วันนี้ (17 กันยายน) ที่อาคารรัฐสภา 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย สุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดมหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ยื่นเอกสารหลักฐานการกระทำความผิดของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีแจกเงินให้ ส.ส. ในการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ต่อ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร
สุทินกล่าวว่า 6 พรรคการเมืองฝ่ายค้านได้ร่วมกันลงนามในหนังสือเพื่อยื่นต่อประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีที่ ส.ส. กล่าวในสภาว่านายกรัฐมนตรีได้แจกเงินแก่ ส.ส. เพื่อจูงใจในการลงมติไว้วางใจ ซึ่งเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและทำให้เกิดผลเสียต่อภาพพจน์ของรัฐสภา หากจะปล่อยให้เรื่องนี้หายไปจึงไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิด ประเด็นดังกล่าวจะต้องมีข้อยุติ จึงขอให้ประธานคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. สอบสวนข้อเท็จจริงว่าท้ายที่สุดแล้วมีผลอย่างไร เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไปให้เหมาะสม
สุทินยืนยันว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีหลักฐานจากหลายทาง มีคนมาส่งมอบให้ทั้งภาพและเสียง มั่นใจว่าหลักฐานสามารถเชื่อได้ ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมาธิการ หลักฐานมีมากกว่ากล้องวงจรปิดแน่นอน
ด้าน พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ได้ให้ความไว้วางใจแก่คณะกรรมาธิการ ป.ป.ช. เพื่อดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้ โดยตนเชื่อมาก่อนอยู่แล้วว่ามีการซื้อ ส.ส. เพื่อให้ลงมติไว้วางใจนายกรัฐมนตรีจริง เนื่องจากในวันที่เกิดเหตุตนได้รับฟังมาจากสภา และมี ส.ส. ที่ไปรับเงินได้เคยเล่าให้ตนฟังด้วยเช่นกัน ตนจึงขอให้มาเป็นพยานได้ไหม แต่ใครจะกล้า หลายคนรู้หมดว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพียงแต่เราจะหาพยานหลักฐานเพื่อนำมาชี้มูลผู้กระทำความผิดได้หรือไม่ ซึ่งจากนี้ทางกรรมาธิการ ป.ป.ช. จะเดินหน้าตรวจสอบตามพยานหลักฐานที่ฝ่ายค้านให้มาและพยานหลักฐานอื่นๆ ต่อไป
สำหรับการทำงานเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงในชั้นกรรมาธิการแตกต่างกับการทำงานของตำรวจเมื่อครั้งที่ตนเคยเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เช่น ตำรวจเมื่อศาลออกหมายจับสามารถทำงานได้ทุกเวลา ตั้งแต่เช้ายันค่ำทุกวันไม่มีวันหยุด แต่กรรมาธิการทำได้เฉพาะวันที่มีประชุมเท่านั้น
“ทั้งนี้จะพยายามรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะไม่อยากเห็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นคนที่ประพฤติชั่ว รับสินบาท คาดสินบน พูดกันด้วยเงิน ไม่ได้พูดด้วยเหตุผล จะยกมือทีก็ใช้เงินเป็นหลัก ถ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทำอย่างนี้ประเทศชาติจะอยู่ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เป็นผู้นำประเทศ คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีประพฤติปฏิบัติเอง เชื่อว่าประเทศจะอยู่ไม่ได้” พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าว
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์กล่าวอีกว่า มีพี่น้องประชาชนก่นด่าข้าราชการว่าซื้อยศซื้อตำแหน่ง ขอถามย้อนกลับไปว่าการซื้อตำแหน่งหรือป้องกันตำแหน่งไปจ่ายเงินให้กับใคร ก็ให้นักการเมืองผู้มีอำนาจทั้งนั้น ดังนั้นจึงเชื่อว่าหากสามารถแก้ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ได้ บ้านเมืองเราจะเจริญ ในเรื่องนี้ตนเชื่อเกินครึ่งอยู่แล้ว พี่น้อง ส.ส. ที่ร่วมรู้เห็นเหตุการณ์ก็อยากจะให้ช่วยกันเห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมือง เดี๋ยวตนจะกันไว้เป็นพยาน
อย่างไรก็ตาม กรณีการตรวจสอบนายกรัฐมนตรีในการแจกเงินให้กับ ส.ส. นั้นจะนำมาแทรกในระเบียบวาระการประชุมของคณะกรรมาธิการในวันที่ 29 กันยายนนี้ อาจจะเริ่มจากเชิญ วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. จังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้เปิดโปงนายกรัฐมนตรีเข้าให้ข้อมูลเป็นคนแรก ซึ่งจะเชิญนายกรัฐมนตรีเข้าให้ข้อมูลหรือไม่ก็ต้องขอพิจารณาในหลักฐานและข้อมูลที่มีก่อน เราสามารถเชิญมาได้ทุกคน
ยืนยันว่าจะทำให้เรื่องนี้ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ชัดให้เร็วที่สุด เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งที่สำคัญของประเทศ นายกรัฐมนตรีของเราคนนี้ทำอะไรก็แปลกๆ อยู่ตลอดเวลา เป็นสมาชิกพรรคก็ไม่ได้เป็น พอเขาไม่เอาก็ไปด่าเขา ไปปลดเขา เจ้าของบ้านจะไล่ กลับไปปลดเจ้าของบ้าน มันพิกล
พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ได้กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า แล้วจะเอาข่าวดีมาให้