×

54 แบรนด์รถจีน ญี่ปุ่น ยุโรป และเกาหลีใต้ โหมโปรหนัก ปลุกตลาดรถยนต์ GWM มองไทยถึงจุดสิ้นสุดสงครามราคาแล้ว

25.03.2025
  • LOADING...
บรรยากาศงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 46 ที่มี 54 แบรนด์รถยนต์ร่วมจัดแสดงและอัดโปรโมชันกระตุ้นตลาด

อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยยังคงซบเซา ด้วยหลายๆ ปัจจัยสะท้อนชัดจากตัวเลขยอดขาย ยอดผลิต จากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยยอมรับว่าถึงวันนี้ สภาวะตลาดยานยต์ไทยยังคงทรุดลงต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 3  

 

ล่าสุด กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมยานยนต์กว่า 54 แบรนด์  จัดงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ธีม “The Talk of Sensuous Automotive” หรือ “สนทนาภาษายานยนต์” โดย THE STANDARD WEALTH ได้ร่วมพูดคุยกับแบรนด์รถยนต์ถึงสถานการณ์ตลาด และมุมมองสงครามราคายานยนต์ไฟฟ้าในไทย รวมถึงเข้าชมภายในงานซึ่งเห็นได้ชัดว่า หลายแบรนด์อัดแคมเปญ โปรโมชันลดราคา หวังกระตุ้นยอดขายกันอย่างคึกคัก

 

บรรยากาศงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนลมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 46 ที่มี 54 แบรนด์รถยนต์ร่วมจัดแสดงและอัดโปรโมชันกระตุ้นตลาด

 

54 แบรนด์แน่นฮอลล์ ปีนี้แบรนด์จีนมาเพิ่มอีก 14 แบรนด์

 

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงาน “บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 กล่าวว่างานมอเตอร์โชว์ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้ธีม “The Talk of Sensuous  Automotive” หรือ “สนทนาภาษายานยนต์”  

 

ขณะที่ จาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงานบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ระบุว่า ปีนี้มีผู้ประกอบการยานยนต์จากยุโรปและเอเชีย ตอบรับเข้าร่วมออกบูธภายในงานฯ แล้ว 54ราย แยกเป็นรถยนต์ 41 บริษัท และจักรยานยนต์ 13 ราย 

 

นอกจากนี้ ยังได้รับการตอบรับการเข้าร่วมออกงานฯของกลุ่มลูกค้ารายใหม่ที่เป็นแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า ที่เพิ่งเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น ZEEKR, OMODA&JAECOO, CHERY, KINGGEN, JUNEYAO, RIDDARA และ GEELY รวมถึงเทคโนโลยีระบบนำทางภายในรถยนต์ HUAWEI นอกจากนี้ยังมีแบรนด์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า YADEA ที่มาเปิดตัวครั้งแรกภายในงานฯ ดังนั้น ปีนี้มีผู้ประกอบการจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 14 ราย 

 

“ไฮไลต์ของการจัดงานฯ ปีนี้ นอกจากจะมีการเปิดตัวรถยนต์และรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ทั้งรถสันดาปและรถอีวีของผู้ประกอบการยานยนต์แล้วบริษัทฯ ได้จัดเตรียมพื้นที่ฟอรั่ม ฮอลล์ 4 พื้นที่กว่า 9,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการออกบูธอุปกรณ์ตกแต่งรถโดยเฉพาะ“

 

จาตุรนต์ ระบุอีกว่า ปีนี้ได้ขยายฐานผู้ออกบูธแสดงสินค้าสู่กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถอีวีและสันดาปที่ต้องการขยายตลาดในประเทศไทย  ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก บริษัท หนานจิง ฉ่วงฉี เอ็กซิบิชั่น จากประเทศจีน ได้นำสินค้าอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จากประเทศจีน มาจัดแสดงเพื่อให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยที่สนใจเป็นร่วมตัวแทนจำหน่ายอีกด้วย

 

“นับได้ว่า เป็นครั้งแรกของการจัดงานแสดงรถยนต์เพื่อผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์โดยตรง เป็นการเชื่อมโยงทางธุรกิจ และการสร้างเครือข่ายระหว่างผู้ประกอบการ บนพื้นที่กว่า 3,800 ตารางเมตร ซึ่งจัดตั้งแต่วันที่ 24-30 มีนาคม 2568” 

 

ผู้จัดหวังฟื้นตลาดรถยนต์ไทย 10% หวังภาวะตลาดซบเซา

 

ด้านพีระพงศ์ เอี่ยมลำเนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ในฐานะผู้จัดงาน ได้มีการพัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ทั้งผู้เข้าร่วมงาน  

