วันนี้ (16 สิงหาคม) หลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เริ่มการประชุมตั้งแต่เวลา 10.01 น. โดยมีวาระสำคัญคือ การพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159
ต่อมา สรวงศ์ เทียนทอง สส. จังหวัดสระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีเพียงชื่อเดียว โดยที่ประชุมอภิปรายถึงการเสนอชื่อแพทองธารเป็นเวลา 20 นาที
ก่อนที่ในเวลา 11.20 น. ที่ประชุมให้เริ่มโหวตว่าจะให้ความเห็นชอบแพทองธารเป็นนายกฯ หรือไม่ ด้วยการขานชื่อ สส. เรียงตามลำดับตัวอักษร
หลังใช้เวลาลงมติผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง (ขณะนี้การลงมติยังไม่แล้วเสร็จ)
แต่ปรากฏว่า ณ เวลา 12.14 น. ที่ประชุม สส. มีคะแนนเห็นชอบ ‘แพทองธาร’ เป็นนายกฯ จำนวน 248 เสียงแล้ว ซึ่งเป็นจำนวนเสียงเห็นชอบที่มากกว่ากึ่งหนึ่ง จากจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 493 คน
เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า ผู้ที่จะได้ความเห็นชอบเป็นนายกฯ จะต้องได้เสียงเห็นชอบมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกรัฐสภาเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภาคือ ต้องได้ 248 เสียงขึ้นไป
จึงถือว่าที่ประชุม สส. มีมติ ‘เห็นชอบ’ ให้ แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 แล้ว
อย่างไรก็ตาม THE STANDARD จะรายงานผลคะแนนหลังการลงมติแล้วเสร็จสมบูรณ์ให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับแพทองธาร ถือเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย และขึ้นดำรงตำแหน่งในวัย 38 ปี ถือเป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ และเป็นคนแรกที่จบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พร้อมกับเป็นบุตรสาวของทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ดำรงตำแหน่งเดียวกับบิดา