×

7 THINGS WE LOVE ABOUT DELPHINE ARNAULT ลูกสาวหนึ่งเดียวของ Bernard Arnault แห่ง LVMH

20.10.2024
  • LOADING...

วินาทีนี้คงไม่มีอุตสาหกรรมไหนร้อนแรงไปกว่าแบรนด์แฟชั่นลักชัวรี ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันในหลากหลายมิติ และหนึ่งในชื่อที่ทุกคนน่าจะคุ้นหูกันดีนั่นคือ LVMH อาณาจักรแบรนด์หรู มูลค่าบริษัทกว่า 14 ล้านล้านบาท ที่ครอบคลุมธุรกิจสินค้าแฟชั่น เครื่องประดับ โรงแรม เครื่องดื่ม ตลอดจนธุรกิจสื่อ ซึ่งมี Bernard Arnault วัย 75 ปี เป็นเจ้าของ และเขายังเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกจากการจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes

 

นอกจากเม็ดเงินมหาศาลแล้ว เรื่องของทายาทที่จะมาดูแลอาณาจักร LVMH ต่อจากเขายังเป็นประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจ โดยหลายคนคาดการณ์ว่าลูกสาวคนโตและคนเดียวอย่าง Delphine Arnault ดูมีความเป็นไปได้สูงที่จะเข้ามาสานงานธุรกิจต่อจากพ่อของเธอ ด้วยประสบการณ์การทำงานอันใกล้ชิดและการบริหารแบรนด์ใหญ่อย่าง Dior จนประสบความสำเร็จอย่างสูงมาแล้ว แถมเธอยังเป็นหนึ่งในผู้หญิงทรงอิทธิพลที่สุดแห่งวงการแฟชั่นระดับโลกอีกด้วย

 

สัปดาห์นี้ THE STANDARD POP เลยจะพาทุกคนมาเจาะลึกชีวิตของ Delphine Arnault ลูกสาวคนโตของตระกูลจากพี่น้องทั้ง 5 คน ซึ่งจะเป็นอนาคตต่อไปของ LVMH ก็ว่าได้ 

 


 

EARLY LIFE AND EDUCATION

 

ย้อนกลับไปในชีวิตช่วงวัยเด็กก่อนที่ Delphine Arnault จะกลายมาเป็นหญิงผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลก ลูกสาวคนโตจากตระกูล Arnault คนนี้เกิดในกรุงปารีสเมื่อปี 1975 จาก Anne Dewavrin ภรรยาคนแรกของ Bernard และเติบโตมาตามแบบฉบับของทายาทนักธุรกิจระดับมหาเศรษฐีด้วยการจบการศึกษาในสาขาที่เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจจาก EDHEC Business School และมหาวิทยาลัยที่โดดเด่นในด้านเศรษฐศาสตร์อย่าง London School of Economics ประวัติการเรียนอันสวยหรูของเธอปูทางให้เธอเข้าสู่การบริหารธุรกิจแฟชั่นเช่นเดียวกับพ่อของเธอ 

 

 


 

FIRST JOB

 

ภายหลังจากจบการศึกษาในปี 1997 Delphine Arnault เข้าทำงานแรกในตำแหน่งที่ปรึกษา ณ McKinsey & Company บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจเก่าแก่อันดับต้นๆ ของโลกที่ยังมีชื่อเสียงมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็ทำให้เธอได้ประสบการณ์เกี่ยวกับการวางแผนกลยุทธ์และการวิเคราะห์ข้อมูลในด้านต่างๆ เรียกได้ว่าผิดคาดจากที่หลายคนมองไว้แต่แรก แม้จะไม่ได้ก้าวเข้ามาในสายแฟชั่นตั้งแต่เริ่มแรกอย่างที่หลายคนคาดไว้ แต่จุดนี้เองที่ทำให้เธอมีรากฐานที่แข็งแกร่งในการเป็นผู้นำแบรนด์ในเวลาต่อมา

 

 


 

LOUIS VUITTON YEARS

 

ตัดภาพมาในปี 2013 หลังจากกลับมาทำงานสานต่อธุรกิจครอบครัวระยะหนึ่ง เธอย้ายเข้ามาสู่การเป็นรองผู้จัดการทั่วไปของ Louis Vuitton แบรนด์ที่นับว่าทำรายได้มากที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดในเครือ LVMH ซึ่งเธอก็ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างที่ทุกคนไว้วางใจ ท่ามกลางการแข่งขันของกลุ่มธุรกิจแฟชั่นลักชัวรีที่กำลังขยายตัวขึ้น ด้วยการริเริ่มโปรเจกต์ต่างๆ ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนในทุกช่วงอายุ เช่น การทำคอลลาบอเรชันกับศิลปินและนักออกแบบระดับตำนานอย่าง Cindy Sherman, Yayoi Kusama, Takashi Murakami, Stephen Sprouse และอีกมากมาย ที่มาสร้างสรรค์ลวดลายอันเป็นไอคอนิกบนไอเท็มของแบรนด์จนเป็นที่จดจำ และยังสร้างปรากฏการณ์มากมายให้กับ Louis Vuitton ในช่วงที่เธอเข้ามาช่วยดูแล โดยเฉพาะยอดขายที่เพิ่มขึ้นทุกปี 

 

 


 

CURRENT DIOR YEARS

 

สำหรับหนึ่งในช่วงชีวิตที่น่ากล่าวถึงมากที่สุดก็คงไม่พ้นปี 2023 ในวันที่เธอก้าวเข้ามาบริหารแบรนด์ Christian Dior ในตำแหน่ง CEO และประธานกรรมการ ผู้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของแบรนด์ในหลากหลายด้าน หลังจากเคยมีประสบการณ์มาแล้วในช่วงปี 2008-2013 ก่อนจะย้ายไปที่ Louis Vuitton โดยพ่อของเธอกล่าวไว้ว่า “ภายใต้การนำองค์กรของเธอ ทำให้ Louis Vuitton เป็นที่ต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้แบรนด์สามารถสร้างสถิติยอดขายได้อย่างสม่ำเสมอ โดยข้อมูลเชิงลึกและประสบการณ์ที่ไม่อาจหาใครเทียบได้ของเธอ จะเป็นสินทรัพย์สำคัญที่จะขับเคลื่อน Dior ให้เติบโตขึ้น” ซึ่งตำแหน่งนี้ก็เป็นบทบาทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่กลุ่มทายาททั้ง 5 คนได้รับในขณะนี้ การมาของเธอเพื่อมาเสริมงานดีไซน์ของ Maria Grazia Chiuri พร้อมชูภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้กลายเป็นแฟชั่นผ่านมุมมองของผู้หญิงแบบ 360 องศา ตั้งแต่ผู้บริหารไปจนถึงดีไซเนอร์ 

 

 


 

PERSONAL LIFE

 

นอกเหนือจากพาร์ตการทำงานที่เก่งกาจแล้ว ในด้านชีวิตส่วนตัว Delphine Arnault เข้าพิธีวิวาห์กับ Alessandro Vallarino Gancia นักธุรกิจหนุ่มและทายาทบริษัทไวน์ชาวอิตาลีในปี 2005 จนมีลูกด้วยกัน 3 คน และเลิกรากันไปหลังใช้ชีวิตร่วมกันได้ราว 5 ปี จนเธอได้มาลั่นระฆังวิวาห์เป็นครั้งที่ 2 กับ Xavier Niel มหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจเทคโนโลยีชื่อดังในฝรั่งเศส และมีลูกด้วยกันทั้งหมด 2 คน อย่างไรก็ตาม เธอเคยให้สัมภาษณ์กับ Financial Times เกี่ยวกับชีวิตครอบครัวในปี 2014 ว่า “ฉันคิดว่าฉันควรจะมุ่งเน้นไปที่งานของฉันมากกว่า ดังนั้น ฉันจะพูดก็ต่อเมื่อฉันมีอะไรจะพูดเท่านั้น” เราจึงแทบไม่เห็นเธอและครอบครัวออกสื่อร่วมกันเท่าไรนัก 

 

 


 

LEADERSHIP STYLE

 

จากชีวิตตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความผันผวนของธุรกิจต่างๆ ในระดับโลก ไม่ว่าใครก็คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การพิสูจน์ความสามารถที่ Delphine Arnault ต้องเผชิญนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในขณะเดียวกัน ทั้งเหล่านักวิเคราะห์ สาวกผู้ติดตามแบรนด์ หรือคนทั่วไปที่รู้จักตระกูลผู้ครอง LVMH ก็คงเห็นตรงกันว่า ด้วยวิสัยทัศน์การบริหารธุรกิจ ความคิดสร้างสรรค์อันเฉียบคม การขยายไลน์สินค้าอยู่เสมอ การเฟ้นหาศิลปินหรือบุคคลสำคัญในแวดวงต่างๆ มาร่วมงานด้วยเสมอ และความสามารถที่จะพัฒนาองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง Delphine เต็มไปด้วยพลังแห่งความเป็นผู้นำไม่ต่างจากพ่อของเธอ และเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเติบโตของ LVMH ยุคปัจจุบันอย่างแท้จริง ประสบการณ์การบริหารแบรนด์ใหญ่ทั้ง Louis Vuitton และ Dior เป็นข้อพิสูจน์ชั้นดีว่าเธอสามารถรับแรงกดดันมหาศาลได้ และมีความสามารถในการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อต่อยอดงานครีเอทีฟได้อย่างฉลาด 

 

 


 

RECOGNITION

 

ในเวลานี้ชื่อของ Delphine Arnault กลายเป็นที่จับตามองจากทั่วโลกด้วยความสามารถและตำแหน่งต่างๆ ที่เธอได้รับ ไม่ว่าจะเป็นการพายอดขายของแบรนด์พุ่งสูงขึ้นในวันที่เธอก้าวขึ้นไปเป็นหัวเรือใหญ่ อีกทั้งยังได้รับเสียงชื่นชมในการเป็นผู้จัดตั้ง LVMH Prize หนึ่งในเวทีการแข่งขันสำคัญของเหล่าดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่จะมาเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมนี้ และการติดหนึ่งในรายชื่อ BoF 500 หรือบุคคลผู้ทรงอิทธิพลด้านแฟชั่นของเว็บไซต์ Business of Fashion ในปีล่าสุด ก็เป็นเครื่องยืนยันชั้นดีว่าทำไมเธอถึงเหมาะสมกับที่ได้รับการคาดการณ์ว่าจะมาเป็นผู้สืบทอดต่อจาก Bernard Arnault หลังเขาเกษียณอายุ

 

 

ภาพ: Getty Images

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising