โลกธุรกิจแข่งขันเดือด! MI ไม่หยุดนิ่งหาสิ่งใหม่เข้าตอบโจทย์ธุรกิจในโอกาสครบรอบ 25 ปี ตั้งใจพลิกบทบาทสู่การเป็นผู้ประกอบร่างโซลูชัน พร้อมพัฒนา 7 โซลูชันหลักและ AI ติดอาวุธเสริมแกร่งผู้ประกอบการไทย
เมื่อไม่นานมานี้ MI GROUP หนึ่งในผู้นำของวงการมีเดียเอเจนซีในประเทศไทย จัดงาน ‘MI GROUP 25th Anniversary Press Conference’ ในโอกาสครบรอบ 25 ปีของการดำเนินธุรกิจ พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ก้าวสู่การเป็น Integrated Solutions Provider ที่จะคอยรับมือกับเทรนด์ต่างๆ ให้ได้อย่างรวดเร็ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘MI GROUP’ เผย 6 ธุรกิจเทงบไม่หยุด เน้นลงสื่อออนไลน์มากกว่า TV แต่เม็ดเงินโฆษณาปี 2024 โตเล็กน้อย 4% ผลพวงหนี้ครัวเรือน-กำลังซื้อซบ
- กระแสการใช้ ‘อินฟลูเอ็นเซอร์’ กำลังเปลี่ยนไป จากใช้เพื่อสร้างแบรนด์มาเป็น Affiliate Marketing เพราะบางคนขายได้วันละเป็นล้านบาท!
ภวัต เรืองเดชวรชัย ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MI GROUP กล่าวว่า ตั้งแต่ที่เข้ามาทำงานในสายอาชีพนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะภูมิทัศน์สื่อและพฤติกรรมผู้บริโภค ในฐานะที่ MI เป็นตัวกลางคอยทำงานระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคก็ต้องเปลี่ยนตามความท้าทายที่เกิดขึ้น
แล้วอะไรคือความท้าทายเหล่านั้น?
หากย้อนกลับไปในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา MI แบ่งการเปลี่ยนแปลงออกเป็น 6 ยุค เริ่มตั้งแต่ยุคก่อนปี 2008 ‘Dominance of Mass Media’ ยุคสื่อครองเมือง มีแค่โทรทัศน์และวิทยุเป็นสื่อหลัก โดยจะมีแค่รายการข่าวภาคค่ำที่มีอิทธิพลสูง ช่วงนั้นผู้บริโภครับข้อมูลทางเดียว เชื่อถือสื่อกระแสหลัก และมีทางเลือกในการรับข้อมูลจำกัด
ถัดมาคือยุคที่ 2 ปี 2008-2012 ‘Emergence of Social Media and Segmented Audiences’ ยุคโซเชียลเปลี่ยนโลก เริ่มมีสื่อทางเลือกเกิดขึ้นอย่าง Facebook ที่เป็นที่นิยมมาก ผู้บริโภคเริ่มแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ทีวีก็ยังคงมีอิทธิพลอยู่
ตามมาด้วยยุคที่ 3 ปี 2013-2015 ‘Rise of Social Media and Fragmentation’ ยุคที่โลกไม่เหมือนเดิม ช่วงเวลาที่โซเชียลท้าชนสื่อเก่า มีแพลตฟอร์มหลากหลายและมีบทบาทมากขึ้น ผู้บริโภคเริ่มสร้างเนื้อหาเอง แชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียล แต่ก็ยังเสพสื่อหลักควบคู่กัน
กระทั่งยุคที่ 4 ปี 2016-2018 ‘Social Media Matures and Increases Influence on Consumer Behavior’ ยุคโซเชียลขับเคลื่อนโลก จากผู้เสพเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ ผู้บริโภคสร้างและแลกเปลี่ยนเนื้อหากันเอง แชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียล อินฟลูเอ็นเซอร์มาแรง YouTube และ Twitter เติบโต ผู้บริโภคติดตามบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิด เชื่อถือรีวิวและความเห็นจากโซเชียลมากขึ้น
รวมถึงยุคที่ 5 ปี 2019-2022 ‘Data-Driven Personalization, Technological Advances, and Hyper-Fragmentation’ ยุคข้อมูลเปลี่ยนโลก เทคโนโลยีกำหนดทิศ สื่อถูกหลอมรวม TikTok และพอดแคสต์เฟื่องฟู ผู้บริโภคเสพสื่อแบบข้ามแพลตฟอร์มไปมา ชอบเสพเนื้อหาสั้น กระชับ และต้องการความเฉพาะเจาะจง
และยุคที่ 6 ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป ‘Hyper-Niche Communities, Decentralized Media, and Generative AI’ ยุค AI กำหนดเกม สื่อโซเชียลเป็นแบบกระจายศูนย์ ถ้าอยากได้ยอดขายต้องใช้เนื้อหาที่โดนใจ เพื่อให้ได้ใจผู้บริโภคในแต่ละบริบท หรือเรียกง่ายๆ ว่าถูกคน ถูกใจ ถูกที่ ถูกเวลา และผู้บริโภคมีส่วนร่วมในการสร้างและแชร์เนื้อหามากขึ้น การมาของ Generative AI จะช่วยเอื้อและสนับสนุนความเป็นไปได้มากขึ้น
“สะท้อนให้เห็นว่าทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง เราไม่เคยฝืนสถานการณ์นั้นได้และต้องปรับตัวตามถึงจะอยู่รอดและเติบโตต่อไปในอนาคต”
ภวัตย้ำทิศทางต่อจากนี้ ในฐานะที่ MI GROUP มีเดียเอเจนซีรายใหญ่ในประเทศไทยเปลี่ยนบทบาทใหม่ จากที่เคยเป็นตัวกลาง (Media Agency) สู่การเป็นผู้ประกอบร่างโซลูชันสำหรับธุรกิจ (Integrated Solutions Provider) โดยพัฒนา 7 โซลูชันหลักที่ประกอบด้วย
ด้านกลยุทธ์การตลาดและการสื่อสาร MI พัฒนาทีม MarCom Solution Master ที่เชี่ยวชาญทั้งสื่อดั้งเดิมและดิจิทัล พร้อมยกระดับประสิทธิภาพการลงทุนทางการตลาดผ่านบริการ Trading Excellence ที่วิเคราะห์ผลตอบแทนจากหลากหลายแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ยังมีบริการ FUZE ที่มุ่งเน้นการสร้างความผูกพันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคผ่านการสร้างชุมชนและกิจกรรมที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย ขณะที่บริการ Bridge ช่วยผลักดันแบรนด์ไทยสู่ตลาดต่างประเทศด้วยกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละตลาด
สำหรับการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด MI จัดตั้ง MI Learn Lab เพื่อช่วยองค์กรวางแผนกลยุทธ์ทั้งระยะสั้นและระยะยาว พร้อมทั้งมีทีม Commerce Solution ที่ให้คำปรึกษาด้านการค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
ที่สำคัญ MI พัฒนาระบบ Data Ecosystem ที่เชื่อมโยงข้อมูลจากหลากหลายแหล่งเข้าด้วยกัน เพื่อรองรับการวิเคราะห์และวางกลยุทธ์ด้วย AI ในยุคที่ข้อมูลเป็นหัวใจสำคัญของการตัดสินใจทางธุรกิจ
อีกหนึ่งไฮไลต์ MI ยังเตรียมเปิดตัว มี-อาย (MI-AI) เป็น AI ตัวแรกในวงการเอเจนซี ทำหน้าที่หาข้อมูลการทำตลาดเชิงลึกให้ผู้ประกอบการและ SME ทุกคน เบื้องต้นคาดว่าจะพร้อมใช้งานในเดือนธันวาคม 2567
“เราคาดหวังว่าการปรับตัวเหล่านี้จะช่วยให้ MI มีรายได้เติบโตปีละ 8% เป็นอย่างน้อย” ภวัตระบุ