หลังจากมีข่าวเปลี่ยนตัวดีไซเนอร์กันเป็นว่าเล่นในช่วงปีที่ผ่านมา ปี 2025 กลายเป็นปีแห่งความตึงเครียดพอสมควรในวงการแฟชั่น เพราะนี่จะเป็นปีที่เหล่าดีไซเนอร์ต้องแสดงผลงานคอลเล็กชันแรกสู่สายตาประชาชนทั่วโลก ซึ่งนักวิจารณ์หลายคนต่างยกให้คอลเล็กชันเปิดตัวเป็นคอลเล็กชันหินที่สุดของอาชีพครีเอทีฟไดเรกเตอร์ และเราเองมีโอกาสเห็นคอลเล็กชันแรกที่ประสบความสำเร็จและน่าผิดหวังมาแล้ว
ความคาดหวังที่พวกเขาต้องดีกว่าดีไซเนอร์คนก่อนกลายเป็นแรงกดดันมหาศาล ไหนจะยอดขายที่หากไร้ซึ่งกำไรก็ถือว่าสอบไม่ผ่านอยู่ดี ความน่าสนใจของเกมเก้าอี้ดนตรีรอบนี้คือเราจะมีโอกาสได้เห็นงานดีไซน์ใหม่ๆ ทั้งจากดีไซเนอร์หน้าเก่าที่ย้ายบ้านสู่หลังใหม่ รวมถึงดีไซเนอร์ชื่อใหม่แกะกล่องที่หลายคนอาจไม่เคยรู้จักเลย ถือว่าครบรสและน่าติดตามอย่างมาก
THE STANDARD POP รวบรวม 7 โชว์ที่จะเดบิวต์ครั้งแรกในปีนี้ว่าพวกเขาและเธอจะรังสรรค์คอลเล็กชันแรกออกมาอย่างไร
SARAH BURTON FOR GIVENCHY
หนึ่งโชว์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ก็คือคอลเล็กชันแรกจาก Sarah Burton ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนล่าสุดของห้องเสื้อ GIVENCHY หลังจากทำงานร่วมกับแบรนด์ Alexander McQueen มายาวนานกว่า 26 ปี ตั้งแต่สมัยที่เธอเป็นมือขวาของ Alexander Lee McQueen โดยการมาครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ Lee เคยทำงานให้ GIVENCHY มาก่อนในช่วงปี 1996-2001 และ Sarah ถือเป็นดีไซเนอร์ผู้หญิงคนที่สองต่อจาก Clare Waight Keller ที่ได้โอกาสเข้ารับตำแหน่งนี้
สิ่งที่หลายคนคาดหวังจากเธอคือความดรามาติกและงานระดับโอต์กูตูร์ที่หายไปจาก GIVENCHY พักใหญ่ ด้วยผลงานอันตราตรึงที่เธอสร้างไว้ที่ Alexander McQueen เธอน่าจะดึงจิตวิญญาณความโก้หรูให้กลับมาได้ รวมถึงการชูคอลเล็กชัน Womenswear ให้กลับมาเป็นคอลเล็กชันหลัก หลังจากที่เคยโดนกลบด้วยกระแสงานดีไซน์สตรีทของฝั่ง Menswear การมาครั้งนี้ก็เพื่อ Set Zero และสร้างมู้ดแบบใหม่ให้ GIVENCHY กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง
HAIDER ACKERMANN FOR TOM FORD
คอลเล็กชันที่น่าติดตามไม่แพ้กัน และกำลังจะเปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้เช่นกันก็คือ TOM FORD ที่จะมาพร้อมงานดีไซน์และมุมมองใหม่จากผลงานของ Haider Ackermann ครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนล่าสุด หากใครติดตามวงการแฟชั่นจะต้องรู้จักชื่อของเขาอย่างแน่นอน Haider เคยมีผลงานแบรนด์ในชื่อของตัวเองมาก่อน และเขาเคยร่วมงานกับแบรนด์อย่าง Berluti และ Jean Paul Gaultier มาแล้ว จุดเด่นของเขาคือ ‘เทเลอริง’ เทคนิคการตัดเย็บคมกริบที่แมตช์เข้ากับ DNA ของ TOM FORD พอดิบพอดี ความน่าสนใจอยู่ที่ว่าเขาจะผสานตัวตนของตัวเองเข้ากับแอตติจูดสุดเซ็กซี่ของ TOM FORD ได้อย่างไร แต่ที่แน่ๆ เราคงมีโอกาสได้เห็นเซเลบริตี้เพื่อนสนิทของเขาอย่าง Timothée Chalamet, Tilda Swinton และ Cate Blanchett มานั่งซัพพอร์ตแถวหน้า และสวมใส่เสื้อผ้าของ TOM FORD อย่างแน่นอน
LOUISE TROTTER FOR BOTTEGA VENETA
หลังจากการประกาศข่าวของ Matthieu Blazy ได้ไม่นาน ชื่อของ Louise Trotter ก็กลายเป็นที่พูดถึงทันที เมื่อเธอถูกวางตัวให้รับหน้าที่ต่อจากเขาที่ Bottega Veneta ในตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์ และยังเป็นดีไซเนอร์ผู้หญิงคนเดียวในเครือ Kering หลังจาก Sarah Burton ออกจาก Alexander McQueen
ชื่อของ Louise อาจไม่คุ้นหูนักหากคุณไม่ได้ติดตามข่าวแฟชั่นอย่างใกล้ชิด เธอมีประวัติการทำงานที่น่าสนใจไม่เบาเลย โดยเฉพาะในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์ให้กับ Lacoste ก่อนจะย้ายมาที่ Carven ซึ่งงานจากทั้งสองแบรนด์ภายใต้วิสัยทัศน์ของเธอแสดงให้เห็นว่า Louise มีสไตล์งานดีไซน์ที่เรียบโก้ ดูมินิมัล แต่แฝงด้วยดีเทลอันแยบยล ซึ่งงานของเธอที่ Carven ได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์มากมาย แน่นอนว่าเธอจะสามารถชูงานคราฟต์ของ Bottega Veneta และนำไปปรับใช้กับงานออกแบบโมเดิร์นของเธอได้ นี่จะเป็นครั้งแรกที่ Bottega Veneta จะได้งานดีไซน์ที่มาจากมุมมองของผู้หญิง
MICHAEL RIDER FOR CELINE
คำถามที่หลายคนถามคือ ใครคือ Michael Rider หลังจากมีข่าวลือสักพักใหญ่ว่าเขาจะมาแทนที่ Hedi Slimane ที่ CELINE ก่อนจะเกิดขึ้นจริงเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าสาเหตุของการออกของ Hedi คืออะไรก็ตาม เราอดคิดไม่ได้ว่างานของ Michael ที่ CELINE จะออกมาเป็นอย่างไร ก่อนที่เขาจะรับตำแหน่ง Michael ทำงานในฐานะหัวหน้าดีไซเนอร์ที่ Polo Ralph Lauren และเขายังเคยทำงานที่ CELINE มาแล้วในยุคของ Phoebe Philo ซึ่งหลายคนคาดการณ์ว่าเขาจะนำมุมมอง #OldCeline กลับมาหรือเปล่า ความยากของงานนี้อยู่ที่การสานต่องานจาก Hedi อย่าลืมว่าเขามีแฟนคลับเดนตายที่หลงใหลงานดีไซน์ตั้งแต่สมัย Dior Homme จนกระทั่งที่ CELINE หน้าที่ของ Michael คือการบาลานซ์ระหว่างงานเก่าของ Hedi และมุมมองแบบใหม่จากตัวเขาที่ต้องใช้เวลาเพื่อล้างภาพจำแบบเดิมออกไป เราจะเริ่มได้เห็นงานดีไซน์ของเขาในช่วงต้นปีนี้แล้ว
JULIAN KLAUSNER FOR DRIES VAN NOTEN
เมื่อปีที่แล้ว Dries Van Noten ปลดเกษียณตัวเอง จนหลายคนเกิดคำถามว่า แล้วใครกันที่จะมีฝีมือพอในการมาสานต่อตำนานของเขา สุดท้ายแล้วชื่อของ Julian Klausner ก็ถูกประกาศเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่ง Julian เป็นทีมดีไซเนอร์ที่ออกแบบคอลเล็กชัน Womenswear ร่วมกับ Dries มาตลอดระยะเวลากว่า 6 ปี จึงถือว่าเขาลงล็อกและเหมาะสมที่จะมารับตำแหน่งนี้ สำหรับ Julian เคยทำงานร่วมกับแบรนด์อย่าง Thom Browne, KENZO และ Maison Margiela ก่อนที่จะมาที่ Dries Van Noten ในปี 2016 จนถึงปัจจุบัน Julian น่าจะสามารถดึงวิสัยทัศน์ของ Dries มาผสมผสานเข้ากับความสดใหม่ของเขาได้ ซึ่งผลงานแรกของเขาจะเกิดขึ้นที่ Paris Fashion Week คอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 เดือนมีนาคมนี้
DAVID KOMA FOR BLUMARINE
ณ เวลานี้คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อของ David Koma เขาเป็นหนึ่งในดีไซเนอร์มาแรงจากลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว เขาถูกวางตัวให้เข้ารับตำแหน่งครีเอทีฟไดเรกเตอร์แบรนด์ Blumarine ต่อจาก Walter Chiapponi หลังจากที่เขาทำได้เพียงคอลเล็กชันเดียวเท่านั้น Blumarine กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งจากงานดีไซน์สไตล์ Hyper Feminine และ Y2K ที่กลายเป็นภาพจำให้กับแบรนด์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่เมื่อ Nicola Brognano ผู้นำกระแส Y2K มาสู่ Blumarine ลาออก การมาของ Walter เพื่อล้างกระดานเทรนด์ Y2K กลับได้กระแสตอบรับที่เย็นชาจนต้องออกไปในที่สุด การมาของ David จึงท้าทายมากว่าเขาจะสานต่อกระแสที่เริ่มแผ่วอย่าง Y2K ต่อไปอย่างไร อย่างไรก็ตาม ในแง่ของงานดีไซน์ David มีมุมมองการออกแบบที่เซ็กซี่ ยั่วยวน และชูรูปร่างของผู้หญิงอยู่แล้ว แถมยังมีดีกรีเคยผ่านงานครีเอทีฟไดเรกเตอร์มาก่อนที่ Mugler เชื่อว่าการมาของเขาน่าจะนำกลิ่นอายเฟมินีนแบบใหม่มาสู่ Blumarine ได้ คอลเล็กชันแรกที่เขาจะเปิดตัวคือคอลเล็กชัน Pre-Fall 2025 ที่น่าจะปล่อยออกมาเร็วๆ นี้
MATTHIEU BLAZY FOR CHANEL
ข่าวใหญ่ปิดปี 2024 ของวงการแฟชั่น คงไม่มีข่าวไหนเทียบได้กับการมาของ Matthieu Blazy ที่แบรนด์ CHANEL อีกแล้ว หลังจาก Virginie Viard ประกาศลาออก หลายคนคาดคะเนชื่อของดีไซเนอร์มากมายที่คู่ควรในฐานะครีเอทีฟไดเรกเตอร์คนใหม่ จนกระทั่งชื่อของ Matthieu โผล่มาในช่วงท้ายๆ ก่อนจะมงลงขึ้นรับตำแหน่งใหม่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะเป็นผลงานปัจจุบันของเขากับ Bottega Veneta เขาสามารถชุบชีวิต DNA สำคัญของแบรนด์อย่างงานคราฟต์ออกมาในรูปแบบที่โมเดิร์นรับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งวิสัยทัศน์ดังกล่าวน่าจะช่วยชูความขลังของ CHANEL ในขณะที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ต่อยอดให้แบรนด์ดูโมเดิร์นขึ้นได้ Matthieu เป็นดีไซเนอร์ลำดับที่ 4 ต่อจาก Gabrielle Chanel, Karl Lagerfeld และ Virginie โดยเขาจะเข้ามาดูแลไลน์ Ready-to-Wear และโอต์กูตูร์ ผลงานแรกของเขามีกำหนดการช่วงเดือนตุลาคมที่ Paris Fashion Week กับคอลเล็กชัน Spring/Summer 2026 เชื่อว่านี่จะเป็นโชว์ที่หลายคนจับตามองมากที่สุดของปีนี้