×

รักชนกแฉรอบสอง กมธ. ขอเอกสารทำเว็บแอป 850 ล้านบาท แต่ สปส. ไม่ให้ พร้อมร่อนหนังสือขู่ข้าราชการห้ามเปิดข้อมูลภายใน จ่อยื่นศาลปกครองหากไม่ให้อีก

โดย THE STANDARD TEAM
28.02.2025
  • LOADING...
850m-web-app-controversy

วันนี้ (28 กุมภาพันธ์) ที่อาคารรัฐสภา รักชนก ศรีนอก สส. กทม. พรรคประชาชน แถลงข่าวถึงกรณีกรรมาธิการติดตามงบประมาณฯ ได้เชิญสำนักงานประกันสังคมรวมถึงบอร์ด 3 ฝ่าย ผู้ประกันตน นายจ้าง และส่วนราชการร่วมประชุมกับกรรมาธิการฯ ถึงกรณีความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ

 

รักชนกกล่าวว่า ในการประชุมเมื่อวานนี้ (27 กุมภาพันธ์) เป็นการประชุมครั้งแรกที่ไม่ว่าหน่วยงานหรือตัวแทนกรรมาธิการจากพรรคใด ล้วนมีความเห็นตรงกันว่าพฤติกรรมของผู้เข้าชี้แจงจากบอร์ดสำนักงานประกันสังคมเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้

 

โดยการประชุมเริ่มจากการพูดถึงโครงการเว็บแอปมูลค่า 850 ล้านบาท ซึ่งมีความสำคัญในการทดแทนระบบเก่าที่มีปัญหาการเบิกจ่ายที่ไม่มีประสิทธิภาพ

 

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีการถามถึงพิรุธที่เกิดขึ้นในการทำโครงการนี้ ตั้งแต่การที่รับงานมาในช่วงโควิดระบาดแต่ทำไม่เสร็จจนต้องมีการปรับ แต่จากเดิมที่เจ้าของโครงการควรจะจ่าย 193 ล้านบาท กลับมีการอ้างระเบียบของกรมบัญชีกลางว่าในช่วงโควิดสามารถยกเว้นค่าใช้จ่ายนี้ได้และสำนักงานประกันสังคมก็เห็นด้วย ทำให้บริษัทถูกปรับจริงเพียงประมาณ 7-8 วัน ในอัตราวันละ 8 แสนบาทเท่านั้น

 

รักชนกกล่าวต่อไปว่า แต่สิ่งที่ตัวแทนบอร์ดฝั่งนายจ้างตอบกลับมาคือโครงการนี้มีความสำคัญและไม่ต้องตรวจสอบ เพราะทุกอย่างเปิดเผยโปร่งใสอยู่แล้ว และตัวแทนฝ่ายนายจ้างไม่ยินดีให้ข้อมูลกับกรรมาธิการฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังมาก ตนจึงถามต่อถึงความคืบหน้า แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ ประธานจึงให้มีการขอเอกสาร ซึ่งทางผู้อำนวยการอนุกรรมการไอทีก็แสดงอาการชัดเจนว่ามีปัญหาและไม่อยากส่งเอกสารให้กรรมาธิการ โดยอ้างความเป็นห่วงเรื่องข้อกฎหมาย จนกรรมาธิการฯ ต้องให้กรมบัญชีกลางชี้แจงว่าเอกสารต่างๆ ต้องเปิดเผยอยู่แล้ว 

 

คำเสนอที่เป็นความลับของกิจการอาจจะเปิดเผยไม่ได้ แต่ก็มีข้อยกเว้นตามกฎหมายว่าสามารถเปิดเผยได้ถ้าเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้โดยตรง ซึ่งกรรมาธิการติดตามงบประมาณฯ เกี่ยวข้องโดยตรงอยู่แล้ว นอกจากนี้ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคลก็ได้แจกแจงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูล ยืนยันว่าข้อมูลเหล่านี้สามารถเปิดเผยได้ ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรก็ได้ยก พ.ร.บ.อำนาจเรียก และ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พร้อมทั้งกรณีในอดีตมาแสดงให้เห็นว่าเอกสารเหล่านี้ต้องให้ได้ตามกฎหมาย

 

