พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. แถลงข่าวสรุปผลการคัดเลือก ส.ว. จังหวัดทั่วประเทศ มียอดรวมทั้งสิ้น 7,056 คน แยกเป็นการสมัครด้วยตนเอง 6,551 คน และการสมัครจากองค์กรแนะนำ 505 คน ซึ่งมีผู้ได้รับเลือกจากระดับจังหวัดสู่ระดับประเทศจำนวน 2,746 คน
แบ่งเป็นสมัครด้วยตนเอง 2,294 คน แนะนำจากองค์กร 452 คน แยกเป็นเพศหญิง 630 คน เพศชาย 2,116 คน
ทั้งนี้ การสมัครด้วยตนเองพบว่า กลุ่มอาชีพประเภทกสิกรรม ปลูกพืชล้มลุก ทำไร่ ทำนา ปศุสัตว์ ประมง เป็นกลุ่มที่มาสมัครมากที่สุดอยู่ที่ 284 คน
ส่วนการสมัครโดยการแนะนำจากองค์กรพบว่า กลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์ ประชาสังคม และองค์การสาธารณประโยชน์ มาสมัครมากที่สุดอยู่ที่ 107 คน
ขณะที่จังหวัดที่มีผู้มาสมัครมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ กรุงเทพฯ นครราชสีมา ราชบุรีปทุมธานี และสงขลา
ส่วนจังหวัดที่มาสมัครน้อยที่สุด คือ บึงกาฬ สิงห์บุรี ชุมพร นครนายก และพังงา
อย่างไรก็ตาม เลขาธิการ กกต. ได้กล่าวถึงกรณีที่มีคนได้คะแนนเท่ากัน จนต้องมีการจับสลากใหม่ว่าเป็นลักษณะคล้ายการจับสลากเพื่อให้เข้ามาเป็น ส.ว. ไม่ใช่การเลือกจากการลงคะแนน ซึ่งทาง กกต. ก็ได้มีการชี้แจงว่า กระบวนการดังกล่าวเป็นไปตามที่กฎหมายระบุไว้
ส่วนการมีบุคคลมารายงานตัวไม่ทัน ขอยืนยันว่า ไม่สามารถผ่อนผันได้ แม้จะเป็นผู้พิการก็ตาม จึงอยากให้การเลือก ส.ว. ระดับประเทศนั้น ขอให้ผู้ผ่านเข้ารอบเดินทางมาก่อนเวลา
สำหรับการเลือกตั้งระดับประเทศจะมีขึ้นในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ ณ เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล