×

7 THINGS WE LOVE ABOUT THOM BROWNE ดีไซเนอร์ผู้ปฏิวัติการดีไซน์ชุดสูท

16.02.2025
  • LOADING...
THOM BROWNE

เชื่อว่าในหมู่คนรักแฟชั่นคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้จัก Thom Browne แบรนด์เสื้อผ้าสุดหรูที่มีไอเท็มซิกเนเจอร์เป็นสูทสั้นเต่อสีเทา ที่เป็นผลงานการพลิกโฉมวงการสูทสุภาพบุรุษ ซึ่งอาจคุ้นตากันจากบรรดานักการเมืองและประธานาธิบดีของทางฝั่งอเมริกาที่เคยปรากฏตัวในลุคของแบรนด์ หรือลายทางสามสี แดง ขาว และน้ำเงิน อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ที่หลายคนจดจำแบรนด์ของเขาได้ จนกล่าวได้ว่า Thom Browne เป็นหนึ่งในนักออกแบบแฟชั่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดในยุคปัจจุบัน

 

อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังความสำเร็จของดีไซเนอร์ผู้ปฏิวัติวงการแฟชั่นคนนี้อาจยังไม่ได้เป็นที่กล่าวถึงอย่างแพร่หลายมากนัก THE STANDARD POP จึงอยากพาทุกคนมาดูแต่ละช่วงชีวิตของ Thom Browne ที่เต็มไปด้วยแง่มุมน่าสนใจ ตั้งแต่จุดแรกที่เขาเริ่มรังสรรค์เสื้อผ้า วันแรกของแบรนด์ที่ขัดกับเทรนด์ของสังคม ไปจนถึงการประสบความสำเร็จและชีวิตส่วนตัว ว่ากว่าจะมาเป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับจากทั้งแฟชั่นและธุรกิจต่างๆ นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร

 

 

EARLY LIFE AND FIRST JOBS

 

สำหรับชีวิตก่อนก้าวเข้าสู่การทำงานในวงการแฟชั่นของ Thom Browne นั้นอาจแตกต่างจากเหล่าดีไซเนอร์ทั่วไปสักหน่อย เพราะหลังจากเติบโตขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนียในครอบครัวทนายความ Thom ได้เข้าเรียนที่ University of Notre Dame ด้านธุรกิจ และเลือกเดินบนเส้นทางการเป็นนักแสดงที่ลอสแอนเจลิส แต่ในขณะที่เขากำลังตั้งใจไล่ตามความฝัน ช่วงเวลานี้เองที่ทำให้นักแสดงวัยราวๆ 30 ปีได้ค้นพบความหลงใหลที่ตัวเองมีต่อการตัดเย็บเสื้อผ้าสไตล์วินเทจของเหล่าสุภาพบุรุษ จึงตัดสินใจย้ายมาสู่นิวยอร์กและเริ่มเดินบนเส้นทางอุตสาหกรรมแฟชั่นด้วยการเป็นเซลส์แมนของ Giorgio Armani และสั่งสมประสบการณ์จนเขาได้ไปทำงานด้านการออกแบบที่ Club Monaco หนึ่งในแบรนด์ลูกของ Polo Ralph Lauren ซึ่งทำให้เขาได้ทำงานใกล้ชิดกับไอคอนของวงการอย่าง Ralph Lauren และเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของเขาในการก่อตั้งแบรนด์ในเวลาต่อมา

 

 

 

 

 

LAUNCHING THOM BROWNE

 

ปี 2001 แบรนด์ Thom Browne ถือกำเนิดขึ้นจากการรังสรรค์สูทสีเทา 5 ชุดที่เน้นความเนี้ยบ มีโครงสร้างที่โดดเด่นด้วยการปรับสูทแบบดั้งเดิมให้มีความทันสมัย กลายเป็นสูทเข้ารูปที่มีความกระชับ ทั้งส่วนแขนเสื้อ ชายเสื้อ และขากางเกงที่สั้นหรือเต่อกว่าปกติ จนกลายเป็นที่รู้จักในชื่อ Shrunken Suit นอกจากนี้การดีไซน์สูทสุดแปลกตาท่ามกลางกระแสความนิยมของเหล่าไอเท็มเดนิมและสตรีทแวร์ ถือเป็นการแหกกรอบที่สร้างเสียงฮือฮาและดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นอย่างดี จน Thom Browne สามารถเริ่มต้นธุรกิจแบรนด์อย่างเป็นทางการได้ในปี 2003 ที่ย่านเวสต์วิลเลจ โดยเน้นบริการสูทสั่งตัดพิเศษหรือ Made-to-Measure และในปีถัดมา เขาโชว์ผลงานคอลเล็กชันแรกบนรันเวย์ที่ New York Fashion Week กระทั่งคว้ารางวัล CFDA Menswear Designer of the Year ในปี 2006 ที่ทำให้เขามีชื่อเสียงมากขึ้น และได้เปลี่ยนรูปแบบการให้บริการของแบรนด์กลายเป็นร้านค้าปลีก (Retail Store) เป็นครั้งแรก 

 

 

 

 

 

SIGNATURE STRIPES

 

นอกจากซิลูเอตที่สะดุดตาแล้ว เอกลักษณ์โดดเด่นที่สำคัญของแบรนด์ Thom Browne ที่เหล่าสายแฟชั่นคงคุ้นตาและจำกันได้ก็คือเส้นแถบทั้ง 2 แบบ ได้แก่ แถบผ้าสีแดง ขาว น้ำเงิน ที่ปรากฏอยู่บนแขนเสื้อ สูท กางเกง ไปจนถึงเครื่องประดับ ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยว่ามันมีความหมายพิเศษใดๆ หรือไม่ แต่ก็เป็นที่รับรู้กันว่านี่คือสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเป็นอเมริกันที่เป็นหัวใจสำคัญของ Thom ในทุกๆ คอลเล็กชัน และเส้นแถบสีขาวแนวนอน 4 เส้นสุดไอคอนิกที่มักอยู่บนแขนเสื้อหรือกางเกง แสดงถึงความหรูหราแบบสปอร์ตที่แปลกตาไปจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด ทำให้ทุกคนรู้ได้ทันทีว่านี่คือผลงานของ Thom Browne นั่นเอง

 

 

 

MONCLER GAMME BLEU

 

อีกหนึ่งผลงานสำคัญที่กลายเป็นการขยายแนวทางการออกแบบของ Thom Browne ให้ผู้คนได้รับชมอย่างหลากหลายมากขึ้น นั่นคือการได้ร่วมงานกับ Moncler ในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของไลน์พิเศษอย่าง Moncler Gamme Bleu ตั้งแต่ปี 2009-2017 โดยนำเอาความเชี่ยวชาญในการออกแบบเครื่องแต่งกายผู้ชายมาผสมผสานเข้ากับดีเอ็นเอของ Moncler ที่เน้นเสื้อผ้ากันหนาว ถ่ายทอดออกมาเป็นคอลเล็กชันที่โดดเด่นด้วยการนำโครงสร้างของสูทเทเลอริงมาผสมกับวัสดุที่ใช้ในชุดสกีและแอ็กทีฟแวร์ ทำให้เกิดดีไซน์ที่ทั้งหรูหราและใช้งานได้จริง โดยในแต่ละซีซันจะมีแรงบันดาลใจที่แตกต่างกัน เช่น ธีมนักกีฬา ทหาร หรือนักสำรวจธรรมชาติ เรียกได้ว่า Moncler Gamme Bleu กลายเป็นหนึ่งในไลน์ที่สร้างสรรค์และเป็นที่จดจำมากที่สุดของ Moncler และถือเป็นการประกาศชื่อเสียงของ Thom Browne เข้าสู่โลกของลักชัวรีสปอร์ตแวร์ ขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของการตัดเย็บแบบดั้งเดิมไว้อย่างชัดเจน

 

 

 

 

STORE DESIGNS

 

เช่นเดียวกับลักชัวรีแบรนด์อื่นๆ ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าให้ทัดเทียมกับคุณภาพของวัสดุและการตัดเย็บ ทุกวินาทีในร้านของ Thom Browne จะรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในยุค 1950 ที่เขาเลือกนำแรงบันดาลใจจากสำนักงานในยุคนั้นที่มีความคลาสสิก ผสมผสานกับการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ดูโมเดิร์นและสะอาดตา เน้นการใช้โทนสีขาว เทา และดำ พร้อมกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Mid-Century Modern ทำให้บรรยากาศการช้อปปิ้งมีเอกลักษณ์และน่าจดจำไปพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะร้านแฟลกชิปในนิวยอร์กที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในร้านค้าที่สวยที่สุดในโลก

 

 

 

 

 

COLLABORATIONS

 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเกินกว่าทศวรรษ Thom Browne ได้ร่วมงานกับแบรนด์และองค์กรมากมาย ตั้งแต่การคอลลาบอเรชันแรกกับ Supreme ในการออกแบบเสื้อเชิ้ตปกคอแบบ Chambray ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2010 ไปจนถึงการจับมือกับวงการอื่นๆ เช่น การออกแบบชุดให้กับทีมบาสเกตบอล Cleveland Cavaliers ชุดสูทสำหรับนักเตะในการเดินทางและงานทางการให้กับสโมสรฟุตบอล FC Barcelona ที่โด่งดังในฝั่งวงการกีฬา หรือด้านเทคโนโลยีอย่างการร่วมมือกับ Samsung ในการออกแบบ Galaxy Z Fold5 และ Galaxy Watch6 รุ่นพิเศษที่มีดีไซน์เฉพาะตัว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการนำเอาเอกลักษณ์ของแบรนด์ไปประยุกต์ใช้ในบริบทที่แตกต่างกัน รวมไปถึงการผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมได้อย่างน่าสนใจ

 

 

 

 

PERSONAL LIFE

 

แม้จะเป็นที่รู้จักจากผลงานการออกแบบที่สร้างสรรค์และแหวกแนว แต่ชีวิตส่วนตัวของ Thom Browne กลับเรียบง่ายและมีระเบียบแบบแผน เขามักจะสวมชุดสูทซิกเนเจอร์ของตัวเองเสมอไม่ว่าจะไปปรากฏตัวที่ใด นอกจากนี้ Thom ยังขึ้นชื่อว่าเป็นนักสะสมงานศิลปะและเฟอร์นิเจอร์ยุคกลางศตวรรษที่ 20 ที่รสนิยมดังกล่าวได้สะท้อนให้เห็นในงานออกแบบของเขาอย่างชัดเจน ส่วนในด้านความสัมพันธ์นั้น ปัจจุบันเขาใช้ชีวิตอยู่ในนิวยอร์กกับ Andrew Bolton คู่ชีวิตของเขาซึ่งเป็นภัณฑารักษ์ของ Costume Institute แห่ง Metropolitan Museum of Art ซึ่งการเปิดเผยเรื่องราวความรักของตนเองอย่างตรงไปตรงมานี้เอง ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในวงการแฟชั่นและ LGBTQIA+ ทั่วโลกอีกด้วย

 

 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories