วันนี้ (11 ตุลาคม) ที่กระทรวงการต่างประเทศ กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าในสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางของประเทศอิสราเอล โดยระบุว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังมีการโจมตีด้วยจรวดบริเวณใกล้เคียงฉนวนกาซา ทำให้ขณะนี้ยังมีการสูญเสียจากทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งพลเรือนและทหารของประเทศอิสราเอลและ ปาเลสไตน์ ซึ่งทางฝ่ายประเทศอิสราเอลพยายามจะเข้าครอบครองยึดคืนพื้นที่กาซาและเร่งซ่อมแซมรั้วชายแดน
เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ตุลาคม) ทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้รับแจ้งจากแรงงานไทยในพื้นที่ว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์จรวดโจมตีอีก 2 ราย รวมผู้เสียชีวิตเป็น 20 ราย ซึ่งข้อมูลส่วนนี้เป็นข้อมูลจากแรงงานในพื้นที่ที่เห็นเหตุการณ์ แต่การยืนยันโดยทางการอิสราเอลยังต้องใช้เวลา ในส่วนของผู้บาดเจ็บเมื่อวานนี้ทางสถานทูตฯ ได้รับรายงานรวมเป็น 13 ราย
วานนี้ทางสถานทูตฯ ได้ไปเยี่ยมคนไทยที่ถูกยิงอาการสาหัสซึ่งกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และได้ขอให้แพทย์ดูแลรักษาให้เต็มที่
กาญจนากล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่ถูกจับกุมตัวไปเป็นตัวประกัน จากรายงานแรงงานไทยที่เห็นเหตุการณ์มีเพิ่มเติมอีก 3 ราย รวมเป็น 14 ราย ทั้งนี้ ฝ่ายกองทัพอิสราเอลและบริษัทจัดหางานเร่งอพยพพลเมืองออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย รวมถึงแรงงานไทยออกไปยังจุดที่ปลอดภัยได้หลายร้อยคนแล้ว โดยพาไปพักอาศัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่ปลอดภัย ทั้งที่ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ของประเทศอิสราเอล
ในส่วนการอพยพคนไทยรอบแรกที่เที่ยวบินจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ (12 ตุลาคม) ผู้โดยสาร 15 ท่าน ถึงไทยในเวลา 10.35 น. จะมีผู้แทนต่างๆ เดินทางไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพื่อรอรับ
กาญจนาระบุว่า ขณะนี้ยอดประชาชนไทยที่แสดงความประสงค์จะกลับไทยเพิ่มขึ้นเป็น 5,019 ราย แสดงความประสงค์ไม่กลับ 61 ราย แต่ทั้งนี้มีชาวไทยในประเทศอิสราเอลประมาณ 30,000 ราย ฉะนั้นอาจจะมีหลายรายที่ยังไม่ได้ติดต่อลงทะเบียนหรือได้อยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยและไม่ประสงค์อพยพ
โดยกลุ่มที่ 2 ที่จะเดินทางกลับไทยจะออกเดินทางวันที่ 18 ตุลาคม ทางสถานทูตฯ ได้สำรองที่นั่งสายการบินพาณิชย์ไว้ 80 ที่นั่งแล้ว
สำหรับเครื่องบินของทหารอากาศที่จะทำการขออนุญาตบินข้ามน่านฟ้า มีข้อสงสัยว่าทำไมถึงดำเนินการช้า กาญจนาระบุว่า การจะบินผ่านน่านฟ้าต้องทำการขออนุญาตเป็นหลักปฏิบัติสากล รวมถึงในพื้นที่ก็ต้องมีการนัดหมายให้ชัดเจนกับผู้ที่จะเดินทาง ฉะนั้นทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนที่ดำเนินการ
เมื่อถามว่าขณะนี้ยืนยันได้หรือไม่ว่าตัวประกันที่ถูกจับตัวไปยังอยู่ในสถานะปลอดภัย กาญจนากล่าวว่าต้องรายงานว่ายืนยันได้ยาก เพราะขณะนี้อยู่ในสถานการณ์สงคราม โดยทางกลุ่มฮามาสได้แจ้งว่าจับกุมคนไปทุกชาติประมาณ 150 ราย มีการคาดการณ์ว่าน่าจะจับไปและกระจัดกระจายตามที่ต่างๆ เพราะฉะนั้นไม่สามารถยืนยันความปลอดภัยได้