วันนี้ (17 พฤศจิกายน) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงประเด็นเรื่องรถบรรทุกน้ำหนักเกินว่า ตนมองว่าไม่ได้เป็นปัญหาที่แก้ยาก เพราะหากเอาจริงเอาจังก็สามารถหยุดรถบรรทุกที่ทำผิดกฎหมายได้ ทั้งนี้ อยากให้สังเกตว่าช่วงเวลานี้รถบรรทุกที่วิ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ไม่มีใครกล้าบรรทุกน้ำหนักเกินหรือวิ่งในเวลาต้องห้ามแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ต้องแก้ไขอีกอย่างคือ ต้องพิจารณาว่าพื้นที่ไหนมีประชาชนร้องเรียนมากที่สุด ก็ต้องลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบโดยเร่งด่วน และต้องสังเกตว่าปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามามีจำนวนลดลงหรือไม่ เช่น หากเดือนมกราคมประชาชนร้องเรียน 500 ครั้ง เดือนกุมภาพันธ์ลดลงมาเป็น 300 ครั้ง แสดงว่าแก้ปัญหาตรงจุด
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญตอนนี้คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ขาดเทคโนโลยีในการตรวจจับรถบรรทุกที่กระทำผิด ซึ่งต้องใช้กำลังของตำรวจมาทดแทนในการประจำจุดและตรวจจับ ทั้งนี้ จะอาศัยแรงตำรวจเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องมีอาสาสมัครมาช่วย และมีทาง กทม. มาบูรณาการร่วมกัน ตนยืนยันว่าหลังจากนี้ 1 เดือนจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
“ตำรวจไม่ต้องตรวจรถทุกวัน แค่ 1 อาทิตย์ตรวจประมาณ 3 วัน รถบรรทุกก็หยุดทำผิดกฎหมายแล้ว เพราะคนขับรถกลัวถูกจับ เนื่องจากมีครอบครัวที่ต้องดูแล” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อตำรวจเข้มงวดในกฎจราจร คนทำผิดกฎหมายก็จะลดลง ขณะเดียวกันการทำงานของตำรวจก็ต้องไม่กีดขวางการจราจรด้วย และอีกหนึ่งปัญหาหลักของตำรวจคือ ขณะนี้ พ.ร.บ.เปรียบเทียบปรับ เป็นพินัย แต่ตนกำลังทำบันทึกไปขออนุมัติกับรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ตำรวจจราจรในพื้นที่นครบาลมีอำนาจเช่นเดียวกับทางเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร จะได้ช่วยกันทำงาน