(26 ส.ค.) ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) กล่าวเปิดการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 40 ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพมหานคร ว่ารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับสมาชิกสมัชชารัฐสภาอาเซียนทุกคนสู่การประชุมครั้งนี้ ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียนครั้งล่าสุดเมื่อ 10 ปีที่แล้ว และนับเป็นเวลา 42 ปีแล้วที่สมัชชารัฐสภาอาเซียนได้ทำหน้าที่เป็นเวทีที่จะส่งเสริมความร่วมมือในหมู่สมาชิกรัฐสภาอาเซียน ประกอบด้วยสมาชิกรัฐสภา 10 ประเทศ รวมทั้งตัวแทนจาก 12 รัฐสภาจากประเทศผู้สังเกตการณ์ทั่วโลก ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จที่โดดเด่นของการจัดการประชุมครั้งนี้ และท่ามกลางกระแสของการเปลี่ยนแปลง ทั้งภัยคุกคามจากลัทธิความรุนแรง การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ ภัยจากการอพยพ และปัญหาการคอร์รัปชัน นับเป็นปัญหาที่เป็นความท้าทายใหม่ต่อความสำเร็จของอาเซียน จึงเป็นที่มาของหัวข้อการประชุมใหญ่ในปีนี้คือ ‘นิติบัญญัติร่วมมือร่วมใจ ก้าวไกลเพื่อประชาคมที่ยั่งยืน’ ซึ่งในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติของอาเซียนถือเป็นหน่วยงานการปกครองที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด และอยู่ในตำแหน่งเฉพาะตัวที่จะเห็นสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาที่เกิดกับประชาชนด้วยการฟังเสียงของประชาชน
ประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียนยังกล่าวถึง 4 บทเรียนในการขับเคลื่อนอาเซียนในฐานะองค์กรนิติบัญญัติว่า บทเรียนแรกคือต้องจัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนภายใต้การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด บทเรียนที่สองคือความร่วมมือในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในอนาคตระยะยาว บทเรียนข้อที่สามคือต้องให้ความสำคัญกับประชาชน ทั้งคนในประเทศของตนเองหรือผู้อยู่อาศัย 647 ล้านคนของอาเซียน สิ่งสำคัญคือการวัดความสำเร็จของอาเซียนจากความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งหากทุกประเทศสามารถเพิ่มขีดความสามารถให้ประชาชนยืนด้วยตนเองได้โดยการให้โอกาสและความมั่นคง ประชาคมจะเติบโตและคงทนได้ตามธรรมชาติ สุดท้ายบทเรียนที่สี่คือการเคารพหลักนิติธรรมด้วยการใช้กฎหมายเพื่อรักษาระเบียบของสังคม และดูแลประชาชนอย่างเท่าเทียมกันภายใต้หลักนิติธรรมของกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีวิธีการเพียงหนึ่งเดียวที่จะแก้ปัญหาทุกอย่างได้ ดังนั้นสมัชชารัฐสภาอาเซียนจึงมีบทบาทสำคัญที่ต้องแสดงออกถึงความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาในแต่ละด้านให้เชื่อมโยงโดยตรงกับชีวิตของประชาชนด้วยการเปิดรับความหลากหลาย เคารพในความแตกต่างกัน และขับเคลื่อนอาเซียนให้ก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและมีคุณค่าสำหรับคนรุ่นต่อไป ทั้งนี้หวังว่าสมาชิกสมัชชารัฐสภาอาเซียนจะร่วมปรึกษาหารือกันอย่างเกิดผลในการประชุมครั้งนี้
จากนั้น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวเปิดงานบนเวทีการประชุมว่า ขอบคุณมิตรไมตรีจากประเทศอาเซียนรวมถึงประเทศผู้สังเกตการณ์ที่ทำให้เกิดสิ่งดีๆ มาโดยตลอด อาเซียนเจอแต่สิ่งท้าทายที่เราต้องก้าวผ่านไปด้วยกันทั้งปัญหาการค้ามนุษย์และปัญหายาเสพติด สมัชชารัฐสภาอาเซียนมีความพยายามจะแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ให้ภูมิประเทศมีแรงต้านทาน จะต้องแก้ไขอย่างจริงจังให้ยาเสพติดหมดไปจากภูมิภาคโดยให้ทุกคนในสังคมมีส่วนร่วม และปัจจุบันนี้ทุกคนได้ตื่นตัวกับปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ประเทศไทยในฐานะประธานอาเซียน คาดหวังว่าสมัชชารัฐสภาอาเซียนจะนำกรอบไปใช้ในการแก้ไข เราทุกคนต้องสำนึกเสมอว่าเราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง การทำงานร่วมกันจะช่วยกันเป็นกรอบและความร่วมมือทุกภาคส่วน จะทำให้เรามีส่วนในการแก้ไขและบัญญัติให้กฎหมายเกิดความสอดคล้องกับความยั่งยืนของอาเซียนทุกมิติที่จะมีความเป็นผู้นำและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เราต้องปรับกฎหมายให้เป็นสากล สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ นำไปสู่การแก้ไขแบบมีระบบ พร้อมทั้งสร้างจิตสำนึก เพราะทุกประเทศมีปัญหาเหมือนกัน ไม่มีอะไรที่จะแก้ไขได้ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงความคิดและจิตสำนึก ต่อให้มีกฎหมายกำกับอยู่ แต่ก็แตกต่างกันในเรื่องของอัตลักษณ์ จะทำอย่างไรจึงจะมีบริบทที่เหมือนกัน เราต้องเดินหน้าและเข้มแข็งไปด้วยกัน ต้องยกระดับให้ได้ ตนอยากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับสมัชชารัฐสภาอาเซียน ให้ประเทศขับเคลื่อนในภาคนิติบัญญัติสอดคล้องกับการทำงานของรัฐบาลและรัฐสภา
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียังกล่าวต่ออีกว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะประสานความร่วมมือระหว่างประเทศและนิติบัญญัติเพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และขอบคุณ ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และขอต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนจากทุกประเทศ หวังว่าการประชุมครั้งนี้จะประสบความสำเร็จและเป็นกรอบแนวทางให้ทุกประเทศ ส่วนใดที่เป็นปัญหา เราต้องปรึกษาหารือ ซึ่งการประชุมทุกครั้งจะต้องมีผลสำเร็จออกมา พร้อมขยายผลให้ทุกมิติเข้มแข็งและพร้อมรับมือกับปัญหาต่างๆ จากทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ
ขณะที่บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการพูดหยอกล้อกันเล็กน้อยระหว่างชวนกับพลเอก ประยุทธ์ โดยชวนได้กล่าวก่อนอ่านถ้อยแถลงต่อจากพลเอก ประยุทธ์ ว่า “โพเดียมเตรียมไว้ให้นายกรัฐมนตรี แต่ไม่ได้เตรียมไว้สำหรับผม” เนื่องจากระดับโพเดียมและไมโครโฟนของพลเอก ประยุทธ์ สูงกว่าที่ชวนต้องใช้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์