วานนี้ (6 ตุลาคม) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในช่วงบ่ายต่อเนื่องถึงช่วงค่ำ มีการจัดกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ครบรอบ 45 ปี หลังช่วงเช้ามีพิธีกรรมทางศาสนาและการวางหรีดอาลัย รวมถึงการกล่าวรำลึกสดุดี
ขณะเดียวกันยังมีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ในรูปแบบต่างๆ เช่น กลุ่มทะลุฟ้า ได้นำกระดาษที่มีข้อความและรูปภาพเหตุการณ์ความรุนแรงในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 มาโปรยเต็มพื้นที่สนามฟุตบอล พร้อมกับหุ่นผ้าเปื้อนสีแดงที่สื่อถึงผู้เสียชีวิต เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ที่สื่อถึงจุดที่เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว
จากนั้นมีการปราศรัยจากแกนนำแนวร่วมกลุ่มราษฎร และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ในหัวข้อที่มีชื่อว่า มาตรา 112 มรดกตกทอดจากเหตุการณ์ 6 ตุลา
ธัชพงศ์ แกดำ ได้ปราศรัยช่วงหนึ่ง ระบุว่า การจัดงานรำลึกครั้งนี้ เพื่อติดตามหาคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งผู้กระทำและผู้สั่งการในเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะที่ในปัจจุบัน ยังคงมีการใช้กฎหมายอาญา มาตรา 112 กับประชาชน ซึ่งกฎหมายดังกล่าวเป็นผลพวงมาจากเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 จึงจำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อให้เกิดการยกเลิกมาตราดังกล่าว และเพื่อให้มาตรา 112 ไม่สามารถใช้เป็นเครื่องมือได้อีก
ขณะที่กิจกรรมจะเป็นการปราศรัยสลับกับการเล่นดนตรี โดยมี ธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ลูกนัท และ ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ และการแสดงกิจกรรมไฮไลต์ที่สื่อถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ในการทำกิจกรรมเผาหุ่นผ้าเชิงสัญลักษณ์ที่สื่อถึงตัวแทนผู้เสียชีวิต และการอ่านบทกวี จาก ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนากุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมจุดเทียนรำลึก และขับร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธาก่อนจะยุติกิจกรรม
สำหรับกิจกรรมในวันนี้ มีการจัดภายในมหาวิทยาลัย ไม่ได้ออกไปใช้พื้นที่นอกมหาวิทยาลัย
ขณะที่ภายในท้องสนามหลวงและถนนหน้าพระธาตุ เจ้าหน้าที่ได้นำตู้คอนเทนเนอร์มาปิดกั้นพื้นที่
พ.ต.อ. สนอง แสงมณี ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาล (สน.) ชนะสงคราม พร้อมตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ได้เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยภายในพื้นที่จัดงานรำลึก 45 ปี และพูดคุยกับแกนนำผู้จัดงาน โดยย้ำว่า บริเวณพื้นที่สนามหลวงยังเป็นส่วนหวงห้ามในการทำกิจกรรมใดๆ