7 มิถุนายน 2534 คือวันแรกที่ภาพยนตร์ไทย ‘โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ’ เข้าฉายอย่างเป็นทางการ เมื่อกดเครื่องคิดเลขดู วันนี้หนังจะมีอายุครบ 28 ปีแบบพอดิบพอดี
ความน่าสนใจของ โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ คือนอกจากมันจะถูกจดจำในฐานะภาพยนตร์ไทยแนวคอเมดี้วัยรุ่นกึ่งแฟนตาซีผจญภัยที่รวบรวมพระเอกชั้นนำจากค่ายไฟว์สตาร์โปรดักชั่นที่กำลังได้รับความนิยมในเวลานั้นไว้ถึง 3 คนคือ สันติสุข พรหมศิริ, วรุฒ วรธรรม, จักรกฤษณ์ อำมรัตน์
แต่หมุดหมายน่าจดจำคือ โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ เป็นหนังไทยที่แจ้งเกิดนางแบบลูกครึ่งไทย-สวีเดน วัย 14 ปี ชื่อ แอน ทองประสม (1 พฤศจิกายน 2519) อีกทั้งยังเป็นผลงานการแสดงเรื่องแรก ก่อนที่ต่อมาชื่อของเธอจะถูกยกย่องยอมรับในฐานะนางเอกและนักแสดงคุณภาพที่ยืนระยะในวงการบันเทิงมาจนถึงทุกวันนี้
ฉะนั้นคำว่าครบรอบ 28 ปีจึงไม่ใช่แค่หนัง แต่มันยังเป็นวันครบรอบ 28 ปีในชีวิตการแสดงของ แอน ทองประสม อีกด้วย
โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ ร่วมกำกับโดย พิพัฒน์ พยัคฆะ, เจดีย์ ศุภกาญจน์ และบัณฑิต ฤทธิ์ถกล ที่ควบตำแหน่งเขียนบท ผู้กำกับระดับตำนานที่สร้างผลงานไว้มากมายเคยเล่าไว้ว่าเขาได้แรงบันดาลใจของพล็อตเรื่องมาจากนวนิยายระดับตำนาน ‘เพชรพระอุมา’ ของพนมเทียน “ผมเขียนบทหนังเอง เป็นแนวผจญภัยตลกๆ เกิดจากการนั่งคุยกันในกลุ่มเพื่อน ซึ่งรู้สึกว่านวนิยายเรื่อง เพชรพระอุมา มันสนุก เราก็เลยอยากสร้างคาแรกเตอร์ซึ่งคล้ายกับรพินทร์ ไพรวัลย์ คือสูบบุหรี่มวนหักๆ นั่งหน้ามอม แต่พรานในเรื่องนี้จะต่างจาก เพชรพระอุมา คือเป็นคนไม่เอาไหน เป็นพรานที่เห็นรอยเท้าสัตว์แล้วทายผิดหมด”
เมื่อสิ้นสุดโปรแกรมฉาย โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ ทำรายได้ประมาณ 18 ล้านบาท ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในเวลานั้น หากแต่ความประสบความสำเร็จยิ่งไปกว่านั้นคือการช่วยแจ้งเกิดนักแสดงและผู้จัดละครไทยที่ประสบความสำเร็จและถูกจดจำมากที่สุดคนหนึ่งของวงการบันเทิงไทย
หลังจาก แอน ทองประสม ประเดิมผลงานแรกทางจอภาพยนตร์จาก โก๊ะจ๋าป่านะโก๊ะ ด้วยบุคลิกและหน้าตาโดดเด่นแบบลูกครึ่งไทย-สวีเดน ส่งให้เธอได้รับโอกาสด้านการแสดงตามมาอีกมากมายหลังจากนั้น
เส้นทางสายภาพยนตร์ เธอมีผลงานงานกับไฟว์สตาร์ตามมาอีก 5 เรื่องคือ หอ หึ หึ, อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป, เจาะเวลาหาโก๊ะ ในปี 2535 แดดร้อน ลมแรง ความรักกำลังจะมา ในปี 2536 และ หอบรักมาห่มป่า ในปี 2537 หลังจากนั้นแอนก็หยุดรับงานภาพยนตร์ไปนานถึง 10 ปีเต็ม
โดยกลับมารับงานภาพยนตร์อีกครั้งกับ The Letter จดหมายรัก (2547) ซึ่งการกลับมาก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง เพราะหนังประสบความสำเร็จอย่างสูง สิ้นปี แอน ทองประสม กวาดรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจาก 3 เวทีสำคัญของไทยไปมากมาย โดยเฉพาะรางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี, รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ และรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง
เช่นเดียวกับเส้นทางสายละครโทรทัศน์ที่เริ่มต้นก้าวแรกในปี 2535 หลังได้รับโอกาสจากช่อง 3 ด้วยผลงานแรกชื่อ เวลาในขวดแก้ว แต่ละครที่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับแอนในระดับกระแสที่โด่งดังไปทั่วประเทศคืองานละคร หมูแดง (2536) ที่แสดงคู่กับ ไพโรจน์ สังวริบุตร ออกอากาศทางช่อง 7
ตลอด 10 ปีที่หายจะไปจากจอภาพยนตร์ แอน ทองประสม ทุ่มเทกับการแสดงละครทางช่อง 3 สร้างผลงานโดดเด่นที่ได้รับการจดจำไว้มากมาย เช่น เพลิงบุญ (2539), สองนรี (2540), ปัญญาชนก้นครัว (2542), สามีตีตรา (2544), แรงเงา (2544), อุ้มรัก (2549), สวรรค์เบี่ยง (2551), สูตรเสน่หา (2552) และ 365 วันแห่งรัก (2553)
มากไปกว่านั้นในขวบปีที่ 28 ของชีวิตในวงการบันเทิง นาทีนี้แอนได้ขยับบทบาทสู่งานผู้จัดละครโทรทัศน์ทางช่อง 3 (บริษัท ทอง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด) ซึ่งเธอก็ทำมันได้ดีไม่แพ้งานแสดง โดยเริ่มต้นจากละคร ปัญญาชนก้นครัว (2555), สามีตีตรา (2557), แอบรักออนไลน์ (2558), เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ (2559) และล่าสุดที่กำลังออกอากาศอยู่ในเวลานี้ทางช่อง 3 คือ ลิขิตรัก The Crown Princess ซึ่งเชื่อเถอะว่าเส้นทางในวงการบันเทิงของเธอไม่ว่าจะบทบาทไหนก็จะยังทอดยาวไปอีกไกลให้แฟนผลงานได้ร่วมยินดีกับความสำเร็จของเธอไปอีกนาน
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก:
-
- คอลัมน์ ย้อนอดีต หนังสือพิมพ์ข่าวสด
- ลูกกวาดมอมแมม