วันนี้ (29 มี.ค.) พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) โดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่ประธานการประชุม ขณะที่กรรมการบริหารพรรคเดินทางมาประชุม อาทิ นายชวน หลีกภัย, นายกรณ์ จาติกวณิช, นายสาธิต ปิตุเตชะ, นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ, นายนิพนธ์ บุญญามณี และนายอลงกรณ์ พลบุตร
แม้วาระการประชุมจะระบุว่าเป็นการพิจารณางบทางการเงิน แต่สื่อมวลชนต่างจับตาไปที่การเลือกตั้งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ซึ่งอาจมีการแก้ข้อบังคับพรรคในการเลือกตั้ง รวมถึงท่าทีของพรรคว่าจะวางที่ทางอย่างไรในการเมืองหลังเลือกตั้ง
นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรค กล่าวก่อนการประชุมว่า อยากเห็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ต้องเริ่มจากวิธีคิดว่า พรรคต้องการคนแบบใด ไม่ใช่ว่าเป็นคนของกลุ่มใด และเชื่อว่าการสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้อาจได้เห็นคนรุ่นใหม่ลงแข่งขันด้วย
ส่วนทิศทางการเมืองหลังเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รักษาการรองหัวหน้าพรรค ยอมรับว่า สมาชิกมีความเห็นเป็น 2 ทาง คือทั้งจะไปร่วมกับพลังประชารัฐ และเป็นฝ่ายค้าน แต่ส่วนตัวนั้นมองว่า ด้วยเสียงระดับนี้ พรรคควรทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาฯ จะเป็นประโยชน์มากกว่า
บรรยากาศที่พรรคประชาธิปัตย์วันนี้คึกคักไปด้วยสมาชิกพรรค ว่าที่ ส.ส. และผู้สมัครสอบตก รวมถึง ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ อดีตหัวหน้าพรรค เดินทางมาที่ทำการพรรคด้วย โดยได้นั่งกินกาแฟปรึกษาหารือถึงสถานการณ์ทางการเมืองร่วมกับนายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค และนายเทพไท เสนพงศ์ ว่าที่ ส.ส. นครศรีธรรมราช นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ กรรมการบริหารพรรค รวมถึง นายอลงกรณ์ พลบุตร แต่อดีตหัวหน้าอภิสิทธิ์ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคด้วย
ส่วน นายถาวร เสนเนียม ว่าที่ ส.ส. สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้เดินทางมาที่ทำการพรรคในช่วงเช้านี้ หลังจากเมื่อวานนี้นายถาวรได้นัดพูดคุยกับว่าที่ ส.ส. และอดีต ส.ส. สาย กปปส. พร้อมเปิดเผยจุดยืนชัดเจนว่าอยากให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ
สำหรับรายชื่อแคนดิเดตหัวหน้าพรรคคนต่อไปของประชาธิปัตย์ ปรากฏออกหน้าสื่อฯ 4 คนคือ 1. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค 2. นายกรณ์ จาติกวณิช 3. นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรค และ 4. นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์
รายงานข่าวระบุว่า การแข่งขันจะไม่ใช่การทำไพรมารีโหวต แต่จะให้พูดคุยและแสดงวิสัยทัศน์จุดยืนของแต่ละคนต่อสมาชิกพรรค ส่วนตัวเต็งที่ขับเคี่ยวกันมี 2 คน คือ จุรินทร์และกรณ์