วันนี้ (11 มิถุนายน) น.อ.ต.นพ.อรรถสิทธิ์ ดุลอำนวย หัวหน้าแผนกนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ กล่าวว่า ภาพรวมประเทศไทยฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว 5.6 ล้านโดส ดังนั้นการเกิดเหตุไม่พึงประสงค์จึงเกิดขึ้นได้ และขอทำความเข้าใจดังนี้
- อาการไม่พึงประสงค์หลังรับวัคซีนไม่เท่ากับผลข้างเคียง และไม่เท่ากับการแพ้วัคซีน
- การแพ้วัคซีนพบในอัตราน้อยกว่า 1 กรณีต่อการฉีด 1 แสนโดส อยู่ในระดับถือว่าวัคซีนมีความปลอดภัย
- ปัจจุบันยังไม่มีผู้เสียชีวิตรายใดเกิดจากการฉีดวัคซีน โดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญสรุปผลแล้ว 12 รายมีโรคและเหตุการเสียชีวิตชัดเจนและไม่ได้เกิดจากวัคซีน
สำหรับกรณีหญิงอายุ 46 ปีที่จังหวัดปทุมธานี เสียชีวิตหลังได้รับวัคซีนโควิด-19 นั้น ไทม์ไลน์ของผู้ป่วยคือ
- 11.45 น. ฉีดวัคซีน AstraZeneca ที่ศูนย์ฉีดวิทยาลัยเทคโนโลยีไทยบริหารธุรกิจ สังเกตอาการครบ 30 นาที ไม่ผิดปกติ หลังกลับบ้านเริ่มมีไข้ อ่อนเพลีย
- 22.00 น. ชัก เกร็ง หมดสติ เพื่อนบ้านได้ปั๊มหัวใจและเรียกรถพยาบาล
- 23.10 น. ปั๊มหัวใจ กู้ชีพไม่สำเร็จและประกาศการเสียชีวิต แพทย์เวรลงความเห็นว่าเสียชีวิตแบบไม่ปรากฏเหตุและไม่ทราบสาเหตุ จึงส่งศพชันสูตรละเอียดที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
ผลการชันสูตรพลิกศพ พบว่าผู้ป่วยมีภาวะบวมน้ำที่ปอด 2 ข้างอย่างรุนแรง พบเลือดออกในถุงหุ้มหัวใจปริมาณ 180 ซีซี หัวใจบนขวาฉีกขาด เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน และผู้ป่วยมีกล้ามเนื้อหัวใจตายชนิดเก่าที่หัวใจห้องล่างซ้าย และเส้นเลือดหัวใจตีบทั้ง 3 เส้น ทั้งหน้าซ้าย หน้าขวา และหลังซ้าย
“สรุปสาเหตุการเสียชีวิต ผู้ป่วยมีเลือดออกที่ถุงหุ้มหัวใจจากหัวใจห้องบนขวาฉีกขาดเนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ขณะนี้ได้ส่งข้อมูลให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาว่าเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ อย่างไรก็ตามผู้เสียชีวิตรายนี้ไม่ได้รับประทานยาไมเกรนตัวเดียวกับที่เป็นข่าว” น.อ.ต.นพ.อรรถสิทธิ์กล่าว
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