×

ความในใจของผู้ชนะ 6 รางวัลใหญ่สายละครโทรทัศน์จากงานประกาศรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 10

22.07.2019
  • LOADING...
รางวัลนาฏราช

จบไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับงานประกาศผลรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 10 ประจำปี 2561 ที่มอบให้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับทีมงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังทุกฝ่ายในวิชาชีพวิทยุและโทรทัศน์ ที่ร่วมกันทำงานหนักเพื่อสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพที่ส่งต่อความสนุกและสาระบันเทิงให้กับผู้ชมมาตลอดทั้งปี 

 

THE STANDARD POP ได้สรุปรายชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลใหญ่ในสายละครโทรทัศน์ พร้อมกับรวมรวบคำพูดที่ผู้ได้รับรางวัลขึ้นไปกล่าวบนเวทีเพื่อขอบคุณทีมงานและผู้ชมทุกคนที่มีส่วนร่วมในการสร้างระบบนิเวศที่สวยงามและสร้างสรรค์ให้กับวงการบันเทิงไทยยิ่งขึ้นไปในอนาคต

 

เนื่องด้วยสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ได้จัดงานประกาศผลรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 10 ประจำปี 2561 ขึ้น เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานและยกระดับการตัดสินรางวัลด้านวิทยุโทรทัศน์ ส่งเสริมการให้สาระความรู้ควบคู่ความบันเทิง ตลอดจนสร้างกำลังใจให้กับคนทำงานในวิชาชีพนี้ต่อไป โดยการตัดสินผลรางวัลจะมาจากการร่วมลงคะแนนเสียงของคนในวิชาชีพวิทยุและโทรทัศน์ให้กับผลงานดีเด่นในด้านต่างๆ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดกับผู้ได้รับรางวัล ซึ่งในปี 2561 มีผู้เข้าชิงรางวัลนาฏราชทั้งสิ้น 37 รางวัล โดยมีรางวัลที่น่าสนใจและเข้าชิงดังนี้ 

 

เริ่มจากรางวัลละครยอดเยี่ยม ตกเป็นของ บุพเพสันนิวาส จากบริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โดยเอาชนะผู้เข้าชิงคนสำคัญอย่าง เลือดข้นคนจาง จากบริษัท นาดาว บางกอก จำกัด, เมีย 2018 จากบริษัท วัน สามสิบเอ็ด จำกัด และ สายโลหิต จากบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ไปได้ 

 

เป็นอีกหนึ่งรางวัลที่การันตีว่าปีนี้เป็นปีของกระแส ‘ออเจ้า’ อย่างแท้จริง หลังจากที่ บุพเพสันนิวาส ไล่กวาดรางวัลละครยอดเยี่ยมจากเวทีเณศไอยราและโทรทัศน์ทองคำมาแล้ว ในงานนาฏราช ครั้งที่ 10 บุพเพสันนิวาส มีชื่อเข้าชิงทั้งหมด 11 รางวัล และคว้าไปได้ 4 รางวัลคือ ละครยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม, บทโทรทัศน์ยอดเยี่ยม และเพลงละครยอดเยี่ยม 

 

โดย หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธุ์ ผู้จัดละคร และแดง-ศัลยา สุขะนิวัตติ์ ผู้เขียนบทละครโทรทัศน์ ได้เป็นตัวแทนขึ้นไปกล่าวถึงปัจจัยองค์รวมที่ทำให้ บุพเพสันนิวาส ประสบความสำเร็จว่า “บทละครนั้นไม่ได้ดีด้วยตัวมันเองอย่างเดียว ต้องประกอบกับทุกส่วน บุพเพสันนิวาส เป็นเครื่องเตือนใจและเครื่องยืนยันว่าไม่ใช่แค่บทเท่านั้นที่เป็นกระดูกสันหลังของละคร แต่คือทุกองคาพยพของมนุษย์ และขอย้ำอีกทีว่าเหนือสิ่งอื่นใดคือเราทำละครให้คนดูสนุกและมีความสุข เพราะฉะนั้นรางวัลทุกรางวัลที่เราได้รับ เรามอบให้กับคนที่รัก บุพเพสันนิวาส ทุกคน”

 

รวมทั้ง เบลล่า-ราณี แคมเปน ที่ก่อนหน้านี้ ‘แม่หญิงการะเกด’ ก็เดินหน้ากวาดรางวัลทุกครั้งที่มีชื่อเข้าชิงก็ยังคงยืนหนึ่งกับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม เอาชนะผู้เข้าชิงรุ่นพี่มากฝีมืออย่าง ป๊อก-ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์ จากละคร ไร้เสน่หา, แหม่ม-คัทลียา แมคอินทอช จากละคร เลือดข้นคนจาง, บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์ จากละคร เมีย 2018 และแพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ จากละคร ศรีอโยธยา

 

“สำหรับตัวเบล แค่ได้ทำอาชีพที่รักในฐานะนักแสดงก็ถือเป็นรางวัลสำหรับชีวิตเราแล้ว แต่การที่ได้รับการยอมรับ ได้รับการตอบรับจากแฟนๆ นั้นถือว่าเป็นโบนัสสำหรับชีวิต แล้วรางวัลที่ได้รับในวันนี้ยิ่งตอกย้ำว่าเราต้องพัฒนาตัวเองให้ดีที่สุด ขอบคุณช่อง 3 ขอบคุณผู้ใหญ่ทุกๆ ท่าน และแฟนคลับทุกคนที่คอยรักและสนับสนุนในทุกๆ ผลงาน และผลักดันให้เบลเป็นเบลในทุกวันนี้” 

 

ทางละคร เลือดข้นคนจาง ที่มีชื่อเข้าชิงมากที่สุดจำนวน 12 รางวัลก็สร้างผลงานได้น่าประทับใจและคว้าไปได้ถึง 6 รางวัล แบ่งเป็นรางวัลด้านภาพที่เหมาเรียบทั้งกำกับและลำดับภาพยอดเยี่ยม รวมทั้งอีกหนึ่งรางวัลใหญ่อย่างผู้กำกับยอดเยี่ยมของ ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ที่หลายคนอาจจะคุ้นชื่อในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ แต่เขาได้ขึ้นไปยืนยันบนเวทีอีกครั้งว่าเขาเติบโตมากับละครไทยจริงๆ 

 

“ผมอยากขอบคุณพี่บอย (ถกลเกียรติ วีรวรรณ) ขอบคุณช่องวัน 31 ที่ให้โอกาสพวกเราทำละคร เลือดข้นคนจาง ทำให้พวกเราได้เรียนรู้และได้ทำงานที่รักของตัวเอง ในฐานะผู้กำกับ ผมจะทำหน้าที่ของตัวเองไม่ได้เลยถ้าไม่มีทีมงานและนักแสดงซัพพอร์ตอยู่เบื้องหลัง สุดท้ายผมโตมากับละครไทยครับ ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่นี่ที่สร้างสรรค์ละครดีๆ ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผมในการทำละคร เลือดข้นคนจาง ขอบคุณครับ”

 

พร้อมกับอีก 3 รางวัลสายการแสดง ตั้งแต่รางวัลทีมนักแสดงยอดเยี่ยม, รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมของ ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ที่ได้ขึ้นไปกล่าวบนเวทีว่า “ขอบคุณทุกคนนะครับ ขอบคุณพี่บอย ถกลเกียรติ ที่ปลุกปั้นและทำให้ผมเป็น ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง ในวันนี้ ขอบคุณนาดาว บางกอก ขอบคุณย้งที่เลือกผมเป็นกู๋เมษ ขอบคุณประเสริฐ (กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี) ที่ส่งพลังดีๆ ทำให้เรามีฉากดีๆ ในวันนี้ ขอบคุณครอบครัวจิระอนันต์ทุกคน สำคัญที่สุด ขอบคุณคนดูทุกคนนะครับ” 

 

ปิดท้ายที่รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมของ ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร เจ้าของรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากนาฏราช ครั้งที่ 9 กับบท พี่ยิม ในซีรีส์ Project S The Series ตอน พี่น้องลูกขนไก่ ที่ยังคงร้อนแรงกับบท เฮียอี้ แห่งตระกูลจิระอนันต์ ใน เลือดข้นคนจาง

 

“ไม่ใช่แค่การได้ขึ้นมารับรางวัลนะครับ สิ่งที่ผมดีใจที่สุดคือวันนี้ครอบครัวจิระอนันต์ได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันที่นี่ ขอบคุณคนดูทุกๆ คนที่เชื่อมั่นในละคร เลือดข้นคนจาง เชื่อมั่นในอี้ ขอบคุณพี่ย้ง คนที่เป็นเหมือนพ่อของผมอีกคนหนึ่ง ขอบคุณนาดาว GDH ทีมงาน นักแสดงทุกคน ไม่มีพวกพี่ ผมอาจจะมาไม่ถึงจุดนี้นะครับ”  

 

ปิดท้ายด้วยรางวัลที่หักปากกาเซียนแบบสุดๆ เมื่อ มารี เบิร์นเนอร์ จากละคร เมีย 2018 เอาชนะผู้เข้าชิงรุ่นพี่ที่แค่ได้ยินชื่อก็ต้องหลีกทางให้ทั้ง ตั๊ก-มยุรา เศวตศิลา จากละคร รูปทอง, อุ๋ม-อาภาศิริ จันทรัศมี จากละคร เลือดข้นคนจาง, นก-สินจัย เปล่งพานิช จากละคร ศรีอโยธา และก้อย-ทาริกา ธิดาทิตย์ จากละคร ริมฝั่งน้ำ คว้ารางวัลนักแสดงสบทบหญิงยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จ 

 

“ตื่นเต้นมากๆ และอยากขอบคุณอย่างแรกคือผู้ใหญ่ทางช่องวัน 31 ที่ให้โอกาสได้รับบทดีๆ แบบนี้ ขอบคุณพี่เจี๊ยบ (วรรธนา วีรยวรรธน) ที่เขียนบทได้สนุกขนาดนี้ ขอบคุณพี่สันต์ (สันต์ ศรีแก้วหล่อ) ผู้กำกับ ที่ช่วยกันสร้างตัวละครนี้ขึ้นมา แล้วก็ขอบคุณคนที่เห็นค่าตัวละครนี้ทุกคน ขอบคุณค่ะ”

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X