×

CHAGEE แบรนด์ชาแสนล้านที่โตเร็วกว่า Starbucks เข้าตลาด Nasdaq ได้ใน 8 ปี

09.09.2025
  • LOADING...

คุณเคยเชื่อไหมว่า ‘ร้านชา’ จะโตเร็วกว่า Starbucks? และท้าทายบัลลังก์เครื่องดื่มในระดับโลกได้จริงจัง

 

CHAGEE (ชาจี) แบรนด์ชาเกิดใหม่จากจีนที่เพิ่งเข้าตลาด Nasdaq ไปหมาด ๆ ด้วยมูลค่ากว่า 1.8 แสนล้านบาท ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ทั้งโลกจับตาจากการตั้งไข่ในเวลาเพียง 8 ปี ด้วยสูตรสำเร็จที่ไม่ใช่แค่ ‘ขายชา’ แต่ขายวิธีคิดแบบใหม่

 

🟡 จากเครื่องดื่มเก่าแก่ สู่ไลฟ์สไตล์ระดับโลก

 

เบื้องหลังแบรนด์ CHAGEE มีจุดเริ่มต้นมาจาก Zhang Junjie เด็กไร้บ้านในเมืองคุนหมิงที่เพิ่งเริ่มอ่านหนังสือได้ตอนอายุ 16 สู่ซีอีโอวัย 30 ปีที่นำแบรนด์ของตัวเองเข้าตลาด Nasdaq ได้ในเวลาไม่ถึง 10 ปี

 

ในปี 2017 Zhang Junjie ชายหนุ่มวัยเพียง 22 ปี เล็งเห็นโอกาสในตลาดชาพรีเมียมจากกระแสความนิยมของ Hey Tea จึงตัดสินใจก่อตั้ง CHAGEE ขึ้นด้วยวิสัยทัศน์ที่ไม่ได้มองชาเป็นเพียงเครื่องดื่ม แต่คือโอกาสในการสร้างวัฒนธรรมใหม่ จากการที่ CHAGEE ได้ผสมความพรีเมียม ความร่วมสมัย และรากเหง้าแบบเอเชียเข้าไว้ด้วยกัน 

 

🟡 กลยุทธ์ที่ทำให้ CHAGEE เติบโตแบบก้าวกระโดด

 

CHAGEE วางรากฐานบน 3 เสาหลักที่แน่นและแตกต่าง

 

🔸 1. Product ที่เป็นมากกว่าเครื่องดื่ม

 

CHAGEE ตั้งใจจะมาเป็นเครื่องดื่มที่มาแทน ‘น้ำเปล่า’ ในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ซึ่งในจีนมีราคาขายเริ่มต้น 16-18 หยวน (ประมาณ 75-85 บาท) ทำให้สามารถเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าที่ยอมจ่ายเงินเพื่อคุณภาพ 

 

แบรนด์ใช้ใบชาพรีเมียมจากยูนนาน ชงสดแก้วต่อแก้ว ไม่มีผงชา ครีมเทียม หรือไขมันทรานส์ ทั้งยังค่อยๆ เรียนรู้การตัดเมนูขายไม่ดีออก และโฟกัสที่โปรดักต์ขายดี ทำให้บริหาร supply chain ง่ายขึ้น

 

🔸 2. Branding ที่ยกระดับวัฒนธรรมให้ทันสมัย

 

CHAGEE ไม่ได้ขายแค่ชา แต่ขาย ‘ประสบการณ์วัฒนธรรม’ โดยวางตำแหน่งตัวเองเป็น ‘Modern Oriental Tea Bar’ ที่หรูหราทันสมัยเทียบเท่า Starbucks 

 

ชื่อแบรนด์มาจากงิ้วจีนเรื่อง Farewell My Concubine และโลโก้เป็นภาพนางเอกงิ้ว การตกแต่งร้านเป็นสไตล์ ‘Chinese Chic’ ที่เรียบหรูและแฝงกลิ่นอายวัฒนธรรมจีน

 

🔸3. การขยายธุรกิจอย่างมีระบบ

 

CHAGEE สร้างระบบที่สามารถขยายตัวได้ระดับโลก พวกเขาคุมตั้งแต่ไร่ชาจากยูนนาน ไปจนถึงระบบกระจายสินค้า ทั้งยังวางตัวเองเป็น Tea Bar ที่ลูกค้าเข้ามาเพื่อสัมผัสประสบการณ์ ไม่ใช่แค่เพราะหิวน้ำ

 

โมเดลธุรกิจเป็นแบบแฟรนไชส์ asset-light ที่ขยายตัวได้เร็ว และลงทุนในเทคโนโลยีอย่างเครื่องชงชาอัตโนมัติที่ชงชาได้เร็วแค่ 8 วินาทีต่อแก้ว และผลิตได้ถึง 13,000 แก้วต่อวัน เทคโนโลยีนี้ช่วยแก้ปัญหาความไม่สม่ำเสมอของรสชาติที่เกิดจากมนุษย์ และทำให้การขยายสาขาเป็นไปอย่างมีมาตรฐานเช่นเดียวกับ Starbucks

 

🟡 โตเร็วแบบไม่ธรรมดา

 

แค่ 8 ปี จากร้านเล็กๆ ที่ยูนนาน CHAGEE กลายเป็นเชนร้านชาอันดับต้นๆ ของโลก ด้วยสาขามากกว่า 6,700 แห่งในหลายประเทศ ทั้งจีน มาเลเซีย สิงคโปร์ ไทย และเริ่มบุกตลาดใหม่อย่างอินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ รวมถึงสหรัฐฯ และในตลาดที่ดูเหมือนเล็กอย่างสิงคโปร์ CHAGEE กลับสร้างรายได้เฉลี่ยต่อสาขาสูงถึง 9 ล้านบาทต่อเดือน 

 

ในแง่รายได้ก็เติบโตแบบติดเทอร์โบ

 

🔸ปี 2022 ทำรายได้ประมาณ 2.2 พันล้านบาท

🔸ปี 2023 พุ่งทะยานเกือบสิบเท่า แตะ 2.1 หมื่นล้าน

🔸ปี 2024 เพิ่มอีกเท่าตัวสู่ 5.6 หมื่นล้านบาท

🔸และแค่ไตรมาสแรกของปี 2025 ก็แตะ 2,300 ล้านบาท

 

ความมั่นใจของตลาดก็สะท้อนผ่านจุดยืนของ CHAGEE ในตลาดทุน โดยเดือนเมษายนที่ผ่านมา พวกเขาเข้าจดทะเบียนใน Nasdaq ด้วยสัญลักษณ์ CHA เปิดวันแรก ราคาหุ้นพุ่งขึ้นเกือบ 20% มูลค่าบริษัทแตะ 210,000 ล้านบาท

 

CHAGEE คือเครื่องยืนยันว่า วัฒนธรรมเก่า หากเล่าใหม่อย่างมีกลยุทธ์ ก็สามารถกลายเป็นแบรนด์ระดับโลกได้แม้อยู่ในตลาดที่แข่งขันรุนแรง หากกล้าคิดต่าง วางตำแหน่งชัด และใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด แบรนด์เล็กก็สามารถสร้างพื้นที่ของตัวเองบนเวทีใหญ่ได้เช่นกัน

 

สำหรับผู้ประกอบการไทย คำถามสำคัญอาจไม่ใช่ “จะสู้เขาได้ไหม”

 

แต่คือ “จะเล่าเรื่องของเราให้โลกฟังอย่างไร” ต่างหาก

 

ชมคลิป: https://youtu.be/dwJiYHtBTzE

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising