จากกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่ามรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ถึงวันที่ 20 ธันวาคม 2565
วันนี้ (19 ธันวาคม) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส และวาตภัยในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ ปราจีนบุรี ชลบุรี จันทบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และยะลา ทั้งนี้ ปภ. ได้ประสานจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัย
โดยในระหว่างวันที่ 17-20 ธันวาคมนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินสไลด์ และลมกระโชกแรง แยกเป็น
สถานการณ์อุทกภัย เกิดสถานการณ์ระหว่างวันที่ 17-20 ธันวาคม ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวม 49 อำเภอ 189 ตำบล 1,028 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 51,543 ครัวเรือน ดังนี้
- สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพุนพิน และอำเภอท่าชนะ รวม 2 ตำบล 7 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1 ครัวเรือน
- นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปากพนัง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอสิชล อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอจุฬาภรณ์ รวม 23 ตำบล 100 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,820 ครัวเรือน
- ตรัง น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาโยง อำเภอย่านตาขาว และอำเภอปะเหลียน รวม 3 ตำบล 9 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 448 ครัวเรือน
- พัทลุง น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอตะโหมด อำเภอศรีนครินทร์ อำเภอกงหรา อำเภอเขาชัยสน อำเภอปากพะยูน อำเภอป่าบอน และอำเภอบางแก้ว รวม 15 ตำบล 61 หมู่บ้าน
- สตูล น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอละงู รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน
- สงขลา น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา อำเภอรัตภูมิ อำเภอควนเนียง อำเภอหาดใหญ่ อำเภอนาหม่อม อำเภอจะนะ อำเภอบางกล่ำ และอำเภอระโนด รวม 51 ตำบล 342 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,616 ครัวเรือน
- ปัตตานี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอกะพ้อ และอำเภอยะหริ่ง รวม 8 ตำบล 12 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 455 ครัวเรือน
- ยะลา น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบันนังสตา อำเภอธารโต อำเภอรามัน อำเภอยะหา อำเภอเมืองยะลา อำเภอกรงปินัง รวม 16 ตำบล 33 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 90 ครัวเรือน
- นราธิวาส น้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสุคิริน อำเภอศรีสาคร อำเภอรือเสาะ อำเภอระแงะ อำเภอจะแนะ อำเภอเมืองนราธิวาส อำเภอเจาะไอร้อง อำเภอสุไหงปาดี อำเภอบาเจาะ อำเภอแว้ง อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอตากใบ และอำเภอยี่งอ รวม 70 ตำบล 463 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 29,113 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 3 ราย
สถานการณ์วาตภัย เกิดสถานการณ์ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ ปราจีนบุรี ชลบุรี จันทบุรี สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และยะลา รวม 22 อำเภอ 40 ตำบล 97 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 960 ครัวเรือน ดังนี้
- อำนาจเจริญ เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชานุมาน อำเภอเมืองอำนาจเจริญ และอำเภอปทุมราชวงศา รวม 4 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 4 ครัวเรือน
- ปราจีนบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาดี และอำเภอประจันตคาม รวม 4 ตำบล 11 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 50 ครัวเรือน
- ชลบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอบ่อทอง รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย
- จันทบุรี เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
- สุราษฎร์ธานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอดอนสัก และอำเภอท่าฉาง รวม 4 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 18 ครัวเรือน
- นครศรีธรรมราช เกิดวาตภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหัวไทร อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอสิชล และอำเภอขนอม รวม 10 ตำบล 33 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 595 ครัวเรือน
- สงขลา เกิดวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเทพา อำเภอสะบ้าย้อย และอำเภอจะนะ รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 24 ครัวเรือน
- ปัตตานี เกิดวาตภัยในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปะนาเระ อำเภอยะหริ่ง อำเภอยะรัง อำเภอกะพ้อ และอำเภอไม้แก่น รวม 12 ตำบล 37 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 267 ครัวเรือน
- ยะลา เกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอรามัน รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1 ครัวเรือน
ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วม ระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น สำหรับพื้นที่ประสบอุทกภัยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งระบายน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ส่วนพื้นที่เกิดวาตภัยได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป