×

ก้าวไกล-ประชาธิปัตย์ จับมือร่วมหอลงโรง ถก 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เดินหน้าตรวจสอบรัฐบาล

โดย THE STANDARD TEAM
18.01.2024
  • LOADING...

วันนี้ (18 มกราคม) ที่รัฐสภา ในการประชุมผู้นำพรรคร่วมฝ่ายค้าน หรือวิปฝ่ายค้าน นำโดย ชัยธวัช ตุลาธน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน, เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และตัวแทนพรรคไทยสร้างไทย พรรคเป็นธรรม พรรคครูไทยเพื่อประชาชน เพื่อร่วมกันหารือถึงแนวทางการทำงานในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน

 

การประชุมในวันนี้ เฉลิมชัยปรากฏตัวพร้อมคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส. พรรคที่รัฐสภา ในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นครั้งแรก ภายหลังจากได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566

 

เฉลิมชัยมาพร้อมกับแจกันดอกไม้ เพื่อร่วมแสดงความยินดีกับ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในโอกาสที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมอวยพรให้การทำงานในฐานะผู้นำฝ่ายค้านของชัยธวัชเป็นไปด้วยความราบรื่น 

 

ขณะที่ชัยธวัชกล่าวว่า ถือเป็นการเริ่มต้นการร่วมงานกัน พร้อมขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมประชุมวันนี้ คงจะเป็นการพูดคุยกันถึงแนวทางในการทำงานร่วมกันหลังจากนี้ไปว่าแต่ละพรรคมีข้อเสนออะไรบ้าง เพื่อที่จะได้กำหนดเป็นวาระและแผนงานของฝ่ายค้านต่อจากนี้ไป และหากมีข้อเสนอแนะอะไร พรรคก้าวไกลก็ยินดีรับฟัง

 

ย้ำความเป็น ‘เอกภาพ’ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้าน

 

ชัยธวัชได้แถลงผลการประชุมว่า วันนี้ได้หารือถึงเป้าหมายและแนวทางในการทำงานร่วมกันหลังจากนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานวาระปกติของสภาในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้ทำงานเป็นเอกภาพมากขึ้น รวมถึงหารือในวาระสำคัญๆ ที่ต้องทำงานร่วมกัน อย่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท เราจะตรวจสอบการดำเนินงานของรัฐบาลโดยภาพรวม และเรื่องอื่นๆ ที่เป็นนโยบายของรัฐบาล ทั้งโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต หรือโครงการแลนด์บริดจ์

 

ชัยธวัชกล่าวต่อว่า เราได้มีการพูดคุยถึงการอภิปรายตามมาตรา 151 มาตรา 152 การเปิดญัตติด่วนด้วยวาจา เราพูดคุยว่าจะเอาเนื้อหาสาระเป็นตัวกำหนดจังหวะก้าวของฝ่ายเรา โดยเฉพาะหากการบริหารของรัฐบาลผิดพลาดร้ายแรง เราจำเป็นต้องใช้กลไกของฝ่ายค้านในการทำหน้าที่

 

นอกจากงานในสภาแล้ว ต้องทำงานกับประชาชนด้วย จึงจะมีเวทีพูดคุยพบปะกับประชาชน โดยที่ไม่จำกัดว่าทำในช่วงปิดสมัยประชุมเท่านั้น เพราะหลายเรื่องสำคัญ อย่าง PM2.5 เรื่องที่ดิน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

 

ขณะที่เฉลิมชัยกล่าวว่า ครั้งนี้เป็นการกำหนดแนวทางการทำงานที่ชัดเจน การทำงานของพรรคฝ่ายค้านจะมีสาระเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชน เพื่อให้ได้ประสานงานกันมากขึ้น และตนเองเชื่อว่าการทำงานของเราจะราบรื่นมากขึ้น

 

น.อ. อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า แนวทางที่สรุปจะเป็นแนวทางทำงานร่วมกันให้เกิดเอกภาพ มีประสิทธิภาพในการรับใช้ประชาชน โดยเฉพาะการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลที่เป็นเรื่องเร่งด่วน กระทบพี่น้องประชาชน เราจะนำสู่การพิจารณาเพื่อแก้ไขวาระที่เป็นทุกข์ของประชาชนให้ได้ต่อไป

 

รอเวลายื่นซักฟอกรัฐบาล 

 

ชัยธวัชยังได้กล่าวถึงช่วงเวลาในการเปิดอภิปรายรัฐบาลว่า ขณะนี้ยังไม่มีกำหนดที่ชัดเจน แต่ได้พูดถึงหลักเกณฑ์ แนวทาง โดยพิจารณาจากเนื้อหาสาระ ผลกระทบ และความเสียหายจากการบริหารของรัฐบาลในการกำหนดจังหวะก้าวในการอภิปรายเหล่านี้ ซึ่งยังมีเวลาที่จะหาข้อสรุป เพราะต้นเดือนกุมภาพันธ์เราจะหารือกันอีกครั้ง

 

ชัยธวัชกล่าวเน้นย้ำถึงการเปิดอภิปรายเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วยว่า หากถึงเวลาที่เหมาะสม เราไม่เกรงใจแน่นอน ยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านทำงานอย่างตรงไปตรงมา ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ขณะเดียวกันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเอาอย่างไรกันแน่ เช่น ถ้ายื่น พ.ร.บ.เงินกู้ สภาจะเป็นกลไกสำคัญในการตรวจสอบ ถ้าใช้วิธีอื่น เราจะต้องดูทางอื่น เรายังใช้เวทีอื่นในการพูดถึงเรื่องนี้ ดังนั้นไม่ต้องกังวล และขอให้รอดูความชัดเจนของรัฐบาลเป็นหลัก เพราะเราคาดเดาไม่ได้เลยว่ารัฐบาลจะเอาอย่างไร

 

ก้าวไกลไม่ยื่น ‘ยุบพรรค’ ภูมิใจไทย

 

ขณะที่ ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส. พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินให้ศักดิ์สยามพ้นความเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพราะขาดคุณสมบัติตามมาตรา 170 วรรค (5) แล้วนั้น 

 

ปกรณ์วุฒิกล่าวยืนยันว่า แม้ตนเองจะเป็นผู้ยื่นตรวจสอบจริยธรรม และสามารถยื่นร้องนำไปสู่การยุบพรรคภูมิใจไทยได้ เนื่องจากศักดิ์สยามเป็นคนบริจาคเงินให้กับพรรคภูมิใจไทย แต่ขอยืนยันจุดยืนของพรรคก้าวไกลว่า ไม่ควรให้องค์กรใดองค์กรหนึ่งมาตัดสินประหารชีวิตทางการเมืองของบุคคลหรือพรรคการเมืองใดๆ

 

โดยมองว่าการตัดสินประหารชีวิตทางการเมือง คิดว่าอำนาจจะต้องเป็นของประชาชนที่ในการเลือกตั้งจะต้องไม่เลือกบุคคลนั้นให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้แทนของประชาชน รวมถึงพรรคการเมืองจะดำรงอยู่ได้หรือไม่ขึ้นอยู่ที่ว่าประชาชนจะเลือกหรือไม่เลือกเท่านั้น ไม่ใช่ให้องค์กรใดมาตัดสิน

 

ส่วนจะเป็นบรรทัดฐานใหม่ของการเมืองหรือไม่นั้น ปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เป็นจุดยืนของพรรคก้าวไกลมากกว่า เพราะเข้าใจดีว่าหลายพรรคการเมืองทั้งพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกลก็ถูกกระทำแบบนี้บ่อยครั้ง หากเรายืนในจุดยืนเดิมก็จะไม่เข้าสู่ด้านมืด จึงไม่จำเป็นต้องทำแบบที่คนอื่นทำ ถ้าเรายืนยันและยึดมั่นในหลักการ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญทางการเมือง

 

กระบวนการยุติธรรม-ตรวจสอบคนชั้น 14 

 

ชัยธวัชกล่าวยืนยันว่า แม้พรรคก้าวไกลจะทำงานตรวจสอบ แต่ตรวจสอบภายใต้หลักการที่ถูกต้อง ส่วนเรื่องการร้องให้ยุบพรรคนั้นไม่ได้เป็นนโยบายของพรรคก้าวไกล แต่ย้ำว่าเฉพาะกรณีนี้ยังมีเรื่องต่อเนื่องอีกหลายส่วน นอกจากเรื่องยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จแล้ว ยังมีเรื่องที่ศักดิ์สยามเอาบริษัทของตัวเองมาเป็นคู่สัญญากับรัฐ ซึ่งยังเป็นประเด็นให้ตรวจสอบต่อเนื่อง โดยไม่ได้นึกถึงเรื่องยุบพรรคอย่างเดียว

 

ชัยธวัชกล่าวชี้แจงอีกว่า ที่พรรคก้าวไกลไม่ยื่นให้ยุบพรรคภูมิใจไทยเพราะกังวลว่าพรรคตนเองจะถูกยุบนั้น ไม่เกี่ยวกับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 31 มกราคมนี้แต่อย่างใด เพราะคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในวันนั้นไม่ได้เป็นคำร้องที่จะนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล แต่เป็นคำร้องเพื่อให้ยุติการกระทำที่กล่าวหามา มั่นใจว่าพรรคก้าวไกลไม่ถูกร้องให้ยุบพรรคแน่นอน 

 

“พรรคก้าวไกลได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ และยืนอยู่บนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายจึงไม่ได้กังวล พร้อมที่จะไปรับฟังคำวินิจฉัยตัดสินด้วยตนเองหากไม่ติดโหวตวาระสำคัญที่รัฐสภา” 

 

ชัยธวัชยังย้ำบทบาทของฝ่ายค้านว่า ยังยึดมั่นหลักจริยธรรมและยุติธรรมสองมาตรฐาน โดยเฉพาะ สว. บางคนสะท้อนว่า ผิดหวังฝ่ายค้านยุคนี้ที่เห็นเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ให้ความสำคัญเรื่องกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะคนบนชั้น 14 น้อยมากนั้น ยืนยันว่าไม่ได้น้อยอย่างแน่นอน อย่างไรเรื่องการสร้างระบบความยุติธรรมที่เสมอภาคเป็นวาระสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกลหรือพรรคอื่นก็ให้ความสำคัญ

เพียงแต่จังหวะก้าว ประเด็น และรายละเอียดหลายเรื่องอาจจะไม่ถูกใจหรือไม่ทันใจ แต่ขอเอาหลักการที่ถูกต้องมาจะดีกว่า เพราะอย่างไรก็ไม่ได้ทิ้งเรื่องนี้แน่นอน และถือเป็นเรื่องดีที่ สว. ให้ความสำคัญเรื่องนี้ และหวังว่า สว. จะให้ความสำคัญกับเรื่องความยุติธรรมในทุกมิติในทุกกรณีด้วย โดยเฉพาะคดีการเมืองที่พรรคก้าวไกลได้เสนอไป ควรจะเป็นเงื่อนไขที่จะมีนโยบายคลี่คลายความขัดแย้งในเรื่องเหล่านี้ด้วย

 

ประชาธิปัตย์อยู่ฝ่ายค้านครบ 4 ปี?

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การร่วมประชุมผู้นำพรรคร่วมฝ่ายค้านในวันนี้ สามารถการันตีได้หรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นฝ่ายค้านจนครบ 4 ปี ชัยธวัชตอบว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้เช่นกัน แต่โดยหลักการที่สำคัญมากๆ คือความไว้วางใจในการประสานงานกันเพื่อเป็นเอกภาพ ก่อนหน้านี้อาจมีช่องว่าง แต่ในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตนเองให้เกียรติและเคารพทุกพรรค ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไร

 

อย่างไรก็ตาม เฉลิมชัยรวมถึงแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว และได้จบการแถลงข่าวในวันนี้ทันที

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X