คงไม่มีใครเถียงว่า Mariah Carey คือตำนานที่ฆ่าไม่ตาย หลังจากปี 2018 เธอยังไม่ได้ปล่อยสตูดิโออัลบั้มใหม่ออกมาอีกเลย แต่ในทุกๆ สิ้นปีโดยเฉพาะช่วงคริสต์มาส เธอจะกลับมาสร้างตำนานอีกครั้งกับเพลง All I Want For Christmas Is You งานเพลงอมตะที่กลายเป็นเพลงอยู่คู่กับเทศกาลสำคัญของคนทั่วโลก แม้จะเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 1994 แต่ยังสามารถกลับมาขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตได้
นอกจากเพลงดังกล่าว Mariah ยังมีบทเพลงระดับตำนานอีกมากมาย ขึ้นแท่นศิลปินหญิงที่มียอดอัลบั้มรวมทั้งหมดกว่า 200 ล้านก๊อปปี้ จุดเด่นของเธอไม่พ้นคีย์เสียงสูงที่ยากจะเลียนแบบ Mariah ยังได้ฉายาว่า Queen of R&B จากแนวเพลงที่เธอชอบผสมผสานดนตรีอย่างป๊อปและอาร์แอนด์บีเข้าด้วยกัน
ไม่เพียงแค่นั้น Mariah ยังถือเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นไอคอนของยุค 90 ผ่านการเปลี่ยนแปลงโฉมของตัวเองตามยุคและอัลบั้มของเธอ จนเธอนั้นมีภาพลักษณ์ของ Diva ที่ฉีกจากคนอื่น สนุก เซ็กซี่ ก๋ากั่น และเปรี้ยวเอามากๆ ซึ่ง THE STANDARD POP จะมารีแคปให้ผ่าน 7 ข้อนี้
90s STYLE
ในปี 1990 ทั้งโลกได้รู้จักชื่อของ Mariah Carey จากเพลง Vision Of Love สาวสวยนิวยอร์กเกอร์ผมหยิกฟูผู้มีคีย์เสียงสูงอันเป็นเอกลักษณ์ ยุค 90 ถือเป็นยุคพีคของเธอทั้งในแง่ของบทเพลงและสไตล์การแต่งตัว ในช่วงแรกของอาชีพเธอชอบสวมเดรสสั้นหรือเดรสยาวสร้างภาพลักษณ์แกลมแบบนักร้องสาว Diva จนกระทั่งในปี 1995 กับสตูดิโออัลบั้มชื่อว่า Daydream ที่เธอปรับแนวเพลงโดยการนำเอาสไตล์ดนตรีฮิปฮอปและอาร์แอนด์บีเข้ามาผสม สไตล์การแต่งตัวของเธอก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน Mariah เริ่มแต่งตัวเซ็กซี่มากขึ้น เธอหยิบเอาสไตล์ของฝั่งฮิปฮอปมาผสมเข้ากับตัวเธอ จากเดรสแนวหรู เธอปรับลุคมาเป็นเสื้อเกาะอกและกระโปรงสั้นแทน อิทธิพลของเพลงแนวนี้ยังทำให้เธอมั่นใจมากขึ้นและกล้าแต่งตัวเซ็กซี่จนฉีกตัวเองออกจากนักร้อง Diva คนอื่นๆ ในยุคนั้นไปเลย
HONEY MUSIC VIDEO
อีกหนึ่งบทเพลงที่ทำให้ Mariah ดังเป็นพลุแตก คือซิงเกิลแรกจากสตูดิโออัลบั้ม Butterfly นั่นก็คือเพลง Honey มิวสิกวิดีโอตัวดังนี้ใช้ทุนสร้างกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในธีมแบบสายลับเจมส์ บอนด์ ที่ขนทีมงานทั้งหมดไปถ่ายทำไกลถึงเกาะส่วนตัวในเปอร์โตริโก มิวสิกวิดีโอเพลงนี้ถือเป็นการฉีกภาพลักษณ์ของเธอไปอย่างถาวร สาวเรียบโก้สมัยก่อนได้ตายไปแล้ว และเกิดใหม่เป็นผีเสื้อสาวสุดเซ็กซี่ มีหลายฉากในเพลงนี้ที่ขึ้นแท่นไอคอนิกและยังถือเป็นสแตนดาร์ดของกระแส Y2K อีกด้วย แต่มีหนึ่งฉากที่ไอคอนิกมากๆ ในสายตาของคนแฟชั่น นั่นก็คือฉากเปิดที่เธอสวมเดรสลูกไม้สไตล์ชุดชั้นในสีดำจาก Dolce & Gabbana และรองเท้ารัดส้นส้นสูงสีดำจาก Gucci ที่ได้ซีนเปิดและยังซูมให้เห็นถึงดีเทลจนกระทั่งได้ฉายาว่า Mariah Stilettos
RAINBOW ALBUM COVER
อีกหนึ่งอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจาก Mariah กับอัลบั้มลำดับที่ 7 ในชื่อ Rainbow ซึ่งชื่อของอัลบั้มนี้มาจากสายรุ้งที่เธอบังเอิญได้เจอในช่วงมรสุมชีวิตที่เธอกำลังหย่าร้างกับอดีตสามี เธอต้องลงมาจัดการทำอัลบั้มเองทั้งหมด จนกระทั่งวันหนึ่งเธอเงยหน้าเพื่อพักสายตาและเห็นสายรุ้งในแบบที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน สำหรับปกอัลบั้มนี้เธอได้ช่างภาพชื่อดังอย่าง David LaChapelle ผู้ที่เคยถ่ายศิลปินระดับโลกมาแล้วมากมาย เช่น Michael Jackson, Britney Spears, Gwen Stefani, Madonna และอีกมากมาย โดย Mariah สวมใส่เสื้อสายเดี่ยวพิมพ์ลายสายรุ้งและบิกินีสีขาวที่มีภาพวาดของสายรุ้งพาดผ่านระหว่างลายบนเสื้อหน้าอกพอดิบพอดี นอกจากภาพนี้จะไอคอนิกเป็นที่จดจำแล้วนั้นยังกลายเป็นมีมให้คนทำตามอีกมากมาย รวมถึงสินค้ามากมายที่นำเอาลายเสื้อไอคอนิกนี้มาทำตาม
FASHION ROCKS 2005
ในช่วงยุค 2000 นอกจากงาน Met Gala แล้วนั้น อีกหนึ่งอีเวนต์สำคัญก็คือ Fashion Rocks อีเวนต์ที่นำดนตรีเข้ามาผสมผสานกับแฟชั่น ซึ่งในปี 2005 อีเวนต์นี้ได้จัดขึ้นที่เมืองมอนติคาร์โล ประเทศโมนาโก ไฮไลต์สำคัญของงานคืนนั้นแน่นอนว่าหนีไม่พ้นการขึ้นแสดงของ Mariah โดยเธอขึ้นโชว์เพลงดังอย่าง We Belong Together ในชุดเดรสเกาะอกผ่าสูงประดับคริสตัลทั้งตัวจาก Versace และในตอนจบของโชว์ Donatella Versace ยังขึ้นไปบนเวทีร่วมกับ Mariah อีกด้วย ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนสนิทกันหลังจากที่ Donatella ได้ออกแบบชุดและเชิญ Mariah มาร่วมงานแฟชั่นโชว์ การปรากฏตัวของทั้งสองจึงเป็นการยืนยันสถานะเพื่อนซี้ต่างวงการ
CHOPARD COLLABORATION
ไม่ใช่แค่โปรเจกต์เพลงอย่างเดียวเท่านั้นที่ Mariah ลงมือทำ เธอยังออกคอลเล็กชันเครื่องประดับร่วมกับแบรนด์หรูอย่าง Chopard อีกด้วย โดยคอลเล็กชันนี้เธอได้นำแรงบันดาลใจจากสัญลักษณ์ของเธออย่าง ‘ผีเสื้อ’ มาใช้ในการออกแบบเครื่องประดับ ซึ่งแบ่งออกเป็นสองไลน์ ได้แก่ Diamond Jewelry Collection ไลน์เครื่องประดับที่เน้นความแวววาวของเพชรในดีไซน์เรียบหรู สามารถสวมใส่ได้ทุกวัน ประกอบด้วยไอเท็มอย่างสร้อย แหวน ต่างหู และกำไล ในขณะที่ Haute Joaillerie ไลน์เครื่องประดับสุดหรูที่มาใน 2 ไอเท็ม คือสร้อยคอเพชรรูปผีเสื้อและต่างหูรูปปีกผีเสื้อที่เน้นงานฝีมือสุดวิจิตร
QUEEN OF CHRISTMAS
All I Want For Christmas Is You ถูกปล่อยครั้งแรกในวันที่ 28 ตุลาคม 1994 เป็นเพลงคริสต์มาสที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในแทบทุกแง่มุม กว่า 30 ปีเพลงนี้ยังครองใจคนทั่วโลกในช่วงเทศกาลคริสต์มาส จนในปี 2019 ที่ผ่านมา Mariah ต้องปล่อยมิวสิกวิดีโอเพลงนี้ในเวอร์ชันใหม่ แน่นอนว่าเวอร์ชันนี้เธอไม่ได้แต่งตัวเป็นซานตาคลอสอย่างเดียวแน่นอน เธอจัดเต็มในทุกๆ ชุดกับเวอร์ชันใหม่นี้ และในทุกๆ ปี Mariah จะปรากฏตัวเพื่อร้องเพลงนี้ให้เราฟังกันสดๆ จนเธอกลายเป็นราชินีคริสต์มาสที่กลับมาทีไรก็ยังสวยจนเป็นเจ้าแม่ประจำเทศกาลนี้ที่ยากจะหาใครเทียบ แถมเธอยังขยันสร้างมีมให้ตัวเองกับเพลงนี้ที่กลับมาทุกๆ สิ้นปีอีกต่างหาก คงไม่มีใครเถียงว่าเธอนั้นครองเทศกาลนี้จริงๆ
VICTORIA’S SECRET CAMPAIGN
สืบเนื่องจากความสำเร็จของเพลงคริสต์มาส ส่งผลให้เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา แบรนด์ชุดชั้นในชื่อดังอย่าง Victoria’s Secret ได้ดึงตัว Mariah มาเป็นนางแบบประจำ Holiday Campaign ของปีนี้ โดยเธอรับบทเป็นนางแบบให้กับตัวสินค้าไลน์พิเศษนี้ ซึ่งประกอบไปด้วยชุดชั้นใน เดรส เสื้อคอร์เซ็ต กระโปรง และอีกมากมายในเวอร์ชันที่ทำขึ้นเป็นสีแดงทั้งหมด โดยแคมเปญนี้ได้รับการพูดถึงอย่างมาก เพราะตัว Mariah นั้นไม่ได้รับงานแบบนี้มาพักใหญ่ และนี่ยังถือเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกของทั้งสองฝ่าย คอลเล็กชันนี้ตั้งใจออกมาเพื่อรอรับกระแสของเพลง All I Want For Christmas Is You ที่ตอนนี้สามารถขึ้นอันดับหนึ่งได้สำเร็จอีกครั้ง