- เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรระบุว่า Fed พร้อมเดินหน้าใช้มาตรการรผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และ Forward Guidance เนื่องจากข้อจำกัดด้านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจและการเงิน อีกทั้งย้ำว่ายังคงติดตามผลกระทบจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา เพื่อประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดต่อไป
- FTC เดินหน้าสอบการควบรวมกิจการ 5 ยักษ์ใหญ่ คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ (FTC) สั่งให้ Amazon, Apple, Facebook, Microsoft และ Alphabet (Google) เตรียมรายละเอียดการควบรวมกิจการขนาดเล็กในรอบทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อทำการตรวจสอบการผูกขาดการค้า ว่าการควบรวมกิจการคู่แข่งขนาดเล็กที่ผ่านมา สร้างความเสียหายต่อการแข่งขันทางการค้า และเอาเปรียบผู้บริโภคหรือไม่ รวมถึงพิจารณาว่าเป็นการหลบเลี่ยงการตรวจสอบจากภาครัฐหรือไม่ โดย Blue-ribbon Antitrust Panel ระบุว่า ในทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยี 5 รายใหญ่ได้มีการควบรวมกิจการไปมากกว่า 400 รายการ ซึ่งอาจเป็นการขัดขวางการพัฒนานวัตกรรม และการลงทุน
- นักวิเคราะห์คาด NVIDIA กำไรโต เหตุกลุ่มเทคขยายตัว โดย NVIDIA หนึ่งในผู้ผลิตชิปและชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก มีกำหนดประกาศผลประกอบการในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรต่อหุ้นไตรมาสที่ 4/2019 จะอยู่ที่ 1.66 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากรายได้กว่า 3,000 ล้านดอลลาร์
- ราคาบ้านอังกฤษพุ่งแรง 17% หลัง Brexit ชัดเจน วานนี้ RICS ประกาศราคาอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษประจำเดือนมกราคม ปรับตัวสูงขึ้น 17% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะปรับสูงขึ้น 3% และขยายตัวจากเดือนก่อนหน้าที่หดตัว 2% เป็นการปรับตัวขึ้นสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2017 จากการฟื้นตัวของราคาอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน และเมืองในแถบตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ซึ่งถูกประเมินราคาไว้ในระดับที่ต่ำจากภาษีขายอสังหาริมทรัพย์ที่ปรับขึ้นในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับความชัดเจนกรณี Brexit ที่เกิดขึ้น ยังคงเป็นอีกปัจจัยสำคัญให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์อังกฤษกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง
- จีนมั่นใจเศรษฐกิจเดินหน้า แม้โคโรนาระบาด วานนี้ ไคฟาง รองหัวหน้าสถาบันสังคมศาสตร์ของจีน (CASS) เผยบทความว่า จีนจะยังคงสามารถบรรลุเป้าหมายระยะยาวของการขยายตัวทางเศรษฐกิจและรายได้ได้ แม้กรณีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจะกระทบเศรษฐกิจให้ชะลอตัวในระยะสั้น แต่ท้ายที่สุดแล้วอุปสงค์จะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และจะไม่ทำให้เป้าหมายระยะยาวของรัฐบาลต้องล่าช้าออกไป พร้อมทั้งระบุว่า รัฐบาลควรใช้เครื่องมือทางการเงินและการคลังอย่างเหมาะสม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
- ดัชนี Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น และทำจุดสูงสุดใหม่ทั้งสามตลาด จากการที่ตลาดคลายความกังวลต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ ไวรัสโรคโควิด-19 ที่เริ่มควบคุมสถานการณ์ได้ หลังพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มลดลง รวมไปถึงการแถลงของ เจอโรม พาวเวลล์ ที่จะรักษาอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ พร้อมทำการเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวเป็นจำนวนมากหรือ QE หากเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว สร้างแรงหนุนให้กับนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นกลุ่มแบรนด์เนมหรือสินค้าหรูหราปรับตัวขึ้นนำตลาด อาทิ หุ้นเคอริ่ง พุ่งขึ้น 6.27% และ หุ้นหลุยส์ วิตตอง พุ่ง 3.00% เป็นต้น
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวพุ่งขึ้นกว่า 2% จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เริ่มพบผู้ป่วยรายใหม่น้อยลง เป็นผลดีต่อด้านอุปสงค์น้ำมันกลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง รวมไปถึงสต๊อกน้ำมันเบนซิน น้ำมันกลั่น และน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ลดความกังวลที่จะเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดได้ ด้านราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากถ้อยแถลง Fed ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ส่งผลให้นักลงทุนย้ายเม็ดเงินจากตราสารหนี้ไปยังทองคำที่เป็นสินทรัพย์ที่มีความคงทนในระยะยาวมากกว่า
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 29551.42 เพิ่มขึ้น 275.08 (0.94%)
- S&P 500 ปิดที่ 3379.45 เพิ่มขึ้น 21.7 (0.65%)
- Nasdaq ปิดที่ 9725.96 เพิ่มขึ้น 87.02 (0.9%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 13749.78 เพิ่มขึ้น 121.94 (0.89%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7534.37 เพิ่มขึ้น 34.93 (0.47%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3854.43 เพิ่มขึ้น 28.59 (0.75%)
- FTSE MIB ปิดที่ 24861.28 เพิ่มขึ้น 172.39 (0.7%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 23861.21 เพิ่มขึ้น 175.23 (0.74%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 7088.2 เพิ่มขึ้น 32.9 (0.47%)
- Shanghai ปิดที่ 2926.9 เพิ่มขึ้น 25.22 (0.87%)
- SZSE Component ปิดที่ 10940.8 เพิ่มขึ้น 172.17 (1.6%)
- China A50 ปิดที่ 13638.49 เพิ่มขึ้น 35.06 (0.26%)
- Hang Seng ปิดที่ 27823.66 เพิ่มขึ้น 239.78 (0.87%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 11774.19 เพิ่มขึ้น 110.15 (0.94%)
- SET ปิดที่ 1539.84 เพิ่มขึ้น 15.91 (1.04%)
- KOSPI ปิดที่ 2238.38 เพิ่มขึ้น 15.26 (0.69%)
- IDX Composite ปิดที่ 5913.08 ลดลง -41.32 (-0.69%)
- BSE Sensex ปิดที่ 41565.9 เพิ่มขึ้น 349.76 (0.85%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7383.1 ลดลง -56.3 (-0.76%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 51.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.53 (3.07%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 56.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.36 (4.37%)
- ราคาทองคำปิดที่ 1570.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 3.08 (0.19%)
อ้างอิง:
- InfoQuest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์