 

“แม้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ปีนี้คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนและเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนประกอบกับสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเนื่องจากภาวะหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการซื้อรถใหม่และรถมือสอง คาดว่าการจัดงานฯ ปีนี้จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา” พีระพงศ์ กล่าว

 

 

วัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฮุนไดส่ง “N Line Series รถแนวสปอร์ตสู่ตลาดรถเมืองไทย 3 รุ่นและ กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า IONIQ 5, IONIQ 6, IONIQ 5 N หรือ SUV ระดับแฟลกชิป Palisade และยังมี “Hyundai Spark Offer” ที่ลดราคาสูงสุดถึง 330,000 บาท หรือให้ดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 84 เดือน

 

วัลลภ กล่าวอีกว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าภาพรวมยอดตลาดรถยนต์ไทย 2 เดือนแรก ยังคงลดลงกว่า 10% ซึ่งสะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้ดีขึ้น จากเดิมที่เคยตั้งเป้าไว้ 560,000 คัน ภาพรวมน่าจะลดลงที่ 530,000 คัน

 

“ปัจจัยหลักๆ คือ เศรษฐกิจชะลอและหนี้ครัวเรือน สงครามราคายังคงส่งผลต่อการตัดสินใจผู้ซื้อ อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการขอให้รัฐบาลออกมาตรการอุดหนุนผ่านกองทุนกระบะ 5,000 ล้านบาท เป็นแนวทางที่ดี แต่ขอให้รัฐบาลควรลงรายละเอียดมากกว่านี้ เพื่อความชัดเจนว่าจะดำเนินการแนวทางอย่างไร”

 

ขณะที่ทิศทางยอดขายรวมตลาด BEV ในไทย มองว่า น่าจะทรงตัวที่ 7 – 80,000 คัน ส่วนมุมมองโครงการ “รถเก่าแลกรถใหม่” นั้น มองว่าเงื่อนไขรถเก่า 20 ปี นานเกินไป ควรปรับมาเป็น 10-15 ปี เพราะค่าเสื่อมเยอะ และกรณีที่รัฐจะอุดหนุนราคา นั้นคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจาก ปีนี้ก็ยังคงไม่เห็นปัจจัยบวก ตลาดยังคงนิ่ง  

 

“ผมทำงานมา 25 ปี ไม่เคยเห็นแต่ละค่ายอัดโปรโมชันเยอะขนาดนี้” วัลลภ กล่าว

 

ด้าน ฌ็อง ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า เกียจะเน้นการขยายการรับรู้แบรนด์ผ่านแคมเปญการตลาดต่างๆ และมีราคาสุดพิเศษ หลากหลายโปรโมชัน ภายใต้แคมเปญ ‘Join The Kia Family’ เช่นมีโปรแกรมบำรุงรักษาตามระยะฟรี 10 ปี  

 

 

ด้านพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า งานมอเตอร์โชว์ในครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งเวทีสำคัญที่จะทำให้ เอ็มจี เดินหน้าทำตลาดในไทย โดยตั้งเป้าปีนี้ จะครองส่วนแบ่งทางการตลาด 5% และมุ่งสู่ Top 5 ในตลาดยานยนต์ไทย ผ่าน 4 กลยุทธ์หลัก ซึ่งยังคงส่งรถยนต์ไฟฟ้า และไฮบริดรุ่นใหม่ เพิ่มเติมพอร์ทโฟลิโอภายในปี 2026  

 

นอกจากนี้ พงษ์ศักดิ์ มองถึงตลาดยานยนต์ไทยในขณะนี้ว่า เนื่องจากตลาดชะลอ  MG ได้หยุดการผลิตรถกระบะในประเทศไทย  

 

“แต่ยืนยันว่า ผลกระทบมีน้อยมาก เนื่องจากรถกระบะไม่ใช่เป้าหมายหลักของบริษัท แต่การผลิตจะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง เมื่อสภาพตลาดดีขึ้น” พงศ์ศักดิ์ กล่าว

 

 

GWM มองไทยถึงจุดสิ้นสุดสงครามราคาแล้ว 

 

วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองประธานฝ่ายการตลาด GWM (Thailand) กล่าวว่า GWM (Thailand) เดินหน้าตอกย้ำการเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานซึ่งงานครั้งนี้ได้เปิดตัวและประกาศอย่างเป็นทางการของนวัตกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด ALL NEW GWM HAVAL H6

 

สำหรับมุมมอง มาตรการกระตุ้นกำลังซื้อรถกระบะ เข้าใจว่ารัฐบาลพยายามกระตุ้นยอดขาย แต่ส่วนตัวแล้วมองว่า ปีนี้กำลังซื้อของประชาชนสำคัญมากและจะเป็นโจทย์ที่ในการทำตลาดของแต่ละแบรนด์เพื่อให้ตรงจุดและเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า 

 

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมยานยนต์ชะลอตัว ส่วนตัวมองว่า “ตลาดน่าจะเรียนรู้กรณีการทำสงครามราคาแล้ว” ฉะนั้น การทำตลาดในวันนี้และอนาคตจึงต้องไปในทิศทางที่ว่า จะทำอย่างไรที่จะตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งเราควรตั้งราคาให้ถึงจุดที่ผู้ซื้อสามารถตัดสินใจได้  

 

“เราไม่อยากทำสงครามราคาให้ลูกค้าลังเล เราอยากบริหารการตลาด การบริการหลังการขายให้ดียิ่งขึ้น เพื่อผู้บริโภค ดังนั้น ปีนี้เราขอแข่งกับตัวเอง ดูแลลูกค้าให้ดี ผมมองว่า เรื่องของสงครามราคา ลึกๆแล้ว เราน่าจะถึงจุดสิ้นสุดของสงครามราคา EV แล้ว”  

 

สำหรับแผนการผลิตของโรงงาน GWM ปีนี้ จะเริ่มผลิตรถพวงมาลัยขวาเพื่อส่งออก ไปยังตลาดเอเชีย ออสเตรเลียและเพื่อนบ้านอาเซียน ซึ่งโรงงานเราใช้ Local content มากถึง 40-50% 

 

ส่วนการลงทุนยังไม่มีตัวเลขแผนการลงทุนเพิ่ม แต่จะพัฒนาสิ่งที่มีให้ดียิ่งขึ้น ขณะที่ นโยบายขึ้นภาษีทรัมป์ มองว่า ไม่มีผลต่อ GWM เพราะไม่ได้ทำตลาดสหรัฐเป็นหลัก  แต่น่าจะมีผลทางอ้อมในตลาดอื่นๆ มากกว่า

 

ด้าน Mr. Sun Baolong, General Manager of NETA Auto (Thailand) Co., Ltd. กล่าวว่า ปีนี้เนต้าตั้งเป้ายอดขายรถที่ 10,000 คัน และภายในปี 2029 หรืออีก 5 ปี จะอยู่ที่ 50,000 คัน โดยเนต้าพร้อมจำหน่ายในไทย  6 รุ่น และปีนี้จะมี 2 รุ่น ที่เริ่มผลิตโรงงานในไทย ซึ่งจะเริ่มผลิตเดือน พ.ค.-มิ.ย. เป็นการผลิตร่วมกับพันธมิตรกลุ่มบางชัน 

 

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าทำตลาดและผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยใช้งบลงทุนในไทยราว 5,000 ล้านบาท 

 

“มุมมองตลาดรถยนต์ในไทยน่าจะยังเติบโต เนื่องจากรัฐบาลไทยให้การสนับสนุนรถไฟฟ้าเป็นอย่างดีปีนี้ ผมมองว่าปีนี้ ภาพรวมทั้งตลาดน่าจะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 85,000 คัน”

 

สำหรับบรรยากาศในงาน นอกจากจะมีนวัตกรรมมาโชว์ หลายแบรนด์จากค่ายรถ EV จีน อย่าง BYD, ZEEkr, GEELY, GAC Aion,  OMODA & JAECOO ที่ราคาเริ่มต้น 5-6 แสนบาท  แบรนด์ญี่ปุ่น TOYOTA,HONDA, MAZDA, ISUZU, NISSAN, MITSUBISHI  และค่ายเกาหลี อย่างเกีย, ฮุนได ที่อัดโปรโปรชัน ผ่อน 0% ระยะเวลา 7 ปี รวมถึงแบรนด์ยุโรป mercedes benz, Audi, BMW ผ่อน 0% นานถึง 8 ปี 

 

รวมถึงมีไฮไลต์ในงานที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ที่ดึงเอาความเชื่อสายมูช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อรถ เพื่อปลุกตลาดยานยนต์ไทย ด้วยการ “เปิดจักรวาลมูเตลูไทย สู่คนรุ่นใหม่” เป็นอีเวนต์ที่รวบรวม เรื่องราวมูเตลูของเมืองไทย มี อ.ลักษณ์ โหราธิบดี  ให้คำปรึกษาฤกษ์ออกรถ ป้ายทะเบียนมงคล และมีบูธจัดแสดง USED CAR หรือรถมือสองระดับลักชัวรีที่มาเติมสีสัน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising