HUMBLE BEGINNINGS
Met Gala จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1948 โดยบุคคลสำคัญในวงการแฟชั่นในยุคนั้นอย่าง Eleanor Lambert ซึ่งในตอนนั้นลักษณะของงานเป็นแค่ไพรเวตดินเนอร์เล็กๆ ของคนในแวดวงสังคม และเหล่าแกนนำสำคัญของคนในวงการแฟชั่นเท่านั้น มีค่าเข้าร่วมงานเพียงแค่ครั้งละ 55 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะถูกปรับโฉมใหม่โดย Diana Vreeland อดีตบรรณาธิการของนิตยสาร Vogue อเมริกา ที่เข้ามาดูแลปรับโฉมให้ตัวงานดูโอ่อ่าและหรูหรามากขึ้น การมาของเธอเข้ามาเปลี่ยนให้ตัวงานเน้นหนักไปที่เรื่องของแฟชั่น นอกจากแวดวงกลุ่มคนมีฐานะแล้วนั้น Diana ยังเริ่มเชิญดาราคนดังมาที่งาน และย้ายสถานที่จัดจากโรงแรมตามเมืองนิวยอร์กสู่พิพิธภัณฑ์ The Metropolitan Museum of Art จนกลายเป็นสถานที่จัดงานจวบจนทุกวันนี้
ANNA WINTOUR INVOLVEMENT
จุดเปลี่ยนที่พลิกโฉมหน้าของ Met Gala ไปตลอดกาลคือ การเข้ามาของ Anna Wintour ในปี 1995 เมื่อเธอได้รับไม้ต่อจาก Pat Buckley เธอพลิกโฉมงานสังคมเล็กๆ สู่อีเวนต์แฟชั่นใหญ่ยักษ์ประจำปีที่ทั้งโลกตั้งตารอชมขบวนคนดังแต่งตัวมาประชันกันบนพรมแดง งาน Met Gala ถูกขนานนามว่า The Superbowl of Fashion หรือ The Oscars of Fashion เพราะเธอผลักดันให้ Met Gala ไปไกลกว่าที่ Diana เคยทำไว้ แต่ยังคงรักษาธรรมเนียมและเน้นหนักในเรื่องของแฟชั่นเช่นเดิม โดยทุกปี Met Gala จะมาพร้อมธีมการแต่งกายให้สอดคล้องกับนิทรรศการที่จัดขึ้นในปีนั้นๆ
นอกจากหน้าตาของตัวงานแล้ว Anna ยังสร้างปรากฏการณ์สามารถระดมทุนได้มากกว่า 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไม่แปลกเลยที่ The Costume Institute ตั้งชื่อสถานที่จัดนิทรรศการในชื่อ ‘Anna Wintour Costume Center’ เพื่อยกย่องความสำเร็จที่เธอสร้างให้กับพิพิธภัณฑ์ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันนี้ที่งาน Met Gala กลายเป็นจุดหมายของดารา นักร้อง นักแสดง และเซเลบริตี้จากทั่วทุกมุมโลก ที่หวังว่าจะมีโอกาสเข้าร่วมงานอันยิ่งใหญ่นี้
NOT EVERYONE IS INVITED
แม้ตัวงานจะดูยิ่งใหญ่เอิกเกริกแค่ไหนก็ตาม แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถมาร่วมอีเวนต์นี้ได้ แขกทุกคนจะต้องถูกเชิญจาก The Costume Institute เท่านั้น โดย Anna Wintour จะเป็นคนคอนเฟิร์มเองว่าใครควรมาร่วมงานหรือไม่ควร ด้วยจำนวนโต๊ะดินเนอร์ที่มีจำกัดทำให้อีเวนต์ Met Gala ต้องคัดเลือกผู้เข้าร่วมงานทุกคน และเธอยังเป็นคนจัดที่นั่งทั้งหมดในงานอีกด้วยว่าแบรนด์หรือใครควรนั่งอยู่ตรงไหน แน่นอนว่างานนี้เป็นการระดมทุนตั๋วเข้าร่วมงานสำหรับหนึ่งคนอยู่ที่ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 1,190,000 บาท นอกจากจ่ายเป็นรายบุคคลแล้ว งาน Met Gala ยังถือเป็นอีเวนต์สำคัญสำหรับสร้างมูลค่าทางสื่อให้กับแบรนด์แฟชั่นอย่างมหาศาล แบรนด์ที่อยากเหมาโต๊ะเพื่อจะได้ขนมิวส์หรือแบรนด์แอมบาสเดอร์มาได้อย่างจุใจ ต้องยอมจ่ายค่าโต๊ะราวๆ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 10 กว่าล้านบาท ล่าสุดมีข่าวรายงานว่าค่าตั๋วของ Met Gala ปี 2023 ต่อคนราคากระโดดไปอยู่ที่ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,700,000 บาทแล้ว
WHAT HAPPENS AT THE MET GALA
หลักๆ แล้วงาน Met Gala ไม่ต่างอะไรกับการมาชมพิพิธภัณฑ์ ดินเนอร์ ฟังเพลง และเต้นรำ ในทุกๆ ปีนิทรรศการจะประกาศ Co-Host ซึ่งขาประจำก็คือ Anna Wintour ที่มักจะมาเป็นคนแรกของงานเสมอเพื่อต้อนรับแขกที่มาร่วมงานด้วยตัวเองร่วมกับ Co-Host ของงานในแต่ละปี ในปีนี้ Met Gala ได้แบรนด์ Chanel และ Fendi มาร่วมในฐานะ Co-Host ซึ่งทั้งสองแบรนด์เป็นแบรนด์ที่ Karl Lagerfeld ร่วมงานในขณะนั้นด้วยก่อนเสียชีวิต เมื่อแขกเข้าสู่ตัวพิพิธภัณฑ์จะต้องเดินชมนิทรรศการที่จัดแสดงขึ้นก่อนถึงจะไปนั่งประจำโต๊ะและที่นั่งของตัวเองเพื่อรับประทานอาหารค่ำ และร่วมชมการแสดงจากศิลปินชั้นนำภายในงาน ซึ่งผู้ที่เคยขึ้นแสดงที่ Met Gala มีทั้ง Lady Gaga, Madonna, Rihanna, Justin Bieber และอีกมากมาย หนึ่งในกฎหินของงานนี้คือห้ามถ่ายรูปภายในงานเด็ดขาด ไม่แปลกเลยที่เรามักเห็นเหล่าคนดังแอบไปถ่ายรูปกันเองในห้องน้ำจนกลายเป็นอีกหนึ่งธรรมเนียมที่เกิดขึ้นในยุคโซเชียลมีเดีย
IT’S ALL ABOUT THE FASHION
ในทุกๆ ปี Met Gala จะมาพร้อมธีมการแต่งตัวที่สอดคล้องกับนิทรรศการที่จัดโชว์ เช่น Camp: Notes on Fashion ในปี 2019, China: Through the Looking Glass ในปี 2015, Alexander McQueen: Savage Beauty ในปี 2011 และอีกมากมาย เพื่อเป็นโจทย์ให้กับแบรนด์ได้ไปทำการบ้านในการรังสรรค์ชุดสำหรับผู้เข้าร่วมงานในปีนั้น แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นงานระดมทุนก็ตาม แต่ Met Gala คืออีเวนต์แฟชั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เพราะ Anna Wintour และผู้ดูแลคนก่อนๆ ต้องการชูแฟชั่นให้เป็นจุดประสงค์หลักของงานนี้ คนดังที่เข้าร่วมงานทุกคนจึงถือโอกาสนี้จัดเต็มในการแต่งตัวแบบไม่ยั้ง เราเห็นชุดทั้งสวยแบบตาแตกและแปลกประหลาดมาแล้วมากมายในงานพรมแดง Met Gala ตั้งแต่เดรสชมพูฟูฟ่องจาก Lady Gaga ก่อนจะค่อยๆ ถอดจนเหลือแต่ชุดชั้นใน เดรสแชนเดอเลียร์ของ Katy Perry เดรสเรืองแสงแบบ Cinderella ของ Zendaya ไปจนถึงชุดคลุมสีดำทั่วทั้งตัวของ Kim Kardashian และแน่นอนว่าปีนี้เราน่าจะมีโอกาสเห็นชุดปังจากอีกหลายๆ คนอย่างแน่นอน
POP CULTURE SIDE
นอกจากจะเป็นงานอีเวนต์แฟชั่นประจำปีแล้ว Met Gala ยังกลายเป็นป๊อปคัลเจอร์สำคัญของคนมาหลายยุคหลายสมัย แน่นอนว่าหลักๆ จะมาจากโมเมนต์ไวรัลที่เกิดขึ้นจากตัวงานรวมถึง Meme ต่างๆ จากการที่เหล่าคนดังแต่งตัวมาร่วมงาน กระแสของ Met Gala ยังถูกพูดถึงผ่านภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่น เช่น The Devil Wears Prada, Gossip Girl หรือ Ocean’s 8 ที่รายหลังใช้อีเวนต์ Met Gala เป็นตัวดำเนินเรื่องเลยด้วยซ้ำ ในปี 2016 ผู้กำกับภาพยนตร์ Andrew Rossi ปล่อยภาพยนตร์สารคดี The First Monday in May กับการตามติดชีวิต Andrew Bolton ภัณฑารักษ์ประจำ The Costume Institute ของ The Met ในการคัดเลือกงานดีไซน์ทั้งหมดที่จะมาโชว์ในปีนั้น ถือเป็นการพาผู้ชมไปดูเบื้องหลังของคนทำงาน ว่ากว่างานเลี้ยงอันหรูหรานี้จะเกิดขึ้นนั้นต้องใช้เวลาเกือบปีในการสร้างสรรค์
QUEEN OF THE NIGHT
เชื่อว่าหลายคนคงผ่านตาลุคพรมแดงของเหล่าคนดังที่ตบเท้าเข้าร่วมงาน Met Gala ไม่มากก็น้อย ในทุกๆ ปีเรามักจะได้พบกับลุคสุดปังที่สวยจนขึ้นแท่นไอคอนิก หรือชุดประหลาดที่กลายเป็น Meme บนโลกออนไลน์ พรมแดงของ Met Gala เรียกว่ายิ่งใหญ่มากๆ เพราะใครก็อยากร่วมงานระดับนี้ทั้งนั้น ปีที่แล้วถือเป็นครั้งแรกที่สาวๆ บ้าน Kardashians ได้เดินพรมแดงงานนี้ครบทุกคน ปีนี้มีข่าวลือว่าทั้ง Jennie และ Rosé แห่ง BLACKPINK รวมถึง Jimin และ RM แห่ง BTS จะมาร่วมงานนี้ด้วย น่าจะเรียกเสียงกรี๊ดให้กับแฟนคลับได้มหาศาล แต่ถ้าถามว่าใครคือ ‘ตัวมารดา’ ของค่ำคืน Met Gala เราขอยกตำแหน่งให้กับ Rihanna นักร้องที่ผันตัวเป็นแม่ค้าผู้ที่ปรากฏตัวที่งานนี้ทีไรต้องขึ้นแท่น Look of the Night เสมอ ไม่ว่าจะเป็นชุด Guo Pei ที่กลายเป็น Meme ไปตลอดกาล จนไปถึงชุดผ้านวมคู่ที่เธอเลือกแมตช์กับแฟนหนุ่มในปี 2021 หรือชุดโป๊ปในปี 2018 ไม่มีครั้งไหนที่เธอมาธรรมดาเลย และถ้าปีนี้เธอเข้าร่วม เราอาจมีโอกาสได้เห็นชุดคลุมท้องสุดปังที่งานนี้ก็เป็นได้