วันนี้ (25 กันยายน) ทีมข่าว THE STANDARD ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายหลังเหตุน้ำท่วมใหญ่เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ที่ซอยบ้านไม้ลุงขน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยน้ำเริ่มลดระดับลงเมื่อวันที่ 15 กันยายน พอที่ประชาชนและเจ้าหน้าที่จะนำรถแบ็กโฮและรถบรรทุกขนาดใหญ่เข้าพื้นที่ได้
จนถึงวันนี้การฟื้นฟูบ้านเรือน ถนนส่วนกลาง โรงเรียน และอาคารสำนักงานประจำพื้นที่ ยังเป็นไปด้วยความลำบาก โคลนและขยะจำนวนมากท่วมเต็มบ้านชั้น 1 และตามซอยย่อยในบางจุดท่วมสูงจนมิดประตูทางเข้าบ้าน
แม้จะมีประชาชนทยอยกลับเข้าที่พักของตัวเองแล้ว แต่ส่วนมากจะเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ริมถนนเส้นหลัก เพราะเจ้าหน้าที่จัดการโคลนเพื่อให้รถสัญจรได้เท่านั้น แต่ในซอยย่อยยังไม่มีใครกลับเข้ามาอาศัย
หนึ่งในประชาชนที่สามารถกลับเข้าบ้านได้เล่าว่า น้ำท่วมครั้งนี้ไม่สามารถนับความเสียหายได้ เพราะของสูญหายจนไม่รู้ว่าจะคำนวณอย่างไร
จากการประเมินคิดว่าระยะเวลาการฟื้นฟูจะไม่ต่ำกว่า 3 เดือน และเชื่อว่าจากซอยที่เคยคึกคัก มีร้านค้ามากมาย มีรถสัญจรผ่านตลอดเวลา จากนี้ไปจะกลายเป็นซอยร้างที่ไม่มีคนอีกนาน
ขณะที่เจ้าของร้านค้าในซอยเล่าว่า ตั้งแต่น้ำท่วมวันที่ 10 กันยายน ระบบสาธารณูปโภคน้ำและไฟถูกตัดขาด ประชาชนต้องอพยพ แต่เมื่อน้ำลดระดับลง คนเริ่มกลับเข้ามาในพื้นที่ได้ น้ำและไฟก็ยังไม่ถูกจ่ายให้ใช้ ที่ผ่านมาต้องโทรศัพท์ติดต่อหลายหน่วยงานเพื่อขอให้ช่วยเหลือในเรื่องนี้ จนกระทั่งวันนี้ที่ระบบทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ
ทั้งนี้ ยังมีบ้านอีกหลายหลังคาเรือนที่ผู้อาศัยเป็นผู้สูงอายุ ไม่กล้าใช้ไฟฟ้าในบ้านพักเพราะกังวลว่าระบบจะไม่เสถียรและอาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนเป็นอันตราย จึงเลือกที่จะจุดเทียนและนอนแบบไม่มีพัดลมไปจนกว่าน้ำและโคลนในซอยจะลดระดับกว่านี้