วันเลือกตั้ง

ทางสามแพร่ง ‘พรรคไทยรักษาชาติ’ หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องยุบพรรค

14.02.2019
  • LOADING...

จากปรากฏการณ์สะเทือนทางการเมือง เมื่อพรรคไทยรักษาชาติเสนอพระนาม ‘ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี’ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวของพรรค

 

แรงสะเทือนทางการเมืองระลอกใหญ่ครั้งนี้สะท้อนกลับไปที่พรรคไทยรักษาชาติแบบเต็มๆ โดยเฉพาะเมื่อคณะกรรมการตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติพิจารณารับคำร้องยุบพรรคไทยรักษาชาติตามที่ กกต. ยื่นคำร้อง

 

เวลานี้ ‘พรรคไทยรักษาชาติ’ เสมือนยืนอยู่บนทางสามแพร่ง ซึ่งก็ได้แค่รอลุ้นว่าจะถูกกำหนดให้ต้องเดินไปทางใด

 

แพร่งที่ 1 หากศาลตัดสินให้ยุบพรรคก่อนวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562

 

  • คณะกรรมการบริหารพรรค 14 คน (ลาออก 1 คน) จะถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

 

นายอุดม รัฐอมฤต อดีตโฆษกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า ในอดีตหากยุบพรรคจะตัดสิทธิทางการเมืองซึ่งผูกกับสิทธิเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี แต่ตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันจะแยกระหว่าง ‘สิทธิเลือกตั้ง’ และ ‘สิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง’

นายอุดมบอกว่าหากถูกยุบพรรค คณะกรรมการบริหารพรรคจะถูกตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งกฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลา ตีความได้ว่าต้องถูกตัดสิทธิดังกล่าวตลอดชีวิต

 

ซึ่งการถูกตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งจะมีผลให้ขาดคุณสมบัติทางการเมืองหลายประการ ตั้งแต่การก่อตั้งพรรค การเป็นกรรมการบริหารพรรค รวมถึงการดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 

  • ผู้สมัคร ส.ส. พรรคไทยรักษาชาติรวม 283 คน (แบ่งเขต 175 คน บัญชีรายชื่อ 108 คน) จะไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ได้ทันที เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 97 (3) กำหนดให้ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 90 วันจนถึงวันเลือกตั้ง

 

แพร่งที่ 2 ยุบพรรคหลังวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562

 

  • คณะกรรมการบริหารพรรค 14 คน (ลาออก 1 คน) จะถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
  • ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคที่ชนะการเลือกตั้งและได้เป็น ส.ส. จะมีเวลา 60 วันในการหาพรรคสังกัดใหม่ ซึ่งบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (10) ว่า “…ในกรณีที่ขาดจากการเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองเพราะมีคําสั่งยุบพรรคการเมืองที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้นเป็นสมาชิก และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้น้ันไม่อาจเข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นได้ภายใน 60 วันนับแต่วันท่ีมีคําสั่งยุบพรรคการเมือง ในกรณีเช่นนี้ให้ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันถัดจากวันที่ครบกําหนด 60 วันนั้น”

 

แพร่งที่ 3 ไม่ยุบพรรค โดยพรรคไทยรักษาชาติจะสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองต่อไปได้ตามกฎหมาย

 

สำหรับคณะกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ 14 คน เต็มไปด้วยนักการเมืองรุ่นใหม่และทายาทรุ่นลูก-รุ่นหลานของตระกูลการเมืองดัง หากถูกศาลสั่งยุบพรรคก็เท่ากับว่าคนรุ่นใหม่ทางการเมืองหลายคนดังต่อไปนี้อาจถูกประหารชีวิตทางการเมืองไปโดยปริยาย

 

14 กรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ

 

1. ร้อยโท ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ

2. นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1

3. นางสาวสุณีย์ เหลืองวิจิตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 2

4. นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 3

5. นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล รองหัวหน้าพรรคคนที่ 4

6. รศ.ดร.รุ่งเรือง พิทยศิริ กรรมการบริหารพรรค (แจ้งลาออกแล้ว)

7. นายจุลพงศ์ โนนศรีชัย กรรมการบริหารพรรค

8. นายมิตติ ติยะไพรัช เลขาธิการพรรค ลูกชายนายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำพรรคเพื่อไทย

9. นายต้น ณ ระนอง รองเลขาธิการพรรคคนที่ 1

10. นายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองเลขาธิการพรรค

11. นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรคคนที่ 3

12. นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ

13. นางสาวชยิกา วงศ์นภาจันทร์ นายทะเบียนสมาชิกพรรค

14. นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ เหรัญญิกพรรค

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising