อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังการเดินพบปะพี่น้องประชาชนในสวนสุขภาพและตลาดเช้าวันนี้ว่า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่มาให้กำลังใจพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากลงพื้นที่ไปหลายจังหวัด ก็รับรู้ถึงความผูกพันของพี่น้องประชาชนที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์ ล่าสุดไปที่จังหวัดสุโขทัย พี่น้องชาวสุโขทัยก็ออกมาให้การต้อนรับและให้กำลังใจ ทำให้พรรคมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายเริ่มกังวลเรื่อง ส.ว. 250 คน จะรวมกับพรรคพลังประชารัฐชิงจัดตั้งรัฐบาลได้ อภิสิทธิ์กล่าวตอบว่า ตนได้แสดงจุดยืนตั้งแต่ต้นว่าแม้สมาชิกวุฒิสภาจะมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเราอยากให้บ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างราบรื่น เพื่อที่จะเป็นพื้นฐานสำคัญของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อที่จะทำให้ประชาธิปไตยเป็นที่ยอมรับ สมาชิกวุฒิสภาก็ควรจะดูเจตนารมณ์ของประชาชน
“ผมเรียกร้องทุกพรรคการเมืองว่าเราควรจะมาหากระบวนการภายในสภาผู้แทนราษฎรให้ชัดเจน ว่าเสียงข้างมากของ ส.ส. สนับสนุนใครเป็นรัฐบาล สนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าทุกพรรคทำอย่างนี้ก็จะทำให้การเลือกตั้งสะท้อนความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง” อภิสิทธิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าจะไม่เป็นอย่างที่คิดหรือไม่ เมื่อกฎหมายเปิดช่องให้ทำได้ อภิสิทธิ์กล่าวตอบว่า ผมอยากจะบอกกับคนที่คิดจะทำอย่างอื่นว่า อย่าทำเลย ขอให้เห็นแก่ประเทศชาติบ้านเมือง ให้ประเทศชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ให้ชาวโลกมีความมั่นใจในกระบวนการประชาธิปไตยของไทย
ส.ว. ตามโครงสร้างรัฐธรรมนูญทุกฉบับ ต้องการให้มีความเป็นกลาง นับตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา เพราะฉะนั้นในอดีตพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายที่ทักท้วง เวลาที่มีพรรคการเมืองหรือรัฐบาลใดพยายามที่จะเข้าไปครอบงำ ส.ว. ซึ่งถ้า พล.อ. ประยุทธ์ เห็นว่านี่เป็นหลักการที่ถูกต้องท่านก็ควรจะสร้างความมั่นใจในฐานะที่เป็นรัฐบาลขณะนี้ และในฐานะที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในการเลือกตั้งครั้งนี้ ว่าต้องไม่เข้าไปครอบงำวุฒิสภา ความจริงแล้วควรจะพูดว่าให้วุฒิสมาชิกสนับสนุนใครก็ตามที่ประชาชนสนับสนุนให้จัดตั้งรัฐบาล หากพูดอย่างนี้เชื่อว่าประชาชนทุกฝ่ายจะสบายใจ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าท่านเป็นหัวหน้า คสช. มีส่วนในการแต่งตั้งวุฒิสภา มีส่วนได้เสียคือวุฒิสภาสามารถกลับมาเลือกท่านได้ อันนี้เป็นปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน ผลประโยชน์ทับซ้อนไม่ได้หมายความว่าคนที่มีปัญหานี้เป็นคนดีหรือคนไม่ดี แต่เป็นปัญหาที่โดยหลักสากล หลักธรรมาภิบาลไม่ควรจะเกิดขึ้น เพราะจะเกิดคำถามตลอดเวลาว่าการตัดสินใจของแต่ละฝ่ายมีผลประโยชน์อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ เพราะฉะนั้นถ้า พล.อ. ประยุทธ์ อยากให้มีความชัดเจนก็ควรจะประกาศหลักการเช่นเดียวกับที่พรรคการเมืองต่างๆ ประกาศว่าให้ ส.ว. สนับสนุนใครก็ตามที่ประชาชนเลือกมา และสามารถรวบรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความมั่นใจหรือไม่ว่าในส่วนของพรรคที่สนับสนุนรัฐบาลจะไม่ชิงจัดตั้งรัฐบาลกับ ส.ว. 250 คน อภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราไปตอบแทนพรรคการเมืองเหล่านั้นไม่ได้ แต่คิดว่าในขณะนี้ทุกเวทีเราก็จะสอบถามเพราะเราคิดว่าการที่จะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปแบบมาตรฐานสากลน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทย สำหรับปัญหาเศรษฐกิจวันนี้
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์