รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบยุทธศาสตร์ยางพาราระยะ 20 ปี ซึ่งการยางแห่งประเทศไทยได้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบทิศทางในการพัฒนาและแก้ปัญหายางพาราทั้งระบบ ชาวสวนยางมีรายได้ที่มั่นคง ส่งเสริมอุตสาหกรรมยางพารา พัฒนาระบบตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายยางพาราทั้งในและต่างประเทศ
ทั้งนี้ แผนยุทธศาสตร์ได้กำหนดเป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จภายในปี 2579 คือ
1) ลดจำนวนพื้นที่ปลูกยาง 23.3 ล้านไร่ (ปี 2559) เหลือ 18.4 ล้านไร่
2) เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตต่อหน่วยพื้นที่ เฉลี่ย 224 กิโลกรัมต่อไร่ (ปี 2559) เป็น 360 กิโลกรัมต่อไร่
3) เพิ่มรายได้จากการทำสวนยาง จาก 11,984 บาทต่อไร่ เป็น 19,800 บาทต่อไร่
4) เพิ่มมูลค่าการส่งออกยางพาราจาก 250,000 ล้านบาทต่อปี เป็น 800,000 ล้านบาทต่อปี
5) เพิ่มสัดส่วนการใช้ยางภายในประเทศ จากร้อยละ 13.6 (ปี 2559) เป็นร้อยละ 35
มากไปกว่านั้น แผนยุทธศาสตร์ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ คือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง การเพิ่มประสิทธิภาพและการยกระดับคุณภาพและมาตรฐาน การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม การพัฒนาตลาดและช่องทางการจำหน่าย และการพัฒนาปัจจัยสนับสนุน (กฎระเบียบ โครงสร้างพื้นฐาน บุคลากร)
รัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รายงานต่อที่ประชุมว่า ได้สั่งการให้การยางแห่งประเทศไทย
รวบรวมปริมาณการใช้ยางพาราของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งหน้า จะนำตัวเลขการใช้ยางในกิจกรรมของภาครัฐมารายงานให้ทราบ เพื่อประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนการใช้ยางพาราในประเทศต่อไป
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาในช่วง 4 เดือน จุรินทร์ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามซื้อขายยางพารากับต่างประเทศ มูลค่ารวม 34,000 ล้านบาทแล้ว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์