วันนี้ (3 ธ.ค.) เวลา 11.00 น. พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เลือกซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม ประเดิมเดินสายหาสมาชิกพรรคครั้งแรกเพื่อทักทายประชาชนและพนักงานออฟฟิศย่านสีลมช่วงพักกลางวัน
โดยพลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ กล่าวถึงกรณีถูกทหารแจ้งความดำเนินคดีฐานนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หลังออกรายการโทรทัศน์ และพันเอก วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ระบุว่าทหารไม่ได้แอบ แต่เดินเข้าไปแจ้งความตามปกติ ว่าใครบอกไม่ใช่อีแอบ ถ้าเป็นพันเอก วินธัย พูดต้องบอกว่า “ไอ้หนูเอ๊ย” ขนาด ผบ.ทบ. ยังเรียนจบหลังตนราวๆ 12 รุ่น
“ตอนผมเป็น ผบ.ตร. ทาง ผบ.ทบ. น่าจะยศพันเอก เพราะฉะนั้นพันเอก วินธัย น่าจะแค่ยศร้อยเอก ดังนั้นอย่าทะลึ่งกับพลตำรวจเอกมากนัก และให้รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่บ้าง แล้วไม่เข้าใจกันเหรอคำว่าอีแอบ เห็นบอกว่าไม่ได้แอบ นั่งรถไปแจ้งความดำเนินคดี พวกนี้ไม่เข้าใจกันเลย คำว่าอีแอบคือแอบทำกันข้างเดียว เขาเรียกว่าอีแอบ” พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ กล่าวอีกว่า เท่าที่ตนทราบ การออกหมายเรียกต่างๆ ไม่ได้กระทำตามกระบวนการของกฎหมาย ศาลจึงยกคำร้องออกหมายเรียก โดยตนพร้อมสู้คดี ไม่ได้หนีไปไหน ขอยืนยันว่าสิ่งที่ตนพูดไม่ใช่เรื่องเท็จ แต่เป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะเรื่องการสืบทอดอำนาจ
พร้อมเตรียมให้ทนายความยื่นคำร้องขอตรวจเอกสารต่างๆ ของตำรวจเพื่อพิจารณาว่าจะฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกหมายเรียกตนฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ด้วย แต่อาจยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะคดีดังกล่าวมีอายุความถึง 10 ปี
ส่วนการประชุมระหว่าง คสช. รัฐบาล คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และพรรคการเมือง ถึงการปลดล็อกพรรคการเมืองเพื่อทำกิจกรรมในวันที่ 7 ธันวาคมนี้นั้น พรรคเสรีรวมไทยจะไม่เข้าร่วมประชุมดังกล่าว เพราะตนคุยกับเผด็จการไม่รู้เรื่อง
นอกจากนี้พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ยังประกาศตัวลงสู้ศึกเลือกตั้งหวังเป็นนายกรัฐมนตรี หากพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายชนะ