วันนี้ (5 ตุลาคม) ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ผ่านมา 4 เดือนที่ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หายตัวไปในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา แต่ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าการสืบสวนการสูญหายจากทางการกัมพูชาในคดีนี้แต่อย่างใด ซึ่งทางครอบครัวยังคงรอคอยเพื่อจะได้ทราบชะตากรรมของเขา และยังคงต้องการคำตอบว่าอะไรคือมูลเหตุของการหายตัวไป ใครเป็นผู้กระทำ และขอให้นำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรม
“เราขอเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาจัดตั้งชุดสืบสวนเพื่อเร่งให้มีการสืบสวนเรื่องนี้อย่างมีประสิทธิภาพ เร่งด่วน รอบด้าน โปร่งใส และคืนความยุติธรรมให้กับครอบครัวของผู้ที่สูญหายโดยทันที เนื่องจากผ่านมา 4 เดือนยังไม่มีความคืบหน้าทางคดีแต่อย่างใด
“นอกจากนั้นเรายังขอเรียกร้องทางการไทยอำนวยความสะดวกให้กับ สิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ให้สามารถเดินเข้าไปในประเทศกัมพูชาเพื่อไปให้ปากคำกับอัยการได้ เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ภายใต้การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีการยกเลิกวีซ่าของบุคคลทั่วไปที่จะเข้าประเทศกัมพูชา แต่จะยกเว้นให้ในส่วนของนักธุรกิจและบุคคลที่ได้รับเชิญจากทางการกัมพูชาเท่านั้น หากพี่สาววันเฉลิมไม่ได้รับเชิญจากทางการกัมพูชาก็ไม่สามารถเข้าไปให้ปากคำในคดีได้ ถึงแม้จะมีการแต่งตั้งทนายเพื่อไปแจ้งความคนหายในประเทศกัมพูชาแล้วก็ตาม”
สำหรับ วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมและบล็อกเกอร์ชาวไทย ที่อยู่ระหว่างลี้ภัย ถูกบุคคลไม่ทราบฝ่ายลักพาตัวไปจากด้านนอกอพาร์ตเมนต์ของเขาในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา เขาลี้ภัยจากประเทศไทยหลังจากที่ถูกทางการส่งหมายเรียกให้ไปรายงานตัวเพื่อปรับทัศนคติ หลังจากเหตุการณ์รัฐประหาร ปี 2557 และในปี 2561 ทางการไทยได้ฟ้องคดีต่อเขา ส่วนใหญ่ตั้งแต่ปี 2561 เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ เขาถูกกล่าวหาว่าโพสต์ข้อความต่อต้านรัฐบาลในเฟซบุ๊กเพจตลอดระยะเวลา 4 เดือน ทางครอบครัวและภาคประชาสังคมในประเทศไทยช่วยกันติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด และยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ขณะที่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ออกปฏิบัติการด่วนเชิญชวนผู้สนับสนุนทั่วโลกร่วมกันส่งจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีฮุน เซน เรียกร้องทางการกัมพูชาสอบสวนอย่างเร่งด่วนต่อข้อกล่าวหาที่ว่ามีการลักพาตัววันเฉลิม และแจ้งให้ครอบครัวทราบทันทีว่าเขาอยู่ที่ใด และให้นำตัวผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมครั้งนี้ เข้าสู่การพิจารณาคดีที่เป็นธรรมโดยศาลพลเรือน ทั้งยังเรียกร้องให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อกำหนดในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลสูญหาย ซึ่งกัมพูชาเป็นรัฐภาคีในอนุสัญญาฯ และต้องไม่ส่งตัววันเฉลิมกลับประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกรณีที่จะต้องไม่ส่งกลับบุคคลไปยังสถานที่ที่มีความเสี่ยงว่าจะถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน สำหรับในประเทศไทยสามารถรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนได้กว่า 10,000 รายชื่อ ซึ่งจะส่งมอบให้กับสถานทูตกัมพูชาในประเทศไทยต่อไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า