วันนี้ (30 พฤศจิกายน) ที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) ชนะสงคราม 5 แกนนำกลุ่มราษฎร ประกอบด้วย อานนท์ นำภา หรือ ทนายอานนท์, พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง, ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และ ปฏิวัฒน์ สาหร่ายแย้ม หรือ หมอลำแบงค์ เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน ในความผิดข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 คดีนี้สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง บริเวณสนามหลวง ในช่วงวันที่ 19-20 กันยายน 2563
คนแรกที่มาถึงคือปฏิวัฒน์ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นศิลปิน มีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ตนให้ความสุขอย่างเดียว ไม่เคยให้ความทุกข์กับใคร ส่วนข้อหาที่โดนก็เป็นข้อหาเก่า ตนโดนเรียกมาที่ สน.ชนะสงคราม 3 ครั้ง สังคมจะเป็นผู้ตัดสินเอง และจะขอสู้คดีทั้ง 3 ศาล ยืนยันว่าตนเองคือผู้บริสุทธิ์ และวันนี้จะขอคุยเรื่องศีลธรรมในความเป็นมนุษย์ ขอยืนยันอีกครั้งว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์
ด้านพริษฐ์ระบุว่าการใช้มาตรา 112 ในการดำเนินคดีกับแกนนำจะเป็นประจักษ์พยานให้สังคมโลกและสังคมไทยได้รับรู้ว่า มีความต้องการที่จะมาเป็นคู่ขัดเเย้งทางการเมือง และทุกหมายเรียกจะเป็นประจักษ์พยานว่า การใช้กฎหมายทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ตนเชื่อว่าการใช้กฎหมายมาตรา 112 จะทำให้คนออกมาชุมนุมเพิ่มมากขึ้น
เมื่อถามว่าการที่แกนนำโดนคดีมาตรา 112 จะหยุดการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่นั้น แกนนำระบุว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะพระพุทธเจ้าก็ไม่มีกฎหมายคุ้มครอง แต่ทำไมยังมีคนนับถือบูชา
ด้านภาณุพงศ์เผยว่า การใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ได้ทำให้ผู้ชุมนุมหยุดการเคลื่อนไหว การดำเนินคดีมาตรา 112 เป็นการรับคำสั่งจากใครหรือไม่ พร้อมระบุว่าทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม การใช้มาตรา 112 เป็นการแจ้งข้อกล่าวหาอีกรอบหนึ่งหลังจากที่ฝากขังพวกเราไปแล้ว
ด้านทนายอานนท์บอกว่า รู้สึกเฉยๆ กับการใช้มาตรา 112 เป็นกฎหมายที่อยุติธรรมไม่ได้ให้ค่าอะไร พยานหลักฐานประจักษ์ชัด ตนจะขอสู้ด้วยกระบวนการรยุติธรรม เเละมองว่าศาลเองเริ่มเป็นหลักให้กับสังคมได้ เพราะหลายคดีที่ตำรวจไปขออนุมัติหมายจับ ศาลก็ไม่อนุมัติ เราจะสู้ต่อไป ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ เราไม่เคยกลัวความจริง
ในส่วนของปนัสยาเผยว่า มาตรา 112 เป็นกฎหมายที่ไม่ชอบธรรม ซึ่งก็เป็น 1 ใน 10 ข้อของการเรียกร้องที่กลุ่มราษฎรต้องการให้มีการปฏิรูป การเคลื่อนไหวจะดำเนินการต่อไป เพื่อให้บรรลุข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
