คนไทยเกือบ 3 ใน 4 ใช้ AIในชีวิตประจำวัน และกลุ่มคนที่มีรายได้สูงยิ่งใช้ AIบ่อยกว่า แต่แม้ว่าอัตราการใช้งานจะสูง โดยรวมแล้วผู้ใช้งานราว 37% ยังคงกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว
ท่ามกลางกระแส AIบริษัท BBDO Bangkok เผยผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคไทยและพฤติกรรมการใช้ AIจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 400 คนในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักทั่วประเทศ รวมถึงพฤติกรรมการนำ AIมาใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทยในปัจจุบัน
ผลสำรวจการใช้ AIของคนไทยในปัจจุบันพบว่า 73.84% ใช้ประโยชน์จาก AIในชีวิต โดยประโยชน์อันดับแรกเป็นเพราะ AIช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ประหยัดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่าคนที่มีรายได้น้อยกว่า 25,000 บาท มีแนวโน้มจะใช้ประโยชน์จาก AIน้อยกว่าคนที่มีรายได้ตั้งแต่ 25,000 บาทขึ้นไป
สรุปพฤติกรรมการใช้ AI ในแต่ละ Gen
ผลสำรวจเผยว่า แต่ละ Generation มีกรณีการใช้งาน AIที่ต่างกันออกไป โดยกลุ่ม Gen Z และ Y ใช้เพื่อการทำงานมากที่สุด (37.5% และ 35.5% ตามลำดับ)
ในขณะที่ Gen X ใช้เพื่อความปลอดภัย (35.2%) เช่น เทคโนโลยีตรวจจับใบหน้า หรือการตรวจจับอุบัติเหตุในบ้าน อีกทั้ง Gen X ยังใช้ AIเพื่อสุขภาพและการแพทย์เพิ่มเข้ามาใน 3 อันดับแรกอีกด้วย
แบรนด์และภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI
Google, ChatGPT และ Samsung ครองตำแหน่งแบรนด์ 3 อันดับแรกที่ผู้บริโภคไทยนึกถึงเมื่อพูดถึงเทคโนโลยี AI
สำหรับ Google แบรนด์นี้คนไทยรู้จักและคุ้นชินกันเป็นอย่างดี โดย Gemini แชตบอตจากค่าย Google ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากหลังจากเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ด้วยความสามารถที่ Gemini ทำงานร่วมกันกับแอปพลิเคชันอื่นๆ ของ Google ได้ ไม่ว่าจะเป็น Maps, Gmail, Workspace หรือ Meet ด้วยเช่นกัน
ChatGPT จากค่าย OpenAIตามมาอยู่ในอันดับที่ 2 สำหรับแบรนด์ที่ผู้ใช้งานคนไทยนึกถึง ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัว GPT-4o โมเดลใหม่ที่ฉลาด เร็ว พร้อมเข้าใจและโต้ตอบกับมนุษย์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งข้อความ ภาพ และเสียง แบบเรียลไทม์
ส่วนอันดับ 3 คือ Samsung ที่เปิดตัว Galaxy AIในต้นปี 2024 บนสมาร์ทโฟนของตัวเอง พร้อมฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์ หรือลบคนออกจากภาพ แต่นอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว Samsung ยังผนวก AIเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น ทีวี กับเทคโนโลยี AI Upscaling เพิ่มความคมชัดของภาพถึง 8K หรือเครื่องซักผ้าอัจฉริยะ กับเทคโนโลยี AI Wash ที่ตรวจจับและแยกชนิดของผ้า ทำให้การซักผ้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น
การสนับสนุน และข้อกังวลใจต่อ AIในปัจจุบันและอนาคต
BBDO Bangkok พบว่า 73% ของผู้ตอบแบบสอบถามสนับสนุนการมีอยู่และการพัฒนา AIพร้อมมองว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตอย่างมากใน 5 ปีต่อจากนี้
ในส่วนของข้อกังวลใจต่อการใช้ AIคนส่วนใหญ่ยังคงกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเป็นอันดับ 1
ความกังวลอันดับ 2 คือเรื่องราคาที่อาจสูงเกินไป ทำให้คนบางกลุ่มเข้าไม่ถึง และอีกเหตุผลความกังวลคือ AIจะสามารถเข้ามาทดแทนและแย่งงานมนุษย์ แต่ในประเด็นการแย่งงานนั้นมีผู้เชี่ยวชาญด้าน AIอย่างเช่น Andrew Ng ที่พูดในทำนองว่า “AIจะยังไม่มาแทนที่งานมนุษย์ แต่มนุษย์ที่ใช้ AIเป็นต่างหากที่จะแทนที่คนใช้ไม่เป็น”
ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร
อ้างอิง:
- BBDO Bangkok Research
