- การระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาสร้างความปั่นป่วนไปยังตลาดเงินทั่วโลก และคาดว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากปัจจัยดังกล่าว
- ตลาดการลงทุนที่ผันผวนมากขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ทำให้การลงทุนในช่วงนี้ควรเน้นสินทรัพย์คุณภาพดีและมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
- SCBS แนะนำ WICE เป็นหุ้นเด่นประจำสัปดาห์ จากผลดำเนินงานที่สามารถทำกำไรนิวไฮได้อย่างต่อเนื่อง
- ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นไทยได้ปรับลดน้ำหนักลง 1 ขั้น จากมาตรการล็อกดาวน์รอบล่าสุด ที่มีแนวโน้มส่งผลต่อการบริโภคและธุรกิจหลายภาคส่วน โดยเฉพาะธุรกิจในภาคบริการ
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาเริ่มส่งผลกระทบรอบใหม่ต่อตลาดการเงิน ซึ่งตลาดผันผวนแรงขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะราคาสินทรัพย์เสี่ยง ทั้งตลาดหุ้น น้ำมันดิบ หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อปรับตัวเพิ่มขึ้นรอบใหม่ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ และยุโรป
ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า คาดว่ายังคงได้รับแรงกดดันจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่เป็นสำคัญ ในขณะที่ความพยายามของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในการส่งสัญญาณผ่อนคลายคาดว่าจะมีอิทธิพลต่อตลาดลดลง โดยเราประเมินว่า ประเทศพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐฯ ยุโรป และอังกฤษ อาจต้องกลับไปใช้มาตรการคุมเข้มเพิ่มขึ้น หลังจำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้น
แต่ด้วยระดับการได้รับวัคซีนที่มากกว่า 50% แล้ว ทำให้คาดว่าจะกระทบกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศไม่รุนแรง แต่อาจกระทบกับการเดินทางระหว่างประเทศมากกว่า ส่วนประเทศเกิดใหม่ยังคงมีความเสี่ยงสูงที่การใช้มาตรการล็อกดาวน์ยังจำเป็นต่อไปอีกสักระยะ ซึ่งจะกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและการเดินทางระหว่างประเทศใน 3Q21 อย่างมาก
บล.ไทยพาณิชย์ ประเมินว่า ตลาดการเงินจะเริ่มให้ความสำคัญกับข้อมูลด้านเศรษฐกิจมากกว่าการส่งสัญญาณเชิงนโยบายของธนาคารกลางที่เริ่มสับสน ดังนั้นจึงคาดว่าตลาดการเงินยังคงจะผันผวนต่อไป
สำหรับประเด็นระยะสั้นคือ การระบาดรอบใหม่ของโควิดที่รุนแรงขึ้น ทำให้บางประเทศหรือเมืองต้องกลับมาคุมเข้ม ถือว่าเป็นสัญญาณเสี่ยงที่ต้องติดตาม ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้จึงควรเน้นสินทรัพย์คุณภาพดีและมีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
เหตุการณ์สำคัญรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
- จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกสะสมแตะ 193.0 ล้านคน (สหรัฐฯ 35.1 ล้านคน อินเดีย 31.3 ล้านคน บราซิล 19.5 ล้านคน)
- NEJM ระบุว่า วัคซีน Pfizer และ AstraZeneca มีประสิทธิภาพในการป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลตาได้ดีเมื่อมีการฉีดครบ 2 โดส
- สหรัฐฯ และชาติพันธมิตร ร่วมประณามจีนเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ต่อเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์เมื่อเดือนมีนาคม ขณะที่รัฐบาลจีนปฏิเสธการกระทำดังกล่าว
- อังกฤษประกาศคลายล็อกดาวน์วันที่ 19 กรกฎาคม รวมถึงยกเลิกการเว้นระยะห่างทางสังคม แม้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดจะเพิ่มสูงขึ้น
- กลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันรวมเป็น 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยให้ทยอยปรับเพิ่มเฉลี่ยเดือนละ 4 แสนบาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม
ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาในสัปดาห์นี้
- การประชุม Fed ซึ่งตลาดคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.00-0.25% รวมถึงจับตาการส่งสัญญาณการลดวงเงิน QE
- การประกาศ GDP ไตรมาส 2 ปี 2564 ของสหรัฐฯ (ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 8.0% จากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) จากเพิ่มขึ้น 6.4%QoQ ในไตรมาสแรกปี 2564) และเยอรมนี (ตลาดคาดลดลง 1.5%QoQ จากลดลง 1.8%QoQ ในไตรมาสแรกปี 2564)
- ดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) ของสหรัฐฯ เดือนมิถุนายน: ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 3.7% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) จากเพิ่มขึ้น 3.4%YoY ในเดือนพฤษภาคม
หุ้นเด่นประจำสัปดาห์
บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE
WICE เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจรในไทย โดยให้บริการทั้งการขนส่งทางทะเลและอากาศ การขนส่งในประเทศและการขนส่งข้ามแดน (CBS)
ผลดำเนินงานงวดไตรมาส 2 ปี 2564 คาดกำไรทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 โดยเติบโต 64%YoY และ 11%QoQ จากค่าระวางที่สูงและดีมานด์ที่ดีในทุกธุรกิจ อีกทั้งยังเพิ่มกำลังให้บริการ อาทิ ธุรกิจ CBS มีตู้คอนเทนเนอร์เพิ่ม 200 ตู้ เพื่อรับงานเพิ่ม
สำหรับปี 2564-2565 คาดกำไรโตเฉลี่ยปีละ 26% จากดีมานด์ที่เพิ่มทุกช่องทางตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและแผนขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เราประเมินราคาเป้าหมายอยู่ที่ 10.30 บาท
มุมมองการลงทุนต่อตลาดต่างๆ
ตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว
ระดับความน่าสนใจ: 4
โดยตลาดหุ้นพัฒนาแล้วยังได้รับแรงหนุนจากการดำเนินนโยบายการเงินและการคลังที่ผ่อนคลาย ความคืบหน้าการฉีดวัคซีน และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่แนวโน้มออกมาดีกว่าคาดในหลายภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นพัฒนาแล้วมีแนวโน้มผันผวนในระยะสั้น จากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตา การเกิด Sector Rotation และ แนวโน้มของ Fed ที่ส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วกว่าคาด
กองทุนแนะนำ (มีการปรับเปลี่ยน)
TMB Global Quality Growth Fund หรือ TMBGQG
กองทุน TMBGQG ลงทุนในกองทุน Wellington Global Quality Growth Fund ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่คุณภาพดีทั่วโลก คัดเลือกหุ้นที่มีโอกาสเติบโตสูง กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) มีคุณภาพ มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
SCB Global Experts Fund หรือ SCBGEX(A)
กองทุน SCBGEX(A) เป็นกองทุนหุ้นทั่วโลกที่ลงทุนในสไตล์ Core-Satellite portfolio คัดเลือกกองทุนโดยบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จูเลียสแบร์ โดยกองทุนหลัก (Core) ลงทุนในกองทุน Julius Baer Global Excellence Equity เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพ เติบโต และกำไรสูง และกองทุนเสริม (Satellite) ในหุ้นธีมเมกะเทรนด์หลักของโลก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ
ความน่าสนใจระดับ: 4
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยดัชนีฯ มีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากการทยอยเปิดเมือง มาตรการกระตุ้นการคลัง และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2 ปี 2564 ที่มีแนวโน้มออกมาดี เราแนะนำสัดส่วนการถือครองหุ้นสไตล์ Growth และ Value อยู่ที่ 70:30 เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีแนวโน้มได้รับอานิสงส์จาก US Yield Curve ที่มีแนวโน้มปรับลดความชันลงในช่วงสั้น เช่น หุ้นกลุ่ม Quality ในกลุ่ม Tech Hardware และ Semiconductor
ขณะที่ธีม Reflation Trade และ Reopening ยังคงสนับสนุนการลงทุนหุ้นสไตล์ Value และ Cyclical นำโดยกลุ่มธนาคาร หลังผลการผ่าน Stress Test ทำให้จ่ายปันผลได้มากขึ้นและกลุ่ม Industrials, Materials
กองทุนแนะนำ
SCB US Equity DJI Fund
กองทุน SCBDJI(A) เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ โดยลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี Dow Jones Industrial Average ซึ่งประกอบด้วยหุ้นขนาดใหญ่ 30 บริษัท ซึ่งเป็นธุรกิจชั้นนำของประเทศ และผู้นำในอุตสาหกรรมต่างๆ
ตลาดหุ้นยุโรป
ความน่าสนใจระดับ: 4
ตลาดหุ้นยุโรป โดยดัชนีฯ ยังได้แรงหนุนต่อเนื่องจากภาคบริการที่ฟื้นตัวดี แนวโน้มงบไตรมาส 2 ปี 2564 มีโอกาสเกิด Positive Surprise การฉีดวัคซีนที่ต่อเนื่องและแผนการเปิดประเทศจะช่วยหนุน Sentiment ตลาดต่อเนื่อง
ด้านการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นใน UK และ EU บางประเทศคาดยังไม่ส่งผลกระทบมาก เนื่องจากอัตราการตายต่ำ ผลกระทบจากน้ำท่วมในเยอรมนีและการประท้วงในฝรั่งเศสคาดส่งผลกระทบเพียงช่วงสั้น และความเสี่ยงการเมืองในภูมิภาคยังคงต่ำ
กองทุนแนะนำ
MFC Continental European Equity Fund หรือ MEURO
กองทุน MEURO ลงทุนในกองทุน BGF Continental European Flexible Fund ซึ่งลงทุนในหุ้นยุโรปภาคพื้น (ไม่รวมสหราชอาณาจักร) โดดเด่นในการสร้างผลตอบแทนย้อนหลัง รวมทั้งลงทุนแบบยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนสไตล์การลงทุนและขนาดของหุ้นได้ตามสภาวะตลาด
ตลาดหุ้นจีน
ความน่าสนใจระดับ: 4
ตลาดหุ้นจีนยังได้รับ Sentiment เชิงบวกต่อเนื่อง จากผลของการลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% ขณะที่ Valuation ตลาดฯ ยังไม่แพงเมื่อเทียบตลาดหุ้นโลก และผลประกอบการ บจ.จีน ในไตรมาส 2 ปี 2564 และครึ่งแรกปี 2564 มีแนวโน้มออกมาดี
อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดในด้าน Financial de-risking, Antitrust, Capital Markets และ Data Security ยังคงมีอยู่ แม้ Valuation และผลประกอบการของกลุ่มที่เกี่ยวข้องได้รับแรงกดดันจากเรื่องการตรวจสอบไปมากแล้ว แต่อาจยังมี Downside จากการเข้มงวดในด้านอื่นๆ ขณะที่ ข้อพิพาทระหว่างจีน-ชาติต่างๆ และความตึงเครียดภูมิรัฐศาสตร์ ยังสร้างความผันผวน
กองทุนแนะนำ
KTAM China A Shares Equity หรือ KT-AShares-A
กองทุน KT-AShares-A ลงทุนในกองทุน Allianz Global Investors Fund - Allianz China A-Shares ซึ่งคัดเลือกหุ้นจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทนั้นๆ ในหุ้นจีน A-Share ผลตอบแทนย้อนหลังโดดเด่น
ตลาดหุ้นไทย
ความน่าสนใจระดับ: 3
บล.ไทยพาณิชย์ ได้ปรับลดความน่าสนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทยลงมา 1 ขั้น แม้ว่า Valuation เริ่มน่าสนใจและความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนมีแนวโน้มดีขึ้น แต่การระบาดยังคงรุนแรงต่อเนื่อง แผนการเปิดประเทศในช่วงเดือนตุลาคม และความคืบหน้าการนำเข้าวัคซีนทางเลือกจากภาคเอกชนยังมีความไม่แน่นอนสูง
นอกจากนี้มาตรการล็อกดาวน์รอบล่าสุดมีแนวโน้มส่งผลต่อการบริโภคและธุรกิจหลายภาคส่วน โดยเฉพาะธุรกิจในภาคบริการ แม้ทางการมีมาตรการช่วยเหลือ เช่น การพักชำระหนี้ของลูกหนี้และธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งจาก ธปท. และกระทรวงการคลัง รวมถึงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงก่อนหน้าก็ตาม
การลงทุนทางเลือก
ทองคำ
ความน่าสนใจระดับ: 1
ราคาทองคำมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ สรอ. ที่แข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐฯ ที่ยังมีแนวโน้มทยอยปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะยาว แม้ว่าความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้นจะสนับสนุนการปรับเพิ่มขึ้นของราคาทองคำก็ตาม
REITs ประเทศพัฒนาแล้ว
ความน่าสนใจระดับ: 3
บล.ไทยพาณิชย์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนใน REITs กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วขึ้นมาอยู่ระดับ 3 เนื่องจากมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากการทยอยเปิดเมือง จากความคืบหน้าการฉีดวัคซีนและประสิทธิภาพของวัคซีนที่สามารถรับมือกับสายพันธุ์เดลตาได้ดี
รวมถึงผลประกอบการส่วนใหญ่มีแนวโน้มออกมาดีและดอกเบี้ยที่ทรงตัวในระดับต่ำจะเป็นแรงหนุนการลงทุน อย่างไรก็ตาม มีความเสี่ยงจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ทำให้เรามองว่า Upside ค่อนข้างจำกัด