7-Eleven กำลังเร่งขยายการเปิดดำเนินการร้านสะดวกซื้อแบบไม่มีพนักงานในประเทศญี่ปุ่น โดยผู้ค้าปลีกยักษ์ใหญ่กำลังมองหาโอกาสขยายสาขาภายในคอนโดมิเนียมสูงและโรงงาน ซึ่งรายงานเผยว่าร้านเหล่านี้จะเริ่มเปิดในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้
การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการค้าปลีกของญี่ปุ่น ซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานอย่างรุนแรง
7-Eleven มีเป้าหมายที่จะเปิดร้านไม่มีพนักงานในทำเลที่หากย้อนกลับไปในอดีตจะเปิดได้ยาก เช่น ในคอนโดสูงและภายในโรงงาน การชำระเงินด้วยสมาร์ทโฟนจะถูกใช้เพื่อทำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างราบรื่น แทนที่การต่อคิวเพื่อจ่ายเงินสดในปัจจุบัน
เครือข่ายร้านสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในแดนซามูไรเริ่มเปิดร้านไม่มีพนักงานในโตเกียวและพื้นที่อื่นๆ ที่ผ่านมา 7-Eleven ได้ดำเนินการร้านทดลองบางสาขาในโตเกียวและโอซาก้า รวมถึงได้เริ่มการเจรจากับบริษัทประมาณ 20 แห่งที่สนใจติดตั้งร้านในสถานที่ของพวกเขา โดยในเวลานี้ 7-Eleven มีเป้าหมายที่จะมีร้านหลายสิบแห่งในญี่ปุ่น
นอกจากคอนโดใจกลางโตเกียวแล้ว 7-Eleven ยังสนใจแทนที่ร้านของตัวเองในโรงอาหารของโรงงานและสถาบันวิจัย ซึ่งกำลังปิดตัวเนื่องจากขาดแคลนแรงงานและเงินเฟ้อ ตัวอย่างเช่น ทำเลที่มีพนักงานอย่างน้อย 500 คน และยอดขายรายวันคาดว่าอย่างน้อย 100,000 เยน ซึ่งน้อยกว่ายอดขายเฉลี่ยของร้านปกติอยู่ที่ประมาณ 700,000 เยน
โดยผู้ใช้ต้องใช้แอปพลิเคชันพิเศษสแกนรหัส QR เมื่อเข้าร้าน สแกนบาร์โค้ดของสินค้าที่ต้องการซื้อด้วยสมาร์ทโฟน และชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือวิธีการชำระเงินอื่น ไม่จำเป็นต้องหยุดที่เครื่องชำระเงินเพื่อจ่ายด้วยเงินสดอีกต่อไป
ร้านจะดำเนินการโดยพนักงานเพียงคนเดียว ซึ่งจะรับผิดชอบงานต่างๆ เช่น การเติมสินค้าและการสั่งซื้อสินค้าเข้ามาเพิ่มเติม
ส่วนขนาดร้านนั้นจะมีพื้นที่ประมาณ 50 ตารางเมตร ซึ่งเล็กกว่าร้านปกติที่มีพื้นที่ 200 ตารางเมตร นอกจากข้าวปั้นและขนมปังแล้ว ยังมีอาหารกล่องที่เย็นและของใช้ประจำวัน รวมถึงกาแฟสด จำนวนสินค้าจะถูกลดลงเหลือสูงสุด 1,200 รายการ น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของร้านปกติ
ตลาดร้านสะดวกซื้อในญี่ปุ่นมีความอิ่มตัวด้วยร้านเกือบ 56,000 ร้าน ร้านไม่มีพนักงานขนาดเล็กจะเพิ่มพื้นที่สำหรับการเปิดร้านใหม่ และปรับปรุงความสะดวกสบายให้กับลูกค้าโดยการขจัดเวลาการรอที่เครื่องชำระเงิน
ภาพ: Carl Court / Getty Images
อ้างอิง:
