‘18 มิถุนายน 2567’ ปรากฏการณ์ที่จะทำให้เสถียรภาพการเมืองไทยสั่นคลอน เริ่มตั้งแต่การพิจารณาคดีทางการเมืองของศาลรัฐธรรมนูญ 3 คดีสำคัญในวันเดียวกัน ได้แก่
- กรณีการยุบพรรคก้าวไกลจากนโยบายหาเสียงแก้ไขมาตรา 112 หลังจากมีคำสั่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติม คงต้องลุ้นว่าศาลรัฐธรรมนูญจะนัดพิจารณาอีกเมื่อใด
- กรณีพิจารณาความเป็นรัฐมนตรีของ เศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลง จากการแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ต้องติดตามว่าศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดไต่สวนหรือจะนัดฟังคำวินิจฉัยชี้ขาดเมื่อใด
- ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติ เวลา 09.30 น. กรณี 4 มาตรา (มาตรา 36, มาตรา 40, มาตรา 41 และมาตรา 42) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 107 หรือไม่
ไม่เพียงเท่านั้น ในวันเดียวกัน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปพบอัยการสูงสุดในคดีมาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่เกาหลีใต้ ต้องมาลุ้นกันว่าจะได้ประกันตัวเช่นเดียวกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ ในคดีนี้หรือไม่ จากสถิติเกี่ยวกับคดีมาตรา 112 มักจะไม่ได้รับการประกันตัว แต่ไม่ใช่ทุกกรณี คดีสุดท้ายของทักษิณจะออกมาแนวทางไหน ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ฟากฝั่งสภาจะมีการพิจารณากฎหมายสำคัญ 2 ฉบับ สส. เตรียมพิจารณากฎหมายประชามติ ส่วน สว. จะพิจารณากฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งคาดว่าจะผ่านการพิจารณาอย่างแน่นอน หากผ่านขั้นตอนนี้จะเข้าสู่ขั้นตอนของการนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อประกาศใช้เป็นกฎหมายในราชกิจจานุเบกษา และอีกไม่นานประเทศไทยจะมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมประกาศใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรก
ทั้งนี้ ในช่วงเย็นวันที่ 18 มิถุนายน ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีเตรียมเปิดทำเนียบรัฐบาลฉลองการผ่านกฎหมายเพื่อความเท่าเทียมนี้ด้วย
โดยทั้งหมดนี้จะมาในวันเดียวกัน คงต้องลุ้นและจับตามองอย่างใกล้ชิดว่าการเมืองไทยในอนาคตอันใกล้นี้จะไปในทิศทางไหน
ภาพประกอบ: ธิดามาศ เขียวเหลือ