนักงานอัยการ ตามกำหนดนัดแต่อย่างใด
”ท่านอาจปฏิเสธได้ว่า ไม่สนิทสนมกันมาก แต่ถ้าไม่สนิทสนมกันมากก็คงจะไม่ไปทั้งพ่อลูก และไปทั้งๆ ที่เพิ่งหายจากป่วยโรคโควิดแท้ๆ ยังอุตส่าห์ไปขึ้นเวที และเป็นประธานให้ พี่น้องประชาชนตัดสินใจได้ชัดเจนว่า เรื่องไหนสำคัญกว่ากันระหว่างการรายงานตัวตามคำสั่งในคดี มาตรา 112 กับ การเป็นประธานงานบวช“ พล.ต.ท. ปิยะ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์ปาดหน้ารถกระบะตามที่ปรากฏภาพข่าว เป็นลูกชาย กฤษฎา หลีนวรัตน์ (นายกเบี้ยว) นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี โดยเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2567 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานงานเลี้ยงฉลองบวช สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ โดยมี แพทองธาร ชินวัตร ขณะนั้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมเดินทางไปด้วย