บัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวภายในงานสัมมนา 2019 The Annual Petroleum Outlook Forum ว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกเติบโต 3.4% ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันดิบเพิ่มขึ้นราว 1.0-1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้ มีปัจจัยต้องจับตามอง ได้แก่ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ความต้องการออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) อาจส่งผลกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมันโลก นอกจากนี้อุปทานน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากการเพิ่มกำลังการผลิตของประเทศนอกกลุ่ม OPEC เช่น สหรัฐอเมริกา ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันที่เติบโตช้าลง
ทำให้กลุ่ม OPEC ยังคงต้องใช้นโยบายควบคุมการผลิตเพื่อรักษาสมดุลของตลาด
ขณะที่ทีมนักวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันของกลุ่ม ปตท. (PRISM Expert) คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2563 จะอยู่ในช่วง 55-65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
โดยต้องติดตามปัจจัยระยะยาวที่อาจส่งผลกระทบ เช่น นโยบายพลังงานสีเขียว และการพัฒนาของนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อมุ่งสู่พลังงานที่ยั่งยืน อาจทำให้ความต้องการใช้พลังงานเปลี่ยนไป
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์