ปัจจุบัน AI ย่างกรายเข้ามาสร้าง Environment ในการทำงาน และช่วยปลดล็อกโอกาสทางธุรกิจสู่ตลาดใหม่ๆ จนเรียกได้ว่าสำคัญต่อผู้ประกอบการอย่างมาก โดยเฉพาะ SME ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ SME ไทยต้องเผชิญอุปสรรคหลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันสูง มีอำนาจต่อรองกับคู่ค้าน้อยถ้าเทียบกับรายใหญ่ แถมยังต้องรับมือกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จึงไม่ง่ายเลยที่ผู้ประกอบการย่อยจะอยู่รอดในตลาดได้
ในปีที่ผ่านมา MI LEARN LAB รวบรวมข้อมูลเรื่องการใช้เครื่องมือ AI ทำการตลาดยุคใหม่ของผู้ประกอบการรายย่อยในไทย จนพบว่าส่วนใหญ่มีความเข้าใจและยอมรับการใช้เครื่องมือ AI และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจ แต่ก็ยังไม่พร้อมเปิดรับมากนัก และยังมีอุปสรรคในการใช้งานอยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘MI GROUP’ เผย 6 ธุรกิจเทงบไม่หยุด เน้นลงสื่อออนไลน์มากกว่า TV แต่เม็ดเงินโฆษณาปี 2024 โตเล็กน้อย 4% ผลพวงหนี้ครัวเรือน-กำลังซื้อซบ
- Affiliate Marketing ดุเดือดอยู่แล้ว แต่ทำไม ‘YouTube ไทย’ ถึงตัดสินใจกระโดดเข้ามาเล่นด้วยผ่าน YouTube Shopping
- จาก ‘สื่อครองเมือง’ สู่ ‘ยุค AI กำหนดเกม’ MI เผย 6 ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง พร้อมเปลี่ยนบทบาทจากเอเจนซีสู่ ‘ผู้ประกอบร่างโซลูชัน’
สอดรับกับข้อมูลจาก SME ในไทยพบว่า กลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้เคยได้ยินคำว่า MarTech อยู่ที่ 68% แต่มีเพียง 29% ของกลุ่มนี้เท่านั้นที่เคยนำมาใช้ ส่วนอีก 71% ไม่เคยใช้งาน ปัจจัยหลักมาจากไม่มีความรู้มากพอ และกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
“จากปัจจัยดังกล่าว MI GROUP ในฐานะผู้เชี่ยวชาญและให้คำปรึกษาด้านการตลาดและการสื่อสารการตลาดยุคใหม่ จึงเปิดตัว มี-อาย หรือ MiAi ในรูปแบบของ WISDOM โดย AI ตัวนี้จะเน้นหาข้อมูลการทำตลาดเข้ามาตอบโจทย์ผู้ประกอบการไทย” วรินทร์ ทินประภา Chief Growth Officer ของ MI GROUP กล่าว
สำหรับเบื้องหลังของจุดกำเนิด MiAi บริษัทร่วมมือกับ dots academy สถาบันฝึกอบรมและวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจ ที่ร่วมให้คำปรึกษาในภาพรวมของโปรเจกต์ และ CREaiVE ผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชันจากเทคโนโลยี AI ที่เข้ามาเป็น AI-Partner พัฒนาแพลตฟอร์ม และผ่านการรับรองจาก ศ. ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สิ่งที่น่าสนใจของกระบวนการทำงาน MiAi จะมี 3 Framework ประกอบด้วย 1. ผู้ใช้งานป้อนข้อมูลจำเป็นของธุรกิจเพื่อให้ได้คำถามที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น 2. ระบบมี 11 หมวดสำหรับการทำกลยุทธ์การตลาด ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับ ChatGPT API ช่วยให้ตอบคำถามได้ครอบคลุม และ 3. สร้างความรู้เฉพาะทางด้วยการเพิ่มเนื้อหาด้านกลยุทธ์มากขึ้นจาก 7 โซลูชันของ MI GROUP และ AI-Partner Creative พร้อมนำไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากเปิดตัวทีมงานมีแผนพัฒนาให้ตรงตามความต้องการและทันต่อสถานการณ์ของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผ่านการรวบรวมหมวดและคำถามที่เป็นที่นิยมในระบบ เพื่อให้แพลตฟอร์มครอบคลุมความต้องการมากขึ้น โดยมั่นใจว่าจะช่วยยกระดับการทำงานได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ MI GROUP คาดการณ์ว่าตัวเลขเม็ดเงินโฆษณาในไทยปี 2568 จะอยู่ที่ 90,879 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.5% จากปี 2567 จากปัจจัยบวกด้านการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังต้องเฝ้าติดตาม
รวมทั้งแนวโน้มการถดถอยต่อเนื่องของสื่อดั้งเดิม เช่น โทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ และวิทยุ โดยสื่อที่ยังเติบโตคือสื่อออนไลน์และสื่อนอกบ้าน โดยฝั่งอุตสาหกรรมสื่อออนไลน์เติบโตต่อเนื่องจากเม็ดเงินหลักที่ใช้บนแพลตฟอร์ม Meta, YouTube และ TikTok ตามลำดับ