แต่ตัวแทนฝ่ายบอร์ดนายจ้างก็ยังไม่ยอมที่จะให้เอกสาร จนตนต้องถามอย่างตรงไปตรงมาว่าที่ผ่านมาสำนักงานประกันสังคมไม่เคยส่งเอกสารให้กับหน่วยงานอื่นที่บุคคลอื่นที่ขอเอกสารเลยใช่หรือไม่ เพราะถ้าเคยส่งเอกสารมาก่อนย่อมไม่มีคำถามว่าให้ได้หรือไม่ เพราะไม่ว่ากรรมาธิการติดตามงบประมาณฯ จะเรียกหน่วยงานใดเข้ามาสอบถามและขอเข้าถึงข้อมูล แต่ละกระทรวง ทบวง กรม ต่างยินดีให้ข้อมูลหมดไม่ว่าอยู่ในชั้นความลับเช่นใด และโครงการแบบนี้ในกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ที่กรรมาธิการฯ เคยขอไปแล้วก็ล้วนแต่ได้รับมาตลอด 

 

มีแต่สำนักงานประกันสังคมที่ไม่ยินดีให้เอกสารอะไรเลย โดยที่ทางผู้อำนวยการฝ่ายไอทีพูดอย่างชัดเจนว่าไม่สะดวกใจที่จะให้เอกสาร และทางตัวแทนฝั่งนายจ้างก็ยืนยันชัดเจนว่าไม่สนว่าข้อกฎหมายจะบอกว่าอย่างไร ถ้าตัวเองนั่งอยู่ในฐานะบอร์ดฝั่งนายจ้างไม่ให้ก็คือไม่ให้ จนตนต้องย้ำในที่ประชุมว่า ท่านไม่สามารถนำมติของบอร์ดประกันสังคมมาอยู่เหนือ พ.ร.บ.อำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา และ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ ได้

 

รักชนกกล่าวต่อไปว่า จนสุดท้ายตัวแทนสำนักงานประกันสังคมรับปากว่าจะไปตรวจสอบเอกสารและจะส่งกลับมา ซึ่งกรรมาธิการฯ ได้ขอไปทั้ง TOR, คำเสนอ, รายละเอียดในการจ่ายงวดเงิน, เอกสารและแผนในการตรวจรับ, ระเบียบในการอ้างไม่ปรับบริษัทผู้รับโครงการ 193 ล้านบาท, หนังสือติดตามที่สำนักงานประกันสังคมเคยส่งไปติดตามโครงการนี้ และหนังสือที่เจ้าของโครงการตอบกลับมา ก็เกิดความกระอักกระอ่วนในที่ประชุมที่ไม่อยากจะให้เอกสาร

 

จากนั้นที่ประชุมกรรมาธิการฯ จึงได้ตั้งข้อสังเกตส่งไปถึงสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าโครงการนี้มีพิรุธชัดเจน เดิมตนเคยคิดว่าโครงการดังกล่าวเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่าและล่าช้าเฉยๆ แต่จากการคุยกันไม่รู้เรื่องในที่ประชุมกรรมาธิการฯ ทำให้ตนคิดว่าโครงการดังกล่าวส่อมีพิรุธอย่างชัดเจนว่าต้องมีอะไรผิดปกติอย่างแน่นอน

 

รักชนกกล่าวต่อไปว่า เรื่องที่เถียงกันอย่างดุเดือดในกรรมาธิการฯ อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องที่ตนเรียกร้องให้มีการเปิดรายงานการประชุมของบอร์ดทุกบอร์ดและทุกอนุกรรมการในสำนักงานประกันสังคมที่แต่งตั้งขึ้นมาและได้รับงบประมาณจากสำนักงานประกันสังคม อย่างน้อย 2 ปีในช่วงที่มีบอร์ดมาจากการเลือกตั้ง แต่บอร์ดฝั่งนายจ้างก็ยังคงยืนยันว่าจะไม่ให้ 

 

จนที่ประชุมต้องมีการนำเสนอข้อกฎหมายต่างๆ ให้เข้าใจว่าต้องเปิดเผยตามกฎหมาย และถ้าไม่มีอะไรที่ต้องปกปิดก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว เพราะทุกการประชุมที่ได้รับงบประมาณจากเงินแผ่นดินต้องมีฝ่ายเลขาในการสรุปการประชุมทุกครั้งอยู่แล้ว และตนไม่ได้ขออะไรมากไปกว่าในช่วงที่มีบอร์ดมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น และถ้ายังไม่ยินดีที่จะเปิดเผยรายงานเหล่านี้ ตนจะส่งหนังสือถามไปที่ PDPA ว่าเอกสารเหล่านี้สามารถเปิดเผยได้หรือไม่ และถ้าท่านยังไม่ยอมอีกตนจะฟ้องถึงศาลปกครองให้มีการเปิดเผยเอกสารเหล่านี้ เพราะที่ตนขอแค่เอามาขึ้นเว็บไซต์ให้ผู้ประกันตนได้อ่านเท่านั้น


รักชนกกล่าวต่อไปว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาตนได้ตั้งข้อสังเกตในกรรมาธิการฯ เรื่องการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ของสำนักงานประกันสังคมว่าควรทำให้ข้อมูลต่างๆ เปิดเผยโปร่งใส ผู้ประกันตนหรือนายจ้างที่สมทบเงินเข้ามาควรตรวจสอบได้ว่าเงินของพวกเขาถูกใช้ไปอย่างไร ตนกลับได้รับหนังสือฉบับหนึ่งจากพลเมืองดีที่ส่งมาให้ เป็นหนังสือจากสำนักงานประกันสังคมร่อนถึงผู้อำนวยการ แต่ละสำนักงานประกันสังคมทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยเล็กหรือใหญ่ที่อยู่ในส่วนของราชการ กำชับเรื่องการเปิดเผยข้อมูลเอกสารทางราชการ 

 

โดยเนื้อหาระบุว่า กองกฎหมายขอเรียนว่าการนำข้อมูลหรือเอกสารของราชการซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารภายในไปเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกโดยมีเจตนาเพื่อก่อให้เกิดผลกระทบต่อสำนักงานถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมายและระเบียบแบบแผนของทางราชการ และยังระบุด้วยว่าหากพบว่ามีบุคคลใดในสังกัดสำนักงานประกันสังคมกระทำการในลักษณะดังกล่าว จะขอให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบของราชการทันที

 

ดังนั้นตนขอตั้งคำถามว่า ผู้ประกันตนที่ส่งประกันสังคมทุกคนเห็นหนังสือฉบับนี้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง นี่คือการปิดปากคนภายในหน่วยงานไม่ให้นำส่งเอกสารให้กับกรรมาธิการหรือคนที่เรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลหรือไม่ นี่คือการจงใจปิดบังเก็บงำความลับทุกพิรุธของการใช้งบประมาณภายใต้สำนักงานประกันสังคมใช่หรือไม่ ถ้าท่านไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าท่านโปร่งใสตรวจสอบได้เหมือนที่ท่านยืนยันเสมอมาแล้วท่านกลัวอะไรกับการตรวจสอบ 

 

ตนขอตั้งคำถามถึงความจริงใจของสำนักงานประกันสังคมและบอร์ดทุกบอร์ด ว่าท่านมีความจริงใจหรือไม่ในการให้ผู้ประกันตนได้รู้ว่าเงินของเขาถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้าง คนเหล่านี้กำลังทำอะไรกับเงินในกองทุนประกันสังคมอยู่ ท่านทำราวกับว่ากองทุนประกันสังคมเป็นบุฟเฟต์หรือไม่ เวียนกันเข้ามากินเสร็จใครมาก็ได้กินใหม่แล้วก็แปะมือเวียนกันออกไป ไม่เคยคิดที่จะทำอะไรจริงจังให้กับผู้ประกันตน ไม่เคยคิดว่าจะหาทางอย่างไรให้กองทุนอยู่อย่างยั่งยืนได้

 

รักชนกกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ในที่ประชุม เมื่อมีผู้ชี้แจงท่านหนึ่งที่อยู่ในอนุกรรมการด้านไอทีจากสัดส่วนผู้ประกันตน ระบุว่าการทำงานในบอร์ดที่ผ่านมาเป็นไปได้อย่างยากลำบากมาก เสนออะไรก็ถูกฝ่ายราชการผนึกกำลังกับฝ่ายนายจ้างปัดตกทุกข้อเสนอ ขอเอกสารอะไรไปก็ไม่เคยได้รับการตอบสนอง ทำเป็นหนังสือไปก็ไม่เคยได้ ปรากฏว่าวันนี้ผู้ชี้แจงท่านนั้นถูกสำนักงานประกันสังคมเข้าไปตรวจสอบที่สำนักงานของเขา ตนขอตั้งคำถามว่านี่คือเรื่องบังเอิญหรือไม่ ถ้าไม่ใช่เรื่องบังเอิญนี่ย่อมเข้าข่ายการข่มขู่คุกคามแน่นอน

 

“การดำเนินงานและวิธีคิดของสำนักงานประกันสังคมมีปัญหาอย่างมาก เป็นการจงใจปกปิดทำให้เงินของผู้ประกันตนและนายจ้างอยู่ในความดำมืด ไม่สามารถมีใครเข้าถึงข้อมูลได้ ดิฉันขอตั้งคำถามถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หรือนายกรัฐมนตรี ท่านปล่อยให้กระทรวงแรงงานที่กำกับดูแลกองทุนประกันสังคมเป็นแบบนี้ได้อย่างไร นี่คือเจตจำนงของกระทรวงแรงงานในการดูแลกองทุนประกันสังคมใช่หรือไม่” รักชนกกล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising