ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจดุเดือด การเจาะกลุ่มลูกค้าให้ตรงจุดถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ The 1 Insight เผยข้อมูลชี้ชัดถึงกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงลิ่ว อย่าง ‘Gen Y-Wealth’ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘เจนวายล่ำซำ’
ซึ่งแม้จะมีสัดส่วนเพียง 1% ของประชากร Gen Y ทั้งหมด แต่กลับครองสัดส่วนการใช้จ่ายสูงถึง 30% ของมูลค่าตลาดรวม และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
ปรากฏการณ์ ‘Great Wealth Transfer’ กำลังจะส่งผลให้กลุ่ม Gen Y กลายเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มั่งคั่งที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y-Wealth ที่ประกอบด้วยทายาทธุรกิจและเหล่าผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซและเทคโนโลยี
พวกเขามีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่โดดเด่นและน่าสนใจ ยิ่งไปกว่านั้น ภายในปี 2025 Gen Y จะครองสัดส่วนถึง 75% ของวัยแรงงานทั่วโลก ส่งผลให้อิทธิพลทางเศรษฐกิจของพวกเขายิ่งทวีความสำคัญ
จากการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มนี้ พบ 3 อินไซต์สำคัญที่สะท้อนถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ เริ่มจากการให้ความสำคัญกับ ‘ภาพลักษณ์’ โดยเฉพาะในหมวดแฟชั่นลักชัวรีที่มีการใช้จ่ายสูงกว่ากลุ่มอื่นถึง 15 เท่า และหมวดบิวตี้ที่สูงกว่า 4 เท่า สินค้ายอดนิยมอย่าง Luxury Watch, Fine Jewelry และ Designer Fashion ยังคงครองใจกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง
ที่น่าสนใจคือ 40% ของกลุ่ม Gen Y-Wealth เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ให้ความสำคัญกับแฟชั่นสำหรับลูกๆ สะท้อนผ่านยอดใช้จ่ายในหมวดเสื้อผ้าเด็กที่สูงกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า
นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่ม Gen Y-Wealth มีความสนใจเป็นพิเศษในแบรนด์ ‘Quiet Luxury’ ที่นำเสนอความหรูหราแบบเรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า สะท้อนถึงรสนิยมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคยุคใหม่
ในหมวดบิวตี้ พวกเขาให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์อย่าง Shimmer Pressed Powder, Intensive Wrinkle Treatment และ Luxury Perfume ซึ่งสะท้อนถึงการลงทุนเพื่อสร้าง ‘Personal Branding’ ที่แข็งแกร่ง การดูแลตัวเองไม่ใช่เพียงเรื่องความสวยความงาม แต่เป็นการลงทุนในภาพลักษณ์ระยะยาวที่จะส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงาน
อินไซต์ที่สองคือการให้ความสำคัญกับ ‘ประสบการณ์’ มากกว่าการเป็นเจ้าของสินค้า สะท้อนผ่านการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวต่างประเทศที่สูงกว่ากลุ่มอื่นถึง 4 เท่า รวมถึงความนิยมในการเป็นสมาชิก Privilege Club แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ต้องนำเสนอมากกว่าสินค้า แต่ต้องสร้างประสบการณ์ที่จับต้องได้และมีคุณค่าทางอารมณ์
อินไซต์สุดท้ายคือพฤติกรรมการช้อปปิ้งแบบ ‘ไร้รอยต่อ’ ที่ผสมผสานระหว่างโลก Physical และ Digital เข้าด้วยกัน โดยมีการใช้จ่ายผ่านอีคอมเมิร์ซและ Personal Shopper สูงกว่ากลุ่มอื่นถึง 4 เท่า พร้อมทั้งนิยมใช้บริการแอปพลิเคชันเดลิเวอรีอย่าง LINE MAN อย่างสม่ำเสมอ
ที่น่าสนใจคือ พวกเขามักจะช้อปปิ้งในวันธรรมดาระหว่างวันมากกว่ากลุ่มอื่นถึง 2 เท่า สะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ที่ยืดหยุ่นและต้องการความเป็นส่วนตัวในการช้อปปิ้ง
การเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่ม Gen Y-Wealth ไม่เพียงแต่เป็นโอกาสทางธุรกิจในปัจจุบัน แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับอนาคต เพราะในที่สุดแล้ว ‘เจนวายล่ำซำ’ ไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง แต่ยังเป็นผู้กำหนดทิศทางการบริโภคของตลาดในทศวรรษหน้า และเป็นตัวชี้วัดสำคัญของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่กำลังจะเกิดขึ้นในวงกว้าง