วันนี้ (15 ตุลาคม) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัย โดยระบุว่า ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 15 จังหวัด รวม 75 อำเภอ มีประชาชนได้รับผลกระทบกว่า 116,719 ครัวเรือน และมีผู้เสียชีวิตสะสม 10 ราย
ปภ. ยืนยันว่ายังคงตรึงกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลสาธารณภัยเพื่อเร่งสูบระบายน้ำและให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
พื้นที่วิกฤต 15 จังหวัด ได้แก่: พิษณุโลก, สุโขทัย, พิจิตร, นครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, สุพรรณบุรี, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, นครปฐม, อุบลราชธานี, อุดรธานี และฉะเชิงเทรา
ปภ. ได้รายงานความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจหลักด้านการสูบระบายน้ำจนสามารถคลี่คลายสถานการณ์ใน 2 พื้นที่สำคัญ:
1. จังหวัดเชียงใหม่: ทีมปฏิบัติการ ปภ. เขต 10 ลำปาง ได้นำเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าสูบระบายน้ำในพื้นที่ ต.สันทราย อ.สารภี ช่วยเหลือ 375 ครัวเรือน และพื้นที่เกษตรกว่า 3,000 ไร่ จนปริมาณน้ำลดลงและสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
2. จังหวัดปทุมธานี: ทีมปฏิบัติการ ปภ. เขต 1 ปทุมธานี ได้ติดตั้งเครื่องสูบระบายน้ำบริเวณคลองสาม อ.คลองหลวง ปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน ถึง 14 ตุลาคม 2568 โดยสามารถสูบน้ำรวมได้ 588,000 ลูกบาศก์เมตร จนสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่คลองสามคลี่คลายและกลับสู่ภาวะปกติแล้ว
สำหรับชุดปฏิบัติการ ปภ. ที่เสร็จสิ้นภารกิจช่วยเหลือในจังหวัดเชียงใหม่และปทุมธานี ได้ทำการส่งคืนพื้นที่ พร้อมตรวจสอบสภาพความพร้อมของเครื่องจักรกล เพื่อสแตนด์บายเตรียมพร้อมออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อื่น ๆ ที่อาจเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป
เนื่องจากในช่วงนี้ยังมีฝนตกในหลายพื้นที่ ปภ. ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและข่าวสารการแจ้งเตือนภัยจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศหรือคำเตือนขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง
ประชาชนที่ประสบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทาง Line Official Account ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784 (Line ID: @1784DDPM) และ สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง