โต๊ะจีน 3 ล้าน งานระดมทุนพรรคพลังประชารัฐทำพิษ หลังหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์และเรียกร้องให้ กกต. ตรวจสอบ สืบเนื่องจากหลังงานระดมทุน สำนักข่าวอิศราได้เผยแพร่เอกสารผังงานโต๊ะจีนดังกล่าว พบว่ามีชื่อ ‘คลัง-ททท.-กทม.’ อยู่ในผังงานบริจาครวมกว่า 99 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการว่าทั้ง 3 โต๊ะดังกล่าวเป็นของหน่วยงานรัฐจริงหรือไม่
วันนี้ (21 ธ.ค.) ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีหน่วยงานรัฐสนับสนุนการซื้อโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐว่า ตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พรรคการเมืองสามารถหารายได้ของพรรคหรือระดมทุนได้ แต่หลังจากการระดมทุนแล้ว พรรคการเมืองจะต้องรายงานต่อนายทะเบียนพรรคและประกาศให้ประชาชนรับทราบภายใน 30 วันนับจากวันที่จัดงาน
รวมถึงต้องรายงานต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองด้วยว่าบุคคลใดบ้างที่บริจาคเกิน 100,000 บาท ซึ่งเหตุผลที่กฎหมายกำหนดไว้เช่นนี้ เนื่องจากต้องการให้เกิดความโปร่งใสในพรรคการเมือง และให้การดำเนินการหารายได้ของพรรคมีธรรมาภิบาล
ทั้งนี้ในส่วนของหน่วยงานรัฐปกติตามหลักการทั่วไป หน่วยงานรัฐจะมีขอบเขตการใช้เงินของรัฐอยู่แล้วว่าอะไรสามารถใช้งบประมาณของหน่วยงานรัฐได้บ้าง ซึ่งเงินจากหน่วยงานของรัฐถือเป็นเงินหลวง เบื้องต้นต้องรอให้พรรคพลังประชารัฐรายงานมายังนายทะเบียนพรรคการเมืองถึงที่มาของรายได้ก่อน กกต. จึงจะดำเนินการตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม หากมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาก็ต้องตรวจสอบโดยดูจากข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการพิจารณา
วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนี้ว่าการจัดงานระดมทุนเข้าพรรคการเมืองสามารถทำได้ แต่ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์คือการใช้อำนาจหรือตำแหน่งของผู้ที่มีตำแหน่งทางการเมืองในฐานะรัฐมนตรีไประดมทุนหรือไม่ ถ้ามีก็ถือว่าผิด เมื่อปรากฏข่าวออกมา กกต. ต้องตรวจสอบว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ถ้า กกต. ไม่ชี้ความผิดก็ต้องดูข้อเท็จจริงก่อน เพราะมีกฎหมายที่ให้เปิดเผยรายชื่อผู้บริจาค จึงต้องไปดูว่าผิดหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ส่วนที่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าพร้อมคืนเงินบริจาคถ้ามีปัญหานั้นก็เท่ากับเป็นการแสดงว่ารับผิดแล้ว
ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงว่าดำเนินการถูกต้องตามระเบียบ กกต. ทุกอย่าง โปร่งใส ตรวจสอบได้ จะเห็นได้ว่าขณะนี้มีกระบวนการที่จ้องทำลายพรรคพลังประชารัฐ มีการใส่ร้ายที่ทำเป็นกระบวนการ เป็นขั้นเป็นตอน อยากให้หยุดพฤติกรรมดังกล่าวแล้วหันมาทำการเมืองสร้างสรรค์ มุ่งไปสู่การเลือกตั้งดีกว่า
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์