0.0 MHz ผีอยู่ในผม คือภาพยนตร์เขย่าขวัญจากเกาหลีใต้ที่ถูกดัดแปลงจากเว็บตูนในปี 2012 ของ จางจัก ที่การันตีความหลอนและเนื้อเรื่องสุดเข้มข้นด้วยยอดคนอ่านมากกว่า 120 ล้านครั้งในเว็บตูนของเกาหลีใต้
เรื่องราวว่าด้วยกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง 5 คนจากชมรม 0.0 MHz ที่ต้องการศึกษาและค้นหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ให้กับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติทุกชนิด ซึ่งแน่นอนว่า ‘ผี’ คือหนึ่งในหัวข้อสำคัญที่พวกเขาเลือกไปพิสูจน์ความจริงในบ้านผีสิง ความใจกล้า ท้าทาย และลองดี ทำให้พวกเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดกลับมาโดยไม่รู้ว่าบทสรุปจะออกมาเป็นหรือตาย
แน่นอนว่าทันทีที่มีข่าวการสร้างเวอร์ชันภาพยนตร์ก็มีความคาดหวังจากแฟนๆ จำนวนมากว่า 0.0 MHz ผีอยู่ในผม จะต้องเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องเยี่ยม ในเมื่อมี ‘วัตถุดิบ’ ชั้นยอดอยู่ในมือขนาดนี้แล้ว แค่อ่านเป็นภาพการ์ตูนนิ่งๆ ยังหลอนขนาดนี้ แล้วเมื่อกลายเป็นภาพเคลื่อนไหวให้เห็นกันแบบชัดๆ จะยิ่งหลอนขนาดไหน
แต่เมื่อนำมาสร้างในเวอร์ชันภาพยนตร์จริงๆ ทั้งที่โครงเรื่องยังถูกอ้างอิงมาจากต้นฉบับ แต่บรรยากาศความหลอนชวนสยองที่เกิดขึ้นกลับค่อนข้างแห้งแล้ง ไม่มีฉากจดจำน่าประทับใจเท่าไร ยกเว้นฉาก Jump Scare ที่ทำให้เราตกใจได้บ้างเป็นระยะ
ซึ่งไม่ใช่เสน่ห์แท้จริงที่แฟนๆ จากเวอร์ชันเว็บตูนคาดหวัง เพราะสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นใน 0.0 MHz ผีอยู่ในผม คือความน่ากลัวแบบ ‘หลอนลึก’ หลอนด้วยเนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยปริศนา บรรยากาศไม่น่าไว้วางใจ ปมของตัวละคร และเบื้องลึกเบื้องหลังของผีทั้งหมด
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเวลาในการเล่าเรื่องที่มีจำกัด ทำให้ไม่สามารถค่อยๆ สร้างปมและพาผู้ชมลงลึกไปกับเรื่องราวทั้งหมดได้มากพอ กลายเป็นว่าการอ่านเว็บตูนแล้วใช้จินตนาการดำดิ่งลงไปกับเนื้อหาด้วยตัวเองยังรู้สึกถึงความหลอนและน่ากลัวได้มากกว่าเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวเสียอีก
แม้เนื้อเรื่องและการออกแบบความสยองขวัญจะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ต้องชื่นชมการแคสติ้งนักแสดงระดับไอดอลแห่งวงการเคป๊อปอย่าง จองอึนจี วง Apink รับบทเป็น โซฮี หญิงสาวที่มีสัมผัสพิเศษ และอีซองยอล วง Infinite รับบทเป็น ซางยอบ
ที่สามารถใช้คำว่าช่วย ‘แบก’ หนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะจองอึนจีที่สามารถแสดงทั้งพาร์ตเรียบเฉย นิ่ง ลึกลับ ตกใจกลัว และหลอนถึงขีดสุดได้เป็นอย่างดีจนไม่อยากเชื่อว่านี่คือผลงานการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกของเธอ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่อาจชดเชยบาดแผลหลายๆ อย่างที่พูดถึงก่อนหน้านี้ รวมทั้งบางตัวละครที่ ‘เล่นใหญ่’ เกินความจำเป็น ทั้งยังปรากฏตัวและตัดสินใจในหลายๆ เหตุการณ์แบบไม่มีที่มาที่ไปจนทำให้เราไม่ทันได้อินไปกับปมในใจของพวกเขามากนัก นอกจากฉาก ‘ตุ้งแช่’ ที่ยังทำงานได้ดีเกือบตลอดทั้งเรื่อง
ถึงแม้ภาพรวมของ 0.0 MHz ผีอยู่ในผม จะออกมาผิดคาดอยู่บ้าง แต่ก็ยังถือว่ารักษากลิ่นอายของหนังแนวล่าท้าผีที่โดดเด่นของเกาหลีในช่วงหลังๆ เอาไว้ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งใครที่ชอบแนวนี้เป็นพิเศษและรู้สึกว่ายังไม่จุใจ เราแนะนำให้ลองหาภาพยนตร์เรื่อง Gonjiam: Haunted Asylum ในปี 2018 มาดู รับรองว่าหลอนถึงทรวง เต็มอิ่มทุกความสยองขวัญจริงๆ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์