วันเลือกตั้ง

พลังประชารัฐตอกกลับ ‘ฝ่ายประชาธิปไตย’ เป็นเพียงวาทกรรมสร้างความแตกแยก ถาม 7.9 ล้านเสียงที่เลือกพลังประชารัฐไม่นับเป็นประชาธิปไตยหรือ

โดย THE STANDARD TEAM
27.03.2019
  • LOADING...

ความคืบหน้าหลังจากที่พรรคเพื่อไทย นำทีมอีก 6 พรรคร่วมลงนามในสัตยาบันหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. โดยระบุตัวเลขที่รวบรวมได้คือมากกว่า 255 เสียง และถือเป็นเสียงข้างมากในสภา

 

ล่าสุด พรรคพลังประชารัฐ โดย อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ได้เปิดเวทีแถลงเรื่องความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาล และตอบโต้อีกฝ่ายที่อ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย

 

โดยนายอุตตมระบุว่า ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐได้พูดคุยกับพรรคการเมืองจำนวนหนึ่ง ทั้งพรรคเล็กและพรรคใหญ่ เพื่อรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ และคะแนนเสียงยังไม่เป็นที่ยุติอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงยังมีเวลาที่จะหารือให้เกิดความรัดกุมและเป็นประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน

 

นอกจากนี้เรื่องจำนวนเสียงในปัจจุบัน ยังไม่มีกลุ่มไหนสามารถพูดได้ชัดเจนว่ารวมเสียงได้แล้วเท่าไร เพราะ กกต. ยังไม่ได้สรุปให้เสร็จสิ้น เพราะฉะนั้นการที่มีบางฝ่ายออกมาพูดว่าได้เสียงเท่าไรแล้ว เป็นการเข้าใจไปเอง แต่ไม่ใช่ตัวเลขอย่างเป็นทางการ

 

“วันนี้คะแนนยังไม่นิ่ง จะพูดคุยอะไรกันก็ต้องคำนึงว่าคะแนนยังไม่เป็นทางการ วันนี้ยังมีเวลา กกต. ยังไม่แถลงตัวเลขที่เป็นทางการ เราจะไม่เร่งออกมาแถลงสิ่งใด ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนหรือไม่ หรือจะทำให้เกิดความสับสนมากยิ่งขึ้น ถ้าเราแถลง เราจะแถลงด้วยความชัดเจน มีสาระ เป็นประโยชน์ เพราะตั้งแต่ต้นเราไม่ได้เน้นวาทกรรม”

 

ด้านสนธิรัตน์กล่าวย้ำว่า ขณะนี้ที่พูดกันว่ารวมเสียงได้แล้ว ถือว่ายังไม่มีความชัดเจนทั้งสิ้น เพราะตัวเลขเปลี่ยนแปลงเป็นรายวัน ดังนั้นที่เกิดการรวมตัวกันแล้วอ้างความชอบธรรมนั้น เป็นเพียงกลไกทางการเมือง โดยยังไม่มีที่มาของข้อมูลที่ถูกยืนยัน

 

ซึ่งการอ้างความชอบธรรมนี้ถือเป็นความพยายามในการช่วงชิงความชอบธรรม เมื่อดูจากที่อีกฝ่ายแถลงในวันนี้แล้วยังไม่รู้เลยว่าจะมีกี่พรรคกันแน่ ดังนั้นจึงมองว่าเป็นการฉกฉวยสถานการณ์เท่านั้น พร้อมเน้นย้ำว่าพรรคพลังประชารัฐมีความมั่นใจว่าจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะออกมาประกาศชัยชนะในวันนี้ ทั้งที่สถานการณ์ยังไม่ยุติ

 

นอกจากนี้สนธิรัตน์ยังกล่าวถึงการที่อีกฝ่ายอ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยด้วยว่า ถือเป็นการดูถูกประชาชน และเป็นการสร้างความแตกแยก พร้อมวิงวอนให้ทุกฝ่ายหยุดการกระทำเช่นนั้น

 

“หยุดได้แล้วครับกับการอ้างฝ่ายประชาธิปไตย เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้คะแนนเสียงจะเป็นเท่าไรก็ตาม ทุกคนเข้าสู่การเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย ถ้าไม่เป็นประชาธิปไตยก็คงไม่ลงแข่งขันตั้งแต่วันแรก ถ้าอ้างว่าเป็นเผด็จการ สืบทอดอำนาจพรรคเหล่านั้นก็ไม่ต้องลงเข้าสู่การเลือกตั้ง แต่พอผลการเลือกตั้งออกมา และระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งก็ใช้วาทกรรมฝ่ายประชาธิปไตย

 

“คำถามคือ พี่น้องประชาชนที่เลือกพรรคพลังประชารัฐ 7.9 ล้านเสียง และถือว่ามีเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศมากที่สุด แปลว่าคนเหล่านั้นไม่ต้องเคารพเสียงประชาชนเลยเหรอครับ แปลว่าเสียงประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยจะเป็นเฉพาะเสียงที่พวกเขาได้ประโยชน์เท่านั้นหรือถึงเป็นประชาธิปไตย แล้วพี่น้อง 7.9 ล้านคนที่เลือกพลังประชารัฐ เขาไม่มีสิทธิมีเสียงหรือครับ

 

“ประชาธิปไตยที่แท้คือการเคารพเสียงของทุกคน เคารพพี่น้องประชาชน เคารพแม้กระทั่งเสียงหนึ่งเสียง เป็นพื้นฐานของประชาธิปไตยใช่หรือไม่ แล้วใช้สิทธิอะไรมาเรียกตัวเองว่าฝั่งประชาธิปไตย และเรียกคนที่ไม่ได้ลงคะแนนให้ตัวเองว่าไม่ใช่ประชาธิปไตย ผมถือว่าเป็นการดูถูกประชาชน และเป็นการอ้างประชาธิปไตยเพื่อสร้างความแตกแยกของบ้านเมือง ประชาธิปไตยแบบนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน อยากวิงวอนว่าให้หยุด

 

“วันนี้ไม่มีฝ่ายประชาธิปไตย ไม่มีฝ่ายเผด็จการ พรรคพลังประชารัฐดำเนินการตามครรลองของประชาธิปไตย เพียงแต่พรรคมองว่าบุคคลที่เหมาะสมในสถานการณ์ปัจจุบันคือท่านพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเราเรียนเชิญท่านมาในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี”

 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพลังประชารัฐมีความพยายามจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่ ซึ่งนายอุตตมตอบว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพยายามรวบรวมเสียงให้ได้มากที่สุด คงยังบอกไม่ได้ว่าเท่าไร หรือพูดคุยกับพรรคไหนไปแล้วบ้าง และยังไม่มีการต่อรองเก้าอี้และตำแหน่ง เพราะเสียงยังไม่ลงตัว ต้องรอความชัดเจนจาก กกต. อีกครั้ง

 

เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับพรรคภูมิใจไทยและพรรคเศรษฐกิจใหม่หรือไม่ อุตตมกล่าวว่า ได้พูดคุยกับหลายพรรค แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นพรรคใดบ้าง แต่เรามีความมั่นใจว่าจะรวมเสียงจนจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่วนจะได้เสียงเท่าไรต้องรอดู โดยจะพยายามรวบรวมเสียงให้ได้มากที่สุด และเราคงไม่ตั้งเป้าว่าเราจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากหรือข้างน้อย เพราะเราต้องฟังจากพรรคการเมืองอื่นที่มาร่วมหารือกัน

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising