เคยสงสัยกันบ้างไหมว่า คอลเล็กชันที่ถูกเรียกว่า Cruise, Resort, Pre-Spring หรือ Pre-Fall คืออะไรกัน ซึ่งตามปกติแล้วซีซันในการจัดโชว์ของแบรนด์แฟชั่นจะแบ่งออกเป็น 2 ซีซัน ซีซันแรกคือ Spring/Summer หรือฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน และ Fall/Winter หรือฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว ซึ่งทั้ง 2 ซีซันมีระยะเวลาห่างกัน 6 เดือน แต่เมื่อความต้องการของคนเสพแฟชั่นสูงขึ้น การรอคอลเล็กชันใหม่ที่ใช้เวลายาวนานกว่า 6 เดือนอาจไม่ทันใจสำหรับขาช้อปที่อยากเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็วขึ้น คอลเล็กชันคั่นกลางจึงเกิดขึ้น ซึ่ง Cruise เป็นคอลเล็กชันคั่นกลางก่อนที่เสื้อผ้า Spring/Summer จะวางขายนั่นเอง
ไม่แปลกเลยที่คอลเล็กชัน Cruise กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่แบรนด์ให้ความสำคัญ เพราะยอดขายของคอลเล็กชันคั่นกลางเหล่านี้ทำตัวเลขได้ไม่แพ้คอลเล็กชันหลักเลย (หรือสูงกว่าด้วยซ้ำ) ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่เล็งเห็นโอกาสและความสำคัญของคอลเล็กชัน Cruise ก็คือ Louis Vuitton หลังจากที่ Nicolas Ghesquière ดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ในปี 2014 โดยนอกจากการรังสรรค์คอลเล็กชันที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์แล้วนั้น การเลือกโลเคชันในแต่ละปีก็ถือว่ายกระดับวงการและตอกย้ำพลังที่มีอยู่ในมือของแบรนด์ลักชัวรีที่ทำยอดขายสูงสุดและเป็นเบอร์หนึ่งของเครือ LVMH
โดยก่อนที่ THE STANDARD POP จะไปร่วมชมคอลเล็กชัน Cruise 2025 ของ Louis Vuitton ที่บาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ เราเลยจะพาทุกคนย้อนไปดูโชว์ปีก่อนที่น่าจดจำสุดๆ
CRUISE 2015: MONACO
คอลเล็กชัน Cruise 2015 จัดขึ้นที่โมนาโก ซึ่งถือว่าเป็นการจัดโชว์ครั้งแรกของ Louis Vuitton โดยก่อนหน้านี้ทาง Marc Jacobs ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนก่อนไม่เคยได้จัดโชว์ Cruise เลย ยกเว้นแต่ปล่อยเป็น Lookbook ออกมา และคอลเล็กชันนี้ยังเป็นคอลเล็กชันลำดับที่ 2 ของ Nicolas Ghesquière ในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในคอลเล็กชัน Fall/Winter 2014 ซึ่งคอลเล็กชันนี้ได้รับคำชมมากมายจากงานดีไซน์ผสมผสานระหว่างความฟิวเจอริสติกและความเฟมินีน โดยเฉพาะเรื่องการใช้สีที่ฉูดฉาดมากกว่าคอลเล็กชันแรกของ Nicolas ที่เน้นการคุมโทนสีทั้งหมดให้ดู Neutral
CRUISE 2017: RIO DE JANEIRO
โชว์คอลเล็กชัน Cruise ลำดับที่ 3 ของ Louis Vuitton จัดขึ้นที่เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล หมุดหมายของการแข่งขันกีฬา Summer Olympic ปี 2016 โดยครั้งนี้ Nicolas เลือกสถานที่จัดโชว์ ณ The Niterói Contemporary Art Museum สถาปัตยกรรมร่วมสมัยอันโด่งดังโดย Oscar Niemeyer สถาปนิกชื่อดังชื่อชาวบราซิล ความโมเดิร์นของสถานที่เสริมคอลเล็กชัน Cruise 2017 งานดีไซน์ที่ได้กลิ่นอายของสปอร์ตแวร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของ Nicolas ด้วยเช่นกันในการชูคอลเล็กชันที่ได้แรงบันดาลใจจากเสื้อผ้าสปอร์ตมากขนาดนี้ จุดประสงค์ของเขาอาจเป็นเพราะการแข่งขันโอลิมปิกที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากโชว์ของเขาในอีก 3 เดือนข้างหน้า คอลเล็กชันนี้จึงถือเป็นการชิมลางก่อนเกมการแข่งขัน
CRUISE 2018: KYOTO
ข้ามฝั่งมาที่โชว์ในเอเชียกันบ้าง คอลเล็กชัน Cruise 2018 ของ Louis Vuitton บินลัดฟ้ามาจัดที่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ความน่าสนใจของคอลเล็กชันนี้เริ่มด้วยเสื้อผ้าที่ Nicolas ได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมต่างๆ ในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น เกราะซามูไรที่เขานำมาใช้ในการออกแบบเสื้อผ้า หรือการแต่งหน้าสไตล์คาบูกิที่เขานำมาใช้บนเมกอัพของนางแบบ รวมถึงการดึงศิลปินชาวญี่ปุ่น Kansai Yamamoto มารังสรรค์ภาพศิลปะของเขาบนชุดอีกด้วย ซึ่งตัว Kansai เคยมีผลงานร่วมกับ David Bowie ในการทำชุดคอนเสิร์ตให้เขามาแล้ว อีกหนึ่งความน่าสนใจคือการปรากฏตัวของ ญาญ่า อุรัสยา ที่ฟรอนต์โรว์ของโชว์เป็นครั้งแรก และอย่างที่เราทราบกันว่าตอนนี้เธอกลายเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้ Louis Vuitton เป็นที่เรียบร้อย
CRUISE 2019: SAINT-PAUL DE VENCE
ก่อนจะเริ่มโชว์คอลเล็กชัน Cruise 2019 โชว์ลำดับที่ 5 ของเขา มีข่าวลือว่าแบรนด์ Louis Vuitton อาจไม่ต่อสัญญากับ Nicolas จนตัวเขาต้องออกโรงสร้างแฮชแท็ก #notgoinganywhere ก่อนจะประกาศโลเคชันจัดโชว์ที่ Fondation Maeght ณ เมืองแซ็ง-ปอล เดอ วองซ์ เมืองทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ซึ่งนอกจากงานเทเลอร์ที่โดดเด่นเป็นตัวชูโรงแล้ว รองเท้าไฮบริดระหว่างรองเท้าบู๊ตหนังยาวและสนีกเกอร์ก็กลายเป็นดาวเด่นที่หลายคนให้ความสนใจ ไม่เพียงแค่นั้น คอลเล็กชันนี้เขายังได้เพื่อนสไตลิสต์ Grace Coddington อดีตครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของนิตยสาร Vogue อเมริกา มาช่วยออกแบบกระเป๋าคอลเล็กชันพิเศษอีกด้วย
CRUISE 2020: NEW YORK CITY
ค่อนข้างชัดเจนว่าการจัดโชว์ Cruise ของ Nicolas คือการท่องเที่ยวในโลเคชันต่างๆ ทั่วโลก ซึ่งคอลเล็กชัน Cruise 2020 เขาพาทุกคนมาที่ TWA Flight Center ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สนามบินที่ถูกสร้างตั้งแต่ปี 1962 โดยสถาปนิก Eero Saarinen ซึ่งสถานที่นี้โด่งดังจากงานดีไซน์ที่คล้ายกับลานจอด UFO และยังเป็นโลเคชันยอดนิยมของการถ่ายภาพยนตร์ อาทิ Ocean’s 8 สำหรับโชว์ของ Louis Vuitton ถือเป็นการจัดแฟชั่นโชว์ครั้งแรกของที่นี่เช่นกัน ก่อนจะปิดตัวเพื่อปรับปรุงเป็นโรงแรมในเวลาต่อมา โชว์นี้ของ Louis Vuitton แน่นอนว่า Nicolas หยิบเอาแรงบันดาลใจของเมืองนิวยอร์กอย่าง The Wall Street Journal การแต่งกายของคนในออฟฟิศที่เขานำมาแตกย่อย ก่อนจะไปประกอบลงบนชิ้นงานฟิวเจอริสติกของเขา เป็นอีกคอลเล็กชันที่โชว์สกิลงานสุดล้ำของเขาออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
CRUISE 2023: SAN DIEGO
ความหลงใหลในอเมริกาของ Nicolas ยังไม่จบ เมื่อคอลเล็กชัน Cruise 2023 เขากลับมาที่นี่อีกครั้ง โดยครั้งนี้เขาจัดโชว์ขึ้นที่ Salk Institute สถาบันวิจัยด้านชีวภาพในเมืองซานดิเอโก สถาบันนี้ถูกเซ็ตเป็นฉากหลังให้กับคอลเล็กชันที่ได้แรงบันดาลใจมาจากนักรบหญิงชนเผ่าต่างๆ ที่ Nicolas คราฟต์ผ่านชิ้นงานชั้นสูง โดยความน่าสนใจคือการนำเอาวัฒนธรรมชนเผ่าหลากหลายพื้นที่มายำรวมผ่านมุมมองโมเดิร์นยุคอวกาศของเขาเช่นเดิม พร้อมการไฮบริดของโครงสร้างชุดที่แปลกตาและการเล่นแมตทีเรียลกลายเป็นจุดแข็งของคอลเล็กชันนี้ หลายคนมองว่าคอลเล็กชันนี้ของเขาเป็นการรวมตัวของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่หญิง และคอลเล็กชันนี้ยังเป็นการกลับมาของศิลปินชื่อก้อง Yayoi Kusama ที่กลับมาร่วมคอลแลบกับแบรนด์ Louis Vuitton อีกครั้ง
CRUISE 2024: ISOLA BELLA
คอลเล็กชัน Cruise ล่าสุดของ Louis Vuitton กลับมาที่แถบยุโรปอีกครั้ง รอบนี้ Nicolas พาแขกกว่า 1,000 คนไปบนเกาะ Isola Bella บนทะเลสาบ Maggiore ทางตอนเหนือของอิตาลี โดยจัดขึ้นในสวนระเบียงของปราสาทบนเกาะ คอลเล็กชัน Cruise 2024 ของเขารอบนี้ถือเป็นงานทดลองเมื่อเขานำแรงบันดาลของตำนานพื้นเมืองอย่างนางเงือกมาผสมผสานเข้ากับโลกอนาคต ซึ่งการคอนทราสต์เนื้อผ้าอย่างผ้าปักกลิตเตอร์ให้ดูมีกลิ่นอายแบบเกล็ดนางเงือกเข้ากับเนื้อผ้าสกูบาแมตทีเรียลสำหรับใช้บนชุดดำน้ำ แม้คอลเล็กชันนี้จะดูล้ำและโอ่อ่ามากก็ตาม แต่ในความโอ่อ่านั้นเราได้มีโอกาสเห็นงานฝีมือระดับโอต์กูตูร์ของ Louis Vuitton ที่ปรากฏในคอลเล็กชันนี้อีกด้วย
ภาพ: Getty Images, Courtesy of Brands