×

ความเปลี่ยนแปลงหลัง 1 สัปดาห์ที่สรยุทธกลับมา และอนาคตใหม่ของช่อง 3 ฝากไว้ที่ใคร

08.05.2021
  • LOADING...
ความเปลี่ยนแปลงหลัง 1 สัปดาห์ที่สรยุทธกลับมา และอนาคตใหม่ของช่อง 3 ฝากไว้ที่ใคร

HIGHLIGHTS

3 mins. read
  • การกลับมาของสรยุทธ แม้จะยังไม่ช่วยพยุงให้เรตติ้งของรายการข่าวดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชมในการเลือกประเด็นข่าว หลังจากที่ผู้ชมต้องทนดูข่าวอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และสิ่งไม่ได้สาระมาอย่างยาวนาน
  • นอกจากนี้ยังส่งผลให้มีการขยับเก้าอี้ผู้ประกาศข่าว โดยส่ง ไก่-ภาษิต อภิญญาวาท กลับไปอ่านข่าวใน เรื่องเด่นเย็นนี้ พร้อมทั้งปรับเวลาใหม่ และต้อนรับผู้ประกาศข่าวคนใหม่จากช่อง PPTV 36 อย่าง ตูน-ปรินดา คุ้มธรรมพินิจ 
  • ส่วนฝั่งละครในช่วงไตรมาส 2 แผงละครใหม่ค่อยตื่นตาตื่นใจขึ้นมาหน่อย ทั้งสองเสน่หา, พราวมุก, มนต์รักหนองผักกะแยง ที่มาพร้อมหมุดหมายใหม่ นั่นคือการขายลิขสิทธิ์ให้กับต่างประเทศ ที่ทางช่องตั้งใจให้ตัวเลขรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 25%   

ปลายปีที่แล้วผู้บริหารของช่อง 3 เคยให้สัมภาษณ์ผ่านมติชนออนไลน์ว่า ปีนี้จะเน้นไปที่ 3 คอนเทนต์หลักคือ ข่าว ละคร และวาไรตี้ คำพูดนี้เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างก็ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ที่เหมือนฟ้าประทานให้พิธีกรข่าวระดับแม่เหล็ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้กลับมาอ่านข่าวอีกครั้ง อีกทั้งสถานการณ์โควิด-19 ก็ฝากบทเรียนให้ทางช่องมองหารายได้ทางอื่นนอกเหนือจากการโฆษณา แต่จะมาจากไหนเราไปลองวิเคราะห์กัน 

 

ในไตรมาส 2/63 ช่อง 3 ขาดทุนอย่างหนักจากสถานการณ์โควิด-19 รายได้รวมอยู่ที่ 1,183.8 ล้านบาท น้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562 ที่มีรายได้ถึง 2,093.2 ล้านบาท คือขาดทุนไปทั้งหมด 43.4% แค่เฉพาะรายได้จากการขายโฆษณาลดฮวบไปถึง 51.1% แต่รายได้จากการขายลิขสิทธิ์ให้ต่างประเทศกลับเพื่มขึ้น 15.6% ตัวอย่างละครที่ขายไปก็เช่น อกเกือบหักแอบรักคุณสามี, พยากรณ์ซ่อนรัก, ร้อยเล่ห์มารยา, ตราบฟ้ามีตะวัน ฯลฯ ทั้งปีที่ผ่านมาขาดทุนรวม 214 ล้านบาท แต่ก็ยังดีกว่าปี 2562 ที่ขาดทุนไปถึง 397 ล้านบาท จากอานิสงส์การปรับองค์กรแทบจะทั้งขบวน ต้องยอมรับว่าในไตรมาสแรกของปีนี้ ช่อง 3 ยังกล้าๆ กลัวๆ ปล่อยคอนเทนต์ที่ไม่ค่อยหวือหวาออกมาสักเท่าไร จนกระทั่งต้นเดือนพฤษภาคมเริ่มเห็นการรุกหนักด้านคอนเทนต์ เริ่มกันที่ฝั่งข่าว หลังได้สรยุทธกลับมานั่งหน้าจออีกครั้งเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา สามารถคว้าเรตติ้งเฉพาะในกรุงเทพฯ ไป 6.920 และต่างจังหวัด 1.737 เฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 2.479 มีผู้ชมผ่านการไลฟ์จากเพจสูงสุดราว 1.6 หมื่นคน และชมผ่านแอปพลิเคชัน CH3 Plus ร่วมแสนคน 

 

ส่วนวันอาทิตย์ มีเรตติ้ง 2.473 กรุงเทพฯ 7.157 และต่างจังหวัด 1.691 สูงที่สุดเมื่อเทียบกับเรตติ้งในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมาเล็กน้อย ในขณะที่ เรื่องเล่าเช้านี้ ตัวเลขเรตติ้งก็ขยับขึ้นมาจากเดิมเพียงเล็กน้อยเช่นกัน ส่วนนี้ก็น่าจะมาจากพฤติกรรมการรับสื่อของคนเปลี่ยนแปลงในช่วง 5 ปีที่เขาหายไป การกลับมาของสรยุทธ แม้จะยังไม่ช่วยพยุงให้เรตติ้งของรายการข่าวดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชมในการเลือกประเด็นข่าว หลังจากที่ผู้ชมต้องทนดูข่าวอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และสิ่งไม่ได้สาระมาอย่างยาวนาน

 

สองพิธีกรในเรื่องเด่นเย็นนี้ ไก่-ภาษิต อภิญญาวาท และ ตูน-ปรินดา คุ้มธรรมพินิจ 

 

นอกจากนี้ การกลับมาของสรยุทธยังส่งผลให้มีการขยับเก้าอี้ผู้ประกาศข่าว โดยส่ง ไก่-ภาษิต อภิญญาวาท กลับไปอ่านข่าวใน เรื่องเด่นเย็นนี้ พร้อมทั้งปรับเวลาใหม่ และต้อนรับผู้ประกาศข่าวคนใหม่จากช่อง PPTV 36 อย่าง ตูน-ปรินดา คุ้มธรรมพินิจ ที่ดูหน่วยก้านแล้วน่าจะไปได้อีกไกล ด้วยเสน่ห์การอ่านข่าวซีเรียสแล้วดูไม่เครียด แต่ก็ไม่กลายเป็นเรื่องเล่นๆ เกินไป โดยภาพรวมแล้ว เรื่องเด่นเย็นนี้ ดูมีความสดใหม่และวัยรุ่นขึ้นมากทีเดียว

 

มาถึงอีกคอนเทนต์หลักของช่อง นั่นก็คือละคร จากเมื่อปีที่แล้วที่ได้ชมละครรีรันกันตาแฉะ และแอบแป๊กกับละครที่หมายมั่นปั้นมือไปบ้าง ส่วนต้นปีก็ยังไม่มีเรื่องไหนเข้าตา มาถึงช่วงไตรมาส 2 แผงละครใหม่ค่อยตื่นตาตื่นใจขึ้นมาหน่อย ทั้ง สองเสน่หา, พราวมุก, มนต์รักหนองผักกะแยง ที่มาพร้อมหมุดหมายใหม่ นั่นคือการขายลิขสิทธิ์ให้กับต่างประเทศ ที่ทางช่องตั้งใจให้ตัวเลขรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 25%   

 

แผงละครใหม่ของช่อง 3 ได้แก่ สองเสน่หา, พราวมุก และ มนต์รักหนองผักกะแยง 

 

สองเสน่หา งานละครท้าทายฝีมือ คิมเบอร์ลี่ แอนน์ โวลเทมัส ในบทฝาแฝดที่บุคลิกแตกต่างกันสุดขั้ว เปิดตัวด้วยเรตติ้ง 1.6 กว่าๆ นับว่ายังห่างไหลจากคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง กระเช้าสีดา ซึ่งเรตติ้งทะลุเลข 4 ทางช่อง one31 ขึ้นไปแล้ว แต่ทางช่องก็ยังอุ่นใจ เพราะขายลิขสิทธิ์ไปออกอากาศบนช่องทาง OTT ใน 9 ประเทศเรียบร้อย ออกอากาศแบบคู่ขนานไปยัง 3 ประเทศ ได้แก่ จีน ทางแพลตฟอร์ม Tencent Video, มาเลเซีย และสิงคโปร์ ทางแพลตฟอร์ม Viu ในวันเดียวกันหลังไทยจบ 2 ชั่วโมง และออกอากาศย้อนหลังที่อินโดนีเซีย เม็กซิโก บราซิล และไต้หวัน ทางแพลตฟอร์ม WeTV ส่วนเวียดนามและเมียนมา ทางแพลตฟอร์ม Viettel และออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ PNN ที่กัมพูชา 

 

เครดิตภาพ: ละครเรื่องสองเสน่หา 

 

ข้อที่ได้เปรียบก็คือคิมเบอร์ลี่มีฐานแฟนละครในจีน เวียดนาม และกัมพูชา จากผลงานเก่าๆ อย่าง เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ และ ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง ในขณะที่ พราวมุก จะไปออกอากาศใน 5 ประเทศ บนช่องทาง OTT โดยออกอากาศแบบคู่ขนาน คือวันเดียวกันหลังไทยจบ 2 ชั่วโมง ที่มาเลเซียและอินโดนีเซีย ทางแพลตฟอร์ม Viu และออกแบบย้อนหลังที่เวียดนามและเมียนมา ทางแพลตฟอร์ม Viettel และออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ PNN กัมพูชา 

 

เครดิตภาพ: ละครเรื่องพราวมุก

 

ส่วน มนต์รักหนองผักกะแยง มีการตกลงซื้อขายออกอากาศที่สถานีโทรทัศน์ PNN กัมพูชา และออกอากาศย้อนหลังที่เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ทางแพลตฟอร์ม WeTV นี่คือโจทย์ใหม่ที่ไม่ใช่เฉพาะช่อง 3 แต่หมายถึงธุรกิจการผลิตซีรีส์และละครของไทยของทุกช่องที่จะหวังพึ่งรายได้จากโฆษณาเพียงอย่างเดียวไม่ได้อีกต่อไป แต่ต้องมองหารายได้ใหม่ๆ จากลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศ ซึ่งหมายถึงการพัฒนาบทและโปรดักชันโดนใจในระดับสากลด้วย

 

เครดิตภาพ: ละครเรื่องมนต์รักหนองผักกะแยง

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X