ในปี 2022 เฉดสีที่ร้อนแรงที่สุดของปีต้องยกให้เฉดสี Valentino Pink PP เฉดสีชมพูพิเศษที่สามารถสร้างไวรัลเพียงชั่วข้ามคืน รู้หรือไม่ว่านอกจากเฉดสีชมพูนี้แล้ว ‘สีแดง’ เป็นอีกหนึ่งเฉดสีไอคอนิกของแบรนด์ Valentino ที่ก่อตั้งโดยดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน Valentino Garavani ผู้ซึ่งสร้างรากฐานความหรูหราและความสง่างามให้กับแบรนด์ Valentino จวบจนปัจจุบัน
Valentino โด่งดังและเป็นที่รักของศิลปิน ดารา นางแบบ และเซเลบริตี้ระดับแถวหน้าทั่วโลก เช่น Elizabeth Taylor, Audrey Hepburn, Anne Hathaway, Beyonce, Lady Gaga, Dua Lipa และอีกมากมายที่ต่างหลงใหลความพิถีพิถัน ความละเอียด และความสง่าของงานดีไซน์ ช่วงกลางปีที่ผ่านมา แบรนด์ประกาศข่าวเซอร์ไพรส์วงการแฟชั่น เมื่อ Alessandro Michele อดีตครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Gucci ขึ้นรับตำแหน่งดูแลงานดีไซน์ทั้งหมดแทน Pierpaolo Piccioli พร้อมปล่อยคอลเล็กชัน Resort 2025 ชิมลางก่อนที่เขาจะโชว์คอลเล็กชันหลักในเร็ววันนี้
THE STANDARD POP จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับแบรนด์ Valentino กันให้มากขึ้น ถึงที่มาที่ไปและการเปลี่ยนผ่านตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์กัน
STARTING POINT
Valentino Garavani มีภูมิลำเนามาจากประเทศอิตาลี เขาเริ่มสนใจในแฟชั่นตั้งแต่อายุเพียง 9 ขวบ หลังจากได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Ziegfeld Girl แรงบันดาลใจสำคัญผลักดันให้เขาสานฝันการไปเรียนต่อด้านแฟชั่น ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศจากเวที International Wool Secretariat ซึ่งรางวัลดังกล่าวมีดีไซเนอร์ชื่อดังหลายคนเคยชนะมาแล้ว เช่น Yves Saint Laurent และ Karl Lagerfeld รางวัลนี้เป็นใบเบิกทางให้ Valentino เริ่มงานสายอาชีพดีไซเนอร์กับแบรนด์ Jean Dessès ห้องเสื้อระดับโอต์กูตูร์จากประเทศฝรั่งเศส ที่นี่เองเป็นโรงเรียนสอนให้เขารู้จักเทคนิคการตัดเย็บแบบ Atelier ก่อนจะมาทำงานที่แบรนด์ Guy Laroche นานถึง 2 ปี ซึ่งประสบการณ์ทั้งหมดเสริมความมั่นใจให้เขากล้าเปิดแบรนด์ของตัวเองในเวลาต่อมา โดยใช้ชื่อ Valentino ในปี 1952
VALENTINO RED
ในยุคสมัยที่แบรนด์แฟชั่นกำลังเกิดขึ้นมากมาย ไม่ใช่แค่ Valentino เท่านั้นที่เปิดตัวในช่วงนั้น เขาจึงจำเป็นต้องหาซิกเนเจอร์ให้กับแบรนด์ตัวเอง นั่นจึงเป็นที่มาของ The Valentino Red Dress เดรสสีแดงทำจากผ้ากำมะหยี่ดูหรูหราสะดุดตา จนคนในแวดวงแฟชั่นขนานนามว่า Valentino Red ซึ่งความโด่งดังของเขาไปเข้าหูนักแสดงสาว Elizabeth Taylor ที่กำลังถ่ายภาพยนตร์เรื่อง Spatacus ที่โรมพอดี เธอจึงสั่งตัดชุดจาก Valentino สำหรับใช้สวมใส่ช่วงเดินสายโปรโมตภาพยนตร์ และกลายเป็นลูกค้าประจำที่ตัดชุดกับเขาอยู่บ่อยครั้ง โดยในปี 1961 เธอซื้อเสื้อผ้าคอลเล็กชัน Fall/Winter 1961 จากแบรนด์ไปหลายชุด แต่เดรสขาวสไตล์กรีกโรมันที่เธอสวมใส่ขณะเต้นรำ ถูกถ่ายโดยช่างภาพและกลายเป็นที่พูดถึงชั่วความคืน จนส่งให้ชื่อของ Valentino โด่งดังข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงสหรัฐอเมริกา
VALENTINO’S WOMEN
นอกจาก Elizabeth Taylor แล้ว ยังมีคนดังอีกมากมายที่หลงใหลงานดีไซน์ของ Valentino รวมถึงในหมู่สมาชิกราชวงศ์หลายประเทศ แต่ที่สร้างปรากฏการณ์มากที่สุดคือ Jacqueline Kennedy สุภาพสตรีหมายเลข 1 ภรรยาของ John F. Kenedy แห่งสหรัฐอเมริกา เมื่อเธอเห็นเพื่อนของเธอสวมใส่ชุดของ Valentino จนต้องแอบถามว่าแบรนด์อะไร เมื่อ Valentino มาโปรโมตแบรนด์ที่สหรัฐอเมริกา Jacqueline ไม่สามารถไปร่วมชมโชว์ของเขาได้ แต่เขากลับส่งนางแบบและชุดมากมายเพื่อทำแฟชั่นโชว์แบบส่วนตัวให้เธอถึงที่ สร้างความประทับอย่างมากต่อตัวเธอ Jacqueline เปรียบได้กับแฟชั่นไอคอนของผู้หญิงในยุคนั้น ผู้หญิงทั่วโลกต่างชื่นชมสไตล์ของเธออย่างมาก ในงานไว้ทุกข์ของอดีตสามีเธอเลือกสวมชุดสีดำจาก Valentino รวมถึงชุดแต่งงานกับสามีคนใหม่ Aristotle Onassis ที่เลือกตัดกับแบรนด์เช่นเดิม ส่วนในปี 2001 นักแสดงสาว Julia Roberts คว้ารางวัลออสการ์ตัวแรกของเธอในชุดจาก Valentino ซึ่งเดรสตัวนั้นถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในชุดที่ดีที่สุดจากเวทีออสการ์ตลอดกาล
OTHER VALENTINO LINES
ไม่ใช่แค่ไลน์แฟชั่นผู้หญิงเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ แบรนด์ Valentino ยังมีไลน์เสื้อผ้าผู้ชายที่ทำได้ดีเช่นเดียวกัน รวมถึงไลน์น้ำหอมที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1978 ในชื่อ Valentino Classique for Women จนกระทั่งในปี 2020 กับ Voce Viva ที่ได้ศิลปินสาวคุณภาพ Lady Gaga มาเป็นพรีเซนเตอร์ รวมถึงไลน์แว่นตาที่แบรนด์เซ็นสัญญาร่วมกับบริษัท Akoni Group ในการผลิตและจัดจำหน่าย ในปี 2003 แบรนด์เปิดตัวแบรนด์ลูกชื่อ Red Valentino ซึ่งไลน์นี้ Valentino มอบหมายให้ดีไซเนอร์มือขวา Maria Grazia Chiuri และ Pierpaolo Piccioli มาดูแลงานดีไซน์ทั้งหมด และในปี 2021 แบรนด์เปิดอีกหนึ่งไลน์ใหม่ขึ้นมานั่นก็คือ Valentino Beauty ไลน์เครื่องสำอางที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ไลน์อื่นๆ เลย
ALESSANDRA FACCHINETTI ERA
ในช่วงปี 2007 หลังจากบริษัทของ Valentino ถูกซื้อโดยเครือบริษัท Permira ทำให้ Valentino และพาร์ตเนอร์ของเขา Giancarlo Giammetti ตัดสินใจลาออก ซึ่งภายหลังแบรนด์ดึงตัวดีไซเนอร์ชาวอิตาเลียน Alessandra Facchinetti มาเข้ารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ต่อจาก Valentino แต่ก็น่าเสียดายเธอดำรงตำแหน่งได้เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น แม้ผลงานของเธอจะดูสวยและมีความโมเดิร์น แต่หลายเสียงกลับมองว่ามันขาดเสน่ห์ และ DNA ของ Valentino ไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเคยเกิดขึ้นกับเธอมาแล้วครั้งหนึ่งในปี 2005 เมื่อเธอมารับช่วงต่อจาก Tom Ford ที่แบรนด์ Gucci หลังจากเพียงสองคอลเล็กชันเธอก็ถูกแทนที่ด้วย Frida Giannini ทันที
MARIA AND PIERPAOLO ERA
ทำงานคู่กับ Valentino มาอย่างยาวนาน ในที่สุดแล้ว Maria Grazia Chiuri และ Pierpaolo Piccioli ทั้งสองก้าวขึ้นรับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ให้กับแบรนด์ ช่วงแรกของการทำงานนั้น Maria เป็นคนรับผิดชอบในแผนกเสื้อผ้าทั้งหมด ในขณะที่ Pierpaolo ดูแลฝั่งแอ็กเซสซอรี ทั้งสองสามารถสร้างไอเท็มไวรัลอย่าง Valentino Studded ดึงฐานลูกค้าวัยรุ่นเพิ่มมากขึ้น พร้อมสร้างยอดขายอย่างมหาศาล แต่แล้วในปี 2016 Maria ย้ายไปทำงานที่ Dior ส่งไม้ต่อให้ Pierpaolo เข้ามาดูแลภาพลักษณ์ทั้งหมดของแบรนด์ ภายใต้วิสัยทัศน์ของเขา เขาสามารถสร้างภาพจำมากมายให้กับ Valentino ตั้งแต่คอลเล็กชัน Valentino Pink PP เฉดสีชมพูไวรัลชั่วข้ามคืน รวมไปถึงการร่วมงานกับนักแสดงสาวแห่งยุค Zendaya ซึ่งกว่า 17 ปีที่ผ่านมา Pierpaolo ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้วว่า Valentino ในยุคของเขานั้นรุ่งเรืองและประสบความสำเร็จมากแค่ไหน
NEW ERA WITH ALESSANDRO MICHELE
ในปี 2022 เกิดข่าวช็อกวงการแฟชั่น เมื่อ Alessandro Michele ประกาศลาออกจากตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของแบรนด์ Gucci การลาออกของเขาสร้างความฉงนไม่น้อยให้กับวงการ อย่างไรก็ตามในช่วงกลางปีที่ผ่านมานี้ Valentino ประกาศการร่วมงานกับเขา พร้อมทั้งการลงจากตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Pierpaolo จนหลายคนตั้งคำถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่ว่าเบื้องหลังการเปลี่ยนตัวนี้จะมาจากเหตุผลใดก็ตาม หลายคนมองว่า Alessandro น่าจะสามารถนำมุมมองสุดแฟนตาซีของเขามาใช้ที่ Valentino ได้อย่างเต็มที่ โดยเมื่อไม่นานหลังจากประกาศ ทางแบรนด์ได้ปล่อยรูปภาพคอลเล็กชัน Resort 2025 ซึ่งเป็นผลงานแรกของเขาภายใต้แบรนด์ใหม่ เขานำสไตล์กลิ่นอายเรโทรแบบที่เขาถนัดมาสร้างสรรค์กว่า 180 ลุคได้อย่างน่าสนใจ พร้อมทั้งกระชากภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูเด็กลง โดยเราเชื่อว่านี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของเขาเท่านั้น เราเคยเห็นมนตร์สะกดที่เขาสร้างให้ Gucci มาแล้ว และครั้งนี้เขาจะมีโอกาสลงมือทำเสื้อโอต์กูตูร์อีกด้วย วงการแฟชั่นต้องได้ตื่นเต้นกับเขาอีกแน่นอน
ภาพ: Getty Images, Courtesy of Valentino