ชื่อของ Raf Simons ถือเป็นบุคลากรแฟชั่นผู้เป็นแรงบันดาลใจและต้นแบบของดีไซเนอร์มากมายจากผลงานสไตล์อาว็องการ์ด (Avant-Garde) ที่ผสมผสานกลิ่นอายสตรีทแวร์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งการผสมผสานนี้สร้างชื่อให้กับแบรนด์ Raf Simons จนมีแฟนคลับขาประจำที่พร้อมยอมเปย์เพื่อครอบครองผลงานของเขา
Raf เองยังเป็นดีไซเนอร์เพียงไม่กี่คนที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์ใหญ่ในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น Jil Sander, Christian Dior, Calvin Klein และล่าสุด Prada ที่เขาร่วมออกแบบกับ Miuccia Prada จนส่งให้แบรนด์นี้กลายเป็นแบรนด์ฮอตที่สุดจากการจัดอันดับของ Lyst หลายครั้งติดต่อกัน ไม่แปลกหากเขาจะเป็นหนึ่งในดีไซเนอร์ทรงอิทธิพลที่สุดของศตวรรษที่ 21
THE STANDARD POP จะพาทุกคนไปทำความรู้จักเส้นทางของ Raf Simons คนนี้กันมากขึ้น
EARLY YEARS
Raf Jan Simons ดีไซเนอร์ชาวเบลเยียม จบการศึกษาด้านการออกแบบอุตสาหกรรมและการออกแบบเฟอร์นิเจอร์จากสถาบัน LUCA School of Arts ในเมืองเคงก์ ประเทศเบลเยียม อาชีพแรกของเขาคือการเป็นนักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ก่อนที่เขาจะมีโอกาสไปฝึกงานกับหนึ่งใน Antwerp Six ดีไซเนอร์ชาวเบลเยียมผู้พลิกโฉมวงการแฟชั่นอย่าง Walter Van Beirendonck ในปี 1991-1993 ซึ่ง Walter พา Raf ไปเปิดหูเปิดตาที่ Paris Fashion Week และมีโอกาสชมโชว์ระดับตำนานจาก Maison Martin Margiela คอลเล็กชัน All-White Show จนจุดประกายให้เขาหันหลังให้กับวงการเฟอร์นิเจอร์และเข้าสู่การเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์อย่างเต็มตัว
RAF SIMONS BRAND
ในปี 1995 เขาเปิดแบรนด์ Menswear ในชื่อของตนเอง Raf Simons โดยคอลเล็กชัน Fall/Winter 1995 เป็นคอลเล็กชันแรกจากแบรนด์ของเขา ซึ่งในช่วงแรกเขานำเสนอคอลเล็กชันผ่านการใช้วิดีโอและพรีเซนเทชันเล็กๆ จนกระทั่ง Fall/Winter 1997 ถือเป็นคอลเล็กชันแรกที่เขานำเสนอผ่านรันเวย์ เสื้อผ้าของ Raf ได้รับความนิยมในหมู่เด็กแฟชั่นและสายสตรีท เมื่อเขานำเสนอเสื้อผ้าสไตล์ Youth Cultutre เป็นการนำเอาคัลเจอร์อย่าง New Wave, Punk และ American College เข้ามาผสมผสาน ชื่อของเขาเริ่มเป็นที่กล่าวถึงมากขึ้น จนกระทั่งชุดของเขาได้ปรากฏบนนิตยสาร V Magazine หลังจากนั้นไม่นานคอลเล็กชันของเขาได้รับการจับตามองจากเหล่าเอดิเตอร์จากนิตยสารแฟชั่น สไตลิสต์ และเซเลบริตี้ชื่อดังหลายคน แม้ว่าปัจจุบันแบรนด์ Raf Simons จะปิดตัวลงในปี 2023 แต่ชิ้นงานอาร์ไคฟ์ของเขายังเป็นไอเท็มที่หลายคนตามหาอยู่
LEGENDARY JIL SANDER ERA
หลังจากประสบความสำเร็จจากแบรนด์ของตัวเอง เขาเข้ารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ให้กับ Jil Sander แบรนด์ดังที่มีเอกลักษณ์ในงานดีไซน์สุดมินิมัล ซึ่งเขาเข้ามาดูแลไลน์ทั้งเสื้อผ้าผู้หญิงและผู้ชาย เขายกระดับ Jil Sander ให้มากกว่าแค่มินิมัล เมื่อเขานำซิลูเอตและโครงสร้างจากการออกแบบเฟอร์นิเจอร์มาปรับใช้เป็นเส้นโค้งเว้าและเส้นสายในการทำเสื้อผ้า จนทำให้งานดีไซน์ของเขาโดดเด่น เป็นมินิมัลที่ดูมีมิติและไม่เรียบง่ายแบบน่าเบื่อ แถมเขายังสร้าง Jil Sander Navy ไลน์แยกที่เน้นเสื้อผ้าที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั้งในแง่ของการดีไซน์และราคาที่จับต้องได้มากขึ้น จนทำให้แบรนด์ Jil Sander เป็นที่นิยมมากขึ้นตามลำดับ
COLLABORATION KING
Raf มีแฟนคลับสายสตรีทมากมายทั่วโลกจากความนิยมของแบรนด์ Raf Simons ชื่อของเขากลายเป็นดีไซเนอร์ที่แบรนด์อยากดึงตัวมาร่วมคอลลาบอเรชันมากที่สุด ซึ่งเขามีโอกาสชิมลางทำคอลเล็กชันคอลลาบอเรชันแรกร่วมกับแบรนด์ Fred Perry ก่อนจะต่อยอดมาที่แบรนด์ Linda Farrow ซึ่งเขามีโอกาสออกแบบแว่นกันแดด แต่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคงไม่พ้นการร่วมงานกันระหว่างเขาและ adidas แบรนด์สปอร์ตชื่อดังในปี 2013 ซึ่งเขาได้ออกแบบคอลเล็กชันสนีกเกอร์รุ่นลิมิเต็ดเอดิชันทั้งหมด 5 แบบ ซึ่งทุกแบบได้รับความนิยมและขายหมดเกลี้ยงทุกครั้งที่ปล่อยออกมา และเขาได้กลับมาร่วมงานกับ adidas อีกครั้งในปี 2013 กับรองเท้ารุ่น Stan Smith ที่มีเอกลักษณ์อยู่ที่ตัว R
YEARS AT DIOR
ชื่อของ Raf ปรากฏบนเฮดไลน์ข่าวแฟชั่นทั่วโลกอีกครั้ง เมื่อเขามารับหน้าที่ครีเอทีฟไดเรกเตอร์แทนที่ John Galliano ที่แบรนด์ Dior ซึ่งคอลเล็กชันแรกของเขาคือการออกแบบคอลเล็กชันโอต์กูตูร์ Fall/Winter 2012 ในระหว่างการออกแบบคอลเล็กชันนี้มีการเก็บฟุตเทจที่ภายหลังกลายเป็นภาพยนตร์สารคดีในชื่อ Dior and I เปิดเผยความกดดันในการปรับตัวและสร้างคอลเล็กชันแรกของเขา งานดีไซน์ของ Raf ที่ Dior ได้รับคำชมเชยถึงความสวยงามอันวิจิตร เขาสามารถผสมผสานระหว่างโค้ดของ Dior อย่าง New Look เข้ากับมุมมองอันเฉียบคม เรียบแต่โก้ของเขาได้อย่างลงตัว โมเมนต์ที่หลายคนจดจำมาจากเดรสขาวที่ Jennifer Lawrence สวมขึ้นรับรางวัลออสการ์ อย่างไรก็ตาม งานหลังๆ ของเขากลับเริ่มเข้าใจยากมากขึ้น และนั่นทำให้เขาดำรงตำแหน่งได้เพียงแค่ 3 ปีกว่าเท่านั้น
CALVIN KLEIN TIMES
พักใจจาก Dior ไม่นาน ช่วงปลายปี 2016 แบรนด์ Calvin Klein ประกาศการมาของ Raf ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บริหารด้านการสร้างสรรค์ หรือ Chief Creative Officer ซึ่งตำแหน่งนี้เขาต้องดูแลไลน์ทั้งหมดของ Calvin Klein รวมถึงรับผิดชอบด้านการสื่อสารและภาพลักษณ์ของแบรนด์อีกด้วย ภายใต้การดูแลของเขา เขาเปลี่ยนชื่อไลน์แฟชั่นเป็น Calvin Klein 205W39NYC และยังสร้างไลน์แบบ Custom Made ในชื่อ Bespoke ที่เน้นงานดีไซน์และการตัดเย็บชั้นสูง และยังสร้างผลงานให้เป็นที่พูดถึงจากไลน์ยีนส์ เมื่อดึงตัวบ้าน Kardashian-Jenner ทั้งบ้านมาเป็นนางแบบในแคมเปญ น่าเสียดายที่เขาอยู่ได้เพียง 2 ปีเท่านั้น ก่อนที่ไลน์แฟชั่นของ Calvin Klein จะปิดลงเพื่อไปเน้นการทำตลาดให้กับไลน์ Calvin Klein Jeans แทน
CO-CREATIVE AT PRADA
ปี 2020 เป็นปีแห่งการกลับมาของ Raf อีกครั้ง เมื่อ Prada ประกาศว่าเขาจะเข้ามาเป็นดีไซเนอร์ร่วม หรือ Co-Creative Director ทำงานร่วมกับ Miuccia Prada ในการออกแบบคอลเล็กชันเสื้อผ้าผู้ชายและผู้หญิง โดยคอลเล็กชันเปิดตัวของทั้งสองคนคือคอลเล็กชัน Spring/Summer 2021 ทั้งคู่สามารถถ่ายทอดสไตล์เฉพาะตัวออกมาได้อย่างลงตัว งานดีไซน์ของ Prada คงกลิ่นอาย Ugly Pretty แบบ Miuccia ไว้ครบถ้วน ในขณะที่นำเสนอมุมมองใหม่ที่มาจาก Raf ได้อย่างแยบยล งานของทั้งคู่ได้รับความนิยมอย่างสูงจนส่งให้ขึ้นแท่นแบรนด์ฮอตที่ถูกค้นหามากที่สุดจาก Lyst หลายครั้ง หลายคนลือว่าถ้า Miuccia ประกาศวางมือ Raf นี่แหละคือดีไซเนอร์ที่จะมารับช่วงต่อ
ภาพ: Getty Images, Raf Simons, Kith