วันนี้ (28 ตุลาคม) เพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ระบุว่า ในวันที่ 29 ตุลาคม 2566 ซึ่งตรงกับดวงจันทร์เต็มดวงในเช้าวันออกพรรษา จะเกิดปรากฏการณ์ ‘จันทรุปราคาบางส่วน’ ในช่วงเช้ามืด สังเกตได้บริเวณทวีปยุโรป, เอเชีย, ออสเตรเลีย, แอฟริกา, อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้, แปซิฟิก, แอตแลนติก, มหาสมุทรอินเดีย, อาร์กติก และแอนตาร์กติกา
สำหรับประเทศไทยเริ่มสังเกตได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 01.01-05.26 น. (เวลาท้องถิ่น ณ กรุงเทพมหานคร) ดวงจันทร์เข้าสู่เงามัวของโลก เกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาเงามัว เวลาประมาณ 01.01 น. แสงสว่างของดวงจันทร์จะลดลงเล็กน้อย สังเกตด้วยตาเปล่าได้ค่อนข้างยาก
จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.35 น. ดวงจันทร์เข้าสู่เงามืดของโลก เกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาบางส่วน ดวงจันทร์เต็มดวงจะค่อยๆ เว้าแหว่งไปทีละน้อย เงาโลกบังมากที่สุดเวลาประมาณ 03.14 น. ประมาณร้อยละ 6 ของเส้นผ่านศูนย์กลางดวงจันทร์ จนสิ้นสุดปรากฏการณ์จันทรุปราคาบางส่วนในเวลาประมาณ 03.52 น. รวมเวลาเกิดจันทรุปราคาบางส่วนนาน 1 ชั่วโมง 17 นาที
จากนั้นดวงจันทร์เข้าสู่เงามัวของโลกอีกครั้ง และสิ้นสุดปรากฏการณ์จันทรุปราคาโดยสมบูรณ์ในเวลาประมาณ 05.26 น.
สำหรับปรากฏการณ์จันทรุปราคา เป็นปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์โคจรมาอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน มีโลกอยู่ตรงกลางระหว่างดวงอาทิตย์กับดวงจันทร์ เกิดเฉพาะวันดวงจันทร์เต็มดวง หรือในช่วงข้างขึ้น 14-15 ค่ำ ขณะที่ดวงจันทร์โคจรผ่านเข้าไปในเงามืดของโลกที่ทอดไปในอวกาศ
ผู้สังเกตบนโลกจะมองเห็นดวงจันทร์เว้าแหว่งไปเรื่อยๆ กรณีที่ดวงจันทร์เคลื่อนผ่านเข้าไปอยู่ในเงามืดของโลกทั้งดวงเรียกว่า ‘จันทรุปราคาเต็มดวง’ หากเคลื่อนผ่านเข้าไปในเงามืดของโลกบางส่วนเรียกว่า ‘จันทรุปราคาบางส่วน’ และเคลื่อนผ่านเฉพาะส่วนที่เป็นเงามัวของโลกเรียกว่า ‘จันทรุปราคาเงามัว’ ซึ่งสังเกตด้วยตาเปล่าได้ค่อนข้างยาก
สำหรับปรากฏการณ์จันทรุปราคาที่จะสังเกตเห็นได้ในประเทศไทยครั้งถัดไป เป็นจันทรุปราคาเต็มดวง ในคืนวันที่ 7 ถึงเช้ามืดวันที่ 8 กันยายน 2568
อ้างอิง:
- เฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