วันนี้ (17 ธันวาคม) ที่สถานีตำรวจนครบาลยานนาวา จตุพร แซ่อึง และเยาวชนอายุ 16 ปี สมาชิกกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก เข้าพบพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลยานนาวา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีแต่งกายในชุดไทยไปร่วมกิจกรรมแฟชั่นโชว์ที่ถนนสีลมเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ หรือแอดมินเจน หนึ่งในแอดมินเพจเชียร์ลุง มาแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้
จตุพรกล่าวว่ากิจกรรมในวันนั้นตนไม่ได้มีเจตนาอื่นใด เพียงแค่อยากแต่งชุดไทยตามธีมงานแฟชั่นวีกเท่านั้น ซึ่งใครจะแต่งกายอย่างไรก็ได้ ไม่ได้เตี๊ยมกันมา ส่วนที่กางร่มก็เป็นการโปรโมตสินค้าที่จะเอามาขาย แต่กลับมีคนตีความไปเอง ยืนยันไม่มีความกังวล พร้อมจะสู้คดี และตอนนี้จะให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา สำหรับกิจกรรมหลังจากนี้จะมีวงดนตรีต่างๆ รวมถึงวงสามัญชน มาเล่นดนตรีให้กำลังใจจนถึงเวลา 15.30 น.
ด้าน คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า กรณีนี้ทราบว่ามีผู้สนับสนุนรัฐบาลมาแจ้งความดำเนินคดีในข้อหามาตรา 112 ไว้ว่าเยาวชนรายนี้แต่งกายในชุดครอปท็อป และจตุพรแต่งกายในชุดไทย วันนี้ผู้ต้องหาตามหมายเรียกจึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นหมายแรกของทั้งสองคน แต่กรณีของเยาวชนจะต่างจากคดีของผู้บรรลุนิติภาวะแล้ว โดยพนักงานสอบสวนจะนำตัวเยาวชนส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางเพื่อพิจารณาการปล่อยตัว ซึ่งพนักงานสอบสวนยืนยันจะปล่อยตัวกลับบ้านเหมือนผู้ต้องหาคดีเดียวกันในพื้นที่อื่น โดยบรรยากาศหน้าโรงพักมีมวลชนจำนวนหนึ่งแต่งกายด้วยชุดไทยมาให้กำลังใจ
ขณะที่การ์ด WeVo กว่า 20 คนนำรถติดเครื่องขยายเสียงและเวทีมาตั้งเพื่อเตรียมจัดกิจกรรมที่ถนนสุรศักดิ์ หน้าสถานีตำรวจนครบาลยานนาวา โดยตำรวจกว่า 100 นายได้ตั้งแผงเหล็กล้อมไว้หน้าสถานีตำรวจ ส่วนตำรวจจราจรได้ปิดถนนมุ่งหน้าพระรามที่ 3 ไว้หนึ่งช่องทาง ส่งผลให้ปริมาณรถหนาแน่น แต่ยังพอเคลื่อนตัวได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่แจ้งว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ กลุ่มผู้จัดไม่ได้แจ้งล่วงหน้าตามที่กฎหมายกำหนด
หลังรับทราบข้อกล่าวหานานกว่า 2 ชั่วโมง พนักงานสอบสวนได้นำตัวเยาวชนส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้ศาลทำการตรวจสอบกระบวนการดำเนินคดีกับเยาวชนที่เกิดขึ้นว่าได้ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่
ขณะที่นำตัวเยาวชนขึ้นรถไปยังศาล ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาให้กำลังใจเข้าไปล้อมรถที่เยาวชนขึ้นไป เนื่องจากมีความกังวลว่าตำรวจจะนำตัวเยาวชนไปที่อื่น จึงขอส่งตัวแทนเข้าไป พบว่าในรถคันดังกล่าวมีทนายความและญาติอยู่ภายในรถด้วย กลุ่มผู้ชุมนุมจึงให้ดอกไม้เป็นกำลังใจ ก่อนเปิดทางให้รถคันดังกล่าวไปศาลเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะที่เวลาประมาณ 13.30 น. จตุพรระบุว่าวันนี้ตนได้ขอใช้สิทธิ์ไม่เซ็นรับทราบข้อกล่าวหา พร้อมกับปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตำรวจจึงปล่อยตัวชั่วคราวเนื่องจากได้เดินทางมาตามหมายเรียก พร้อมนัดสอบคำให้การเพิ่มเติมอีกครั้งในวันที่ 11 มกราคม 2564 ก่อนจะส่งอัยการในวันที่ 20 มกราคมเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ แต่งกายด้วยชุดไทยสีแดงพร้อมทาปากด้วยสีจัดจ้าน โดยเดินทางมาร่วมกิจกรรมหน้าสถานีตำรวจนครบาลยานนาวา พื่อร่วมให้กำลังใจจตุพรและเยาวชนอายุ 16 ปีที่มารายงานตัวรับทราบข้อหาตามความผิดในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีแต่งกายในชุดไทยไปร่วมกิจกรรมแฟชั่นโชว์ที่ถนนสีลม เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา
พริษฐ์ระบุว่าวันนี้ตนมาเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ถูกแจ้งข้อหามาตรา 112 ในฐานะผู้ต้องคดีเดียวกัน โดยมองว่ากฎหมายข้อนี้ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ แม้กระทั่งการแต่งกายด้วยชุดไทยยังเข้าข่ายความผิด
ด้าน ทราย-อินทิรา เจริญปุระ ก็ได้เดินทางมาบริเวณนี้ด้วยเช่นกัน โดยให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้มาร่วมให้กำลังใจกับทุกคน ส่วนตัวที่โดนหมายเรียกในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของสถานีตำรวจนครบาลบางเขน กรณีชุมนุมที่กรมทหารราบที่ 11 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนเองก็ยังสับสนว่าไปทำอะไรจึงถูกหมายเรียกข้อหานี้ ทั้งที่ตนก็ไม่ได้ทำอะไรมากเป็นพิเศษ กลายเป็นว่าใครจะแจ้งความในความผิดฐานนี้ก็ได้ใช่หรือไม่ หลังจากนี้หากถูกหมายอีกก็ไม่กังวล เพราะมันไม่สมเหตุสมผล และจะยังคงเดินหน้าทำกิจกรรมต่อไป