วันเลือกตั้ง

ยื่นร้อง กกต. ยุบพรรคพลังประชารัฐ-ค้านประกาศรายชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ชี้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ

15.02.2019
  • LOADING...

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ หรือ สกสส. พร้อมคณะทำงาน ยื่นหนังสือ กกต. ขอให้ กกต. ไต่สวนพร้อมส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชารัฐ

 

นายวิญญัติกล่าวว่า ในฐานะประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ได้เห็นบุคคลหลายฝ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นบุคคลภายนอกพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ และ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ซึ่งทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่ตนนำมายื่นคำร้องต่อ กกต. ในวันนี้ ซึ่งมี 2 คำร้อง ประกอบด้วยคำร้องที่ 1 ขอให้ กกต. พิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชารัฐใน 4 ประเด็น คือ การเริ่มต้นจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐมีบุคคลที่เป็นตัวแทนดำเนินการโดยมีวัตถุประสงค์ส่อไปในทางที่ไม่สุจริตในการจัดตั้งพรรค

 

มีบุคคลภายนอกเข้าครอบงำการจัดตั้งพรรคโดยเรียกรับผลประโยชน์เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง มีการใช้ตำแหน่งหรือความเป็นเจ้าหน้าที่รัฐของอดีตรัฐมนตรีก่อนที่จะลาออกจากตำแหน่ง เอื้อประโยชน์เป็นคุณหรือเป็นโทษต่อผู้สมัครหรือพรรคการเมือง และประเด็นสุดท้าย พรรคพลังประชารัฐกระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เนื่องจากเห็นว่าการที่ พล.อ. ประยุทธ์ เป็นหัวหน้า คสช. เข้ามาปกครองประเทศด้วยวิธีพิเศษ ถือว่าไม่ได้เป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย อีกทั้งยังยินยอมให้พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน

 

ดังนั้นทั้ง 4 ประเด็นย่อยในคำร้องที่ขอให้ยุบพรรคนั้นเป็นหลักฐานที่ค่อนข้างเชื่อได้อย่างชัดเจนและเป็นที่ยุติทางสังคม และหากการพิจารณาของ กกต. เห็นตรงกัน ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคพลังประชารัฐต่อไป

 

นายวิญญัติกล่าวว่า สำหรับคำร้องที่ 2 ข้อคัดค้านการประกาศชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ ตามมาตรา 88 ของรัฐธรรมนูญ เนื่องจาก พล.อ. ประยุทธ์ ทั้งก่อนและหลังประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง พล.อ. ประยุทธ์เป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ รับเงินและมีตำแหน่งเป็นหัวหน้า คสช. และเป็นกรรมการบริหารในหลายองค์กรของรัฐ ดังนั้นงบประมาณแผ่นดินที่จ่ายเงินเดือนหรือค่าตอบแทนให้ พล.อ. ประยุทธ์คือหลักฐานที่บอกว่า พล.อ. ประยุทธ์คือเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งนี้การเสนอเจ้าหน้าที่รัฐให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะต้องไม่มีคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 14 นอกจาก พล.อ. ประยุทธ์จะต้องให้ความยินยอมแล้ว กรรมการบริหารพรรคและ กกต. ต้องตรวจสอบด้วยว่า พล.อ. ประยุทธ์เป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ดังนั้นการประกาศรายชื่อ พล.อ. ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเชื่อว่า กกต. จะใช้มาตรฐานเดียวกันในการพิจารณา

 

นายวิญญัติกล่าวอีกว่า สำหรับคำร้องและพยานหลักฐานที่ปรากฏ ประกอบกับพยานบุคคลที่ตนจะอ้างในอนาคต หาก กกต. ต้องการ ก็คิดว่ามีพยานหลักฐานที่เพียงพอ ดังนั้น หาก กกต. รับเรื่องแล้วใช้วิธีการประวิงหรือหาทางออกให้กับพรรคพลังประชารัฐในสิ่งที่ไม่เป็นไปตามครรลอง ถือว่า กกต. ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

 

ทั้งนี้หากมีการกล่าวหาว่าการมายื่นคำร้องในวันนี้เป็นการสวนกลับของพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่ามาในฐานะประชาชนที่ไม่ยอมให้มีพฤติกรรมหรือการกระทำใดๆ ที่เอารัดเอาเปรียบทางการเมือง แต่หากจะกล่าวหาอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร เพราะพฤติกรรมของพรรคพลังประชารัฐเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่ก่อนเริ่มจัดตั้งพรรค และก่อนการประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง ดังนั้นจะเป็นการสวนกลับหรือไม่ ก็มีคำตอบด้วยเหตุและผลอยู่แล้ว

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising